TikTok กลายเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลที่ร้อนแรงที่สุดในโลก และในสหรัฐฯ เองมีผู้ใช้งานมากถึง 170 ล้านคน แต่ปัญหาก็คือ ความเป็นเจ้าของของ TikTok นั้นโยงกับ ByteDance บริษัทแม่จากจีน

และนี่คือสิ่งที่ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ กังวลมาตลอดว่า ข้อมูลผู้ใช้อเมริกันอาจตกไปอยู่ในมือรัฐบาลจีน หรืออัลกอริทึมของแอปอาจถูกใช้เพื่อชี้นำทางการเมืองและสังคม
แต่ในที่สุด หลังจากยืดเยื้อมาหลายปี เมื่อไม่นานมานี้ทำเนียบขาวก็ประกาศข้อตกลงใหม่ที่ถูกมองว่าเป็นจุดเปลี่ยนของ TikTok ในสหรัฐฯ โฆษกทำเนียบขาวแคโรไลน์ ลีวิตต์ บอกว่าดีลอาจลงนามในอีกไม่กี่วัน แม้ฝั่งปักกิ่งยังไม่ได้แสดงท่าทีอย่างเป็นทางการ แต่คำถามที่หลายคนยังสงสัยคือ ดีลนี้คือการซื้อขาด TikTok US ไปเลยหรือไม่
สิ่งแรกที่เปลี่ยนชัดเจนคือ บอร์ดบริหารของ TikTok US จะถูกควบคุมโดยชาวอเมริกันถึง 6 คน จากทั้งหมด 7 คน นั่นหมายความว่าการตัดสินใจสำคัญ ๆ ทั้งหมด ตั้งแต่การบริหารงาน การลงทุน ไปจนถึงนโยบายคอนเทนต์ จะอยู่ในมือฝั่งสหรัฐฯ
Donald Trump เปิดเผยกับ Fox News เมื่อวันอาทิตย์ว่า Rupert Murdoch และลูกชาย Lachlan Murdoch น่าจะเข้ามามีส่วนร่วมในกลุ่มนักลงทุนของดีล TikTok ที่กำลังเจรจากัน
นอกจากนี้ Trump ยังระบุว่า Larry Ellison ประธานบริหารของ Oracle และ Michael Dell ซีอีโอของ Dell Technologies ก็มีแนวโน้มจะเข้ามามีบทบาทด้วยเช่นกัน แม้เขาจะไม่ได้ชี้ชัดว่าเป็นการลงทุนในนามส่วนตัวหรือผ่านบริษัท
และ ByteDance ในฐานะบริษัทแม่จากจีนจะเหลือเพียง 1 ที่นั่งในบอร์ดเท่านั้น เทียบกับอำนาจที่เคยมีทั้งหมด ถือว่าลดลงจนแทบไม่มีน้ำหนักในการกำหนดทิศทางบริษัทอีกต่อไป
หนึ่งในเงื่อนไขหลักของดีลคือการให้ Oracle บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของอเมริกา รับหน้าที่จัดการเรื่อง data และ privacy ของผู้ใช้ทั้งหมดในสหรัฐฯ
พูดง่าย ๆ คือ ข้อมูลของผู้ใช้อเมริกันจะถูกเก็บ ดูแล และตรวจสอบโดยระบบของอเมริกาเอง ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกส่งกลับไปที่จีน นี่เป็นการแก้ไขข้อกังวลเรื่องข้อมูลหลุดที่ฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐฯ พูดถึงมาตลอด
การที่ Oracle ซึ่งมี Larry Ellison เป็น Chairman และเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของ President Donald Trump เข้ามาคุมส่วนนี้ แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ ต้องการสร้างความมั่นใจว่า ข้อมูลผู้ใช้ในประเทศจะไม่หลุดไปอยู่ในมือจีน
จุดซับซ้อนที่สุดของดีลคือ อัลกอริทึม For You ซึ่งเป็นสูตรลับของ TikTok ที่ทำให้ฟีดคอนเทนต์ติดหนึบ สหรัฐฯ ต้องการควบคุมการทำงานของอัลกอริทึมในประเทศ แต่จีนมีกฎหมายที่ห้ามการโอนขายเทคโนโลยี AI ออกนอกประเทศโดยตรง
Wang Jingtao รองผู้อำนวยการจาก Cyberspace Administration of China (CAC) บอกว่ามีฉันทามติให้ อนุญาตใช้ทรัพย์สินทางปัญญา เช่น อัลกอริทึม แต่ยังไม่ชัดว่าจะทำงานจริงอย่างไร ซึ่งอาจจะเป็นการอนุญาตสิทธิ์ (licensing), การรีเทรนระบบในสหรัฐฯ หรือสร้างระบบควบคุมแยกออกมาก็ได้
ByteDance จะยังคงถือหุ้นใน TikTok US อยู่ แต่ในฐานะผู้ถือหุ้นส่วนน้อย (คาดว่าไม่เกิน 20%) เท่านั้น จากเดิมที่เคยเป็นเจ้าของเต็มตัว ตอนนี้ถูกลดบทบาทจนแทบไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ
จากเจ้าของกลายเป็นเพียงนักลงทุนที่ถือหุ้นเล็กน้อย ไม่มีอำนาจจริงในการกำหนดทิศทางของ TikTok US อีกต่อไป
เมื่อมองให้ชัด ดีลนี้ ไม่ใช่การซื้อขาดเต็มรูปแบบ เพราะอัลกอริทึมและสิทธิ์ทางเทคโนโลยียังคงอยู่กับ ByteDance และจีนยังคงมีเงื่อนไขกฎหมายที่ทำให้การโอนสิทธิ์จริงเป็นไปไม่ได้
แต่ถ้ามองจากมุมของการบริหารจัดการและการควบคุมการทำงานในสหรัฐฯ ดีลนี้คือการย้ายอำนาจทั้งหมดมาอยู่ในมืออเมริกา ตั้งแต่โครงสร้างบอร์ด การดูแลข้อมูล ไปจนถึงการกำกับการทำงานของอัลกอริทึม
สรุปแล้ว TikTok US อาจจะยังไม่ใช่ซื้อขาดในเชิงกฎหมาย แต่ในทางปฏิบัติถือว่า สหรัฐฯ ได้ครอบครองการควบคุมเกือบทั้งหมด
สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ข่าวดีคือ TikTok จะยังคงเปิดให้บริการในสหรัฐฯ ไม่ถูกปิดเหมือนที่เคยถูกขู่กันมาตลอด แต่ในอนาคต การที่อัลกอริทึมอยู่ภายใต้การควบคุมของสหรัฐฯ อาจทำให้รูปแบบการแนะนำวิดีโอเปลี่ยนไปบ้าง
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด