บน Main Stage ของ Techsauce Global Summit 2019 มีประเด็นต่อเนื่องหลังจากที่ Martin Ford นำเสนอประเด็นเกี่ยวกับ AI และ Robotic (ติดตามได้ที่บทความ ทุกสิ่งที่ทุกคนควรรู้เกี่ยวกับ AI และ Robotic ในอนาคตโดย Martin Ford) ซึ่งใน Session นี้ Ben Richardson, CTO ของ Hubba ได้เชิญ Martin Ford และผู้เชี่ยวชาญด้าน AI อีก 2 ท่าน ประกอบด้วย Valentine Goddard, Founder ของ AI Impact Alliance กับ Paolo Sironi ที่ปรึกษาด้าน AI ของ Tech Company ชั้นนำอย่าง IBM และผู้เขียนหนังสือ Fintech Thought Leader มาร่วมพูดคุยในหัวข้อ “Humans Versus Machines in the Future Workplace: Is Artificial Intelligence a Friend or Enemy?”
เริ่มต้นด้วยการถามถึงมุมมองของ Speaker แต่ละท่านที่มีต่อขอบเขตการนำ AI มาใช้ในตลาดแรงงาน โดย Martin Ford กล่าวว่า จากการค้นคว้าของเขาพบว่า AI จะแทนที่งานจำนวนมหาศาลซึ่งสามารถทำการโดยอัตโนมัติได้ แม้แต่งานสื่อสารมวลชนที่ต้องอาศัยความเป็นศิลป์ ก็มีบริษัทที่กำลังพัฒนา AI สำหรับด้านนี้แล้ว
ด้าน Valentine Goddard กล่าวว่า ขอบเขตดังกล่าวขึ้นอยู่กับประชาชน Developer และนักพัฒนานวัตกรรมว่าอยากให้เป็นไปในทิศทางใด ซึ่งทั้ง 3 ควรมองไปที่การใช้ AI ตาม Sustainable Development Goal ไปพร้อมกับตระหนักถึงขอบเขตที่เหมาะสม แน่นอนว่า ยังมีคนจำนวนมากที่ตกหล่นจากการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล หรือ Digital Divide ทำให้การหารือเรื่อง AI ไม่ได้ถูกรับฟังอย่างทั่วถึง เนื่องจากหลายคนยังขาดความรู้เรื่องนี้ ดังนั้น นักพัฒนาจึงควรร่วมมือกับองค์กรทั้งหลายเพื่อผลักดันความเข้าใจถึงขอบเขตการใช้งาน AI ที่เหมาะสสม
ส่วน Paolo Sironi เสริมว่า AI ที่ใช้งานอุตสาหกรรม Fintech ควรจะโปร่งใสกว่านี้ ส่วนสถาบันการเงินและธนาคารก็ควรตระหนักว่า AI สามารถช่วยพวกเขาในกระบวนการตัดสินใจ ซึ่งทำให้เกิดความแม่นยำในการให้บริการมากกว่า
Martin Ford ชี้ว่าธุรกิจทุกวันนี้มีการปรับใช้ AI ในหลากหลายอุตสาหกรรมอย่างรุนแรง ยกตัวอย่างการใช้ AI ประเมินความสามารถและการเลื่อนขั้นของพนักงาน ซึ่งต้องอาศัยการเก็บข้อมูลพนักงานทั้งองค์กร แต่หากการเก็บข้อมูลกระทำอย่างมีอคติหรือความผิดพลาด AI ที่แม้จะทำงานรวดเร็วก็อาจทำให้ชีวิตของคนๆ พังลงได้
ทางด้าน Fintech คุณ Paolo Sironi ให้ความเห็นว่าแม้ธนาคารจะรู้จักลูกค้าจากข้อมูลของพวกเขาเองมากขึ้น แต่ก็ถือเป็นความจำเป็นที่ลูกค้าจะต้องเป็นฝ่าย “ทำความรู้จัก” ธนาคารด้วย โดยมองว่าธนาคารควรเป็นฝ่ายใช้ AI เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริการและผลิตภัณฑ์ทางการเงินแก่ลูกค้าให้ดีกว่าเดิม
ปัญหาความเท่าเทียมในการใช้ AI ไม่ได้มีแต่ขั้นการผลิตเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นกับผลกระทบเมื่อใช้ AI ด้วย ซึ่ง Valentine Goddard ยกตัวอย่างว่าปัจจุบัน ภาค Customer Service ซึ่งส่วนใหญ่มีผู้หญิงเป็นผู้ขับเคลื่อน ถูกทดแทนด้วย AI ที่เกิดจากภาค Technology ซึ่งมีสัดส่วนผู้ชายมากกว่า
เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว Valentine แนะนำว่า Tech Company ควรส่งเสริมให้ผู้หญิงเข้ามาในอุตสาหกรรมมากขึ้น และต้องตระหนักว่า AI ที่จะเข้ามาทำงานด้าน HR มีความสำคัญ เพราะสามารถส่งเสริมหรือทำลาย Workforce ในองค์กรได้เลย
Martin กล่าวว่าการเติบโตของกิจการเทคโนโลยีอย่าง Uber ทำให้เกิดรูปแบบการทำงานใหม่ที่เรียกว่า Gig Economy ซึ่งงานประเภทนี้นอกจากจะไม่มีรายได้ที่แน่นอนแล้วยังมีโอกาสจะโดน Automation ในอนาคต เขาย้ำว่าอนาคตที่เต็มไปด้วย AI และ Automate อาจไม่ได้สวยงามสำหรับทุกคน ทั้งนี้ Martin แนะนำ 2 แนวทางในการแก้ปัญหาดังกล่าวว่าจะเลือกหยุดพัฒนาเทคโนโลยีที่นำไปสู่ Automation หรือเลือกจะสร้างระบบรองรับทุกคนแม้จะมี Automation เช่น ระบบรายได้พื้นฐานสากล (Universal Basic Income)
แม้เทคโนโลยีจะพัฒนาไปไกล แต่สิ่งที่เป็นปัญหาขัดขวางคือความเข้าใจในตัวเทคโนโลยี Valentine Goddard แนะนำว่าวิธีแก้ไขที่เหมาะสมที่สุดคือการเปิด Social Dialogue หรือเจรจาทางสังคม เพื่อให้ประเด็นนี้เป็นที่แพร่หลายในวงกว้าง ซึ่งวิธีการนำเสนอนั้นไม่ต่างจากการให้ศิลปินแนะนำศิลปะของตน เพื่อให้เกิดการสนทนาในตัวเทคโนโลยี
สุดท้ายนี้ Paolo Sironi กล่าวว่า การเข้ามาของ AI นับเป็นโอกาสอันดีที่สถาบันการเงินทั้งหลายจะ Reskill พนักงานบริการ ให้หันมาบริการด้วยการเน้นความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลมากขึ้นเพื่อให้ธนาคารส่งมอบบริการใหม่ได้ดีขึ้นในอนาคต
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด