บทความที่นำเสนอวิสัยทัศน์และประเด็นชวนคิดของผู้นำและผู้บริหารที่มาร่วมพูดคุยบนเวที Spark Talk ใน 'ttb spark REAL change' งานรวมดิจิทัลโซลูชันที่ตอกย้ำศักยภาพความเป็นผู้นำด้าน Digital & Tech ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย ที่จัดขึ้นโดย ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) 

วิสัยทัศน์สู่อนาคตจากงาน 'ttb spark REAL change'

ภายในงาน ttb spark REAL change มีเวที Spark Talk ที่ผู้นำจากหลายองค์กรมาร่วมถ่ายทอดวิสัยทัศน์ในการทำ Digital & Tech Transformation รวมถึงมีหัวข้อที่ผู้บริหารกับทีมงาน ttb spark และพันธมิตร มาเล่าแนวคิดและประสบการณ์ในหลากหลายแง่มุม ซึ่งผู้ประกอบการ ผู้บริหาร คนทำงาน อาจนำไปเป็นไกด์ไลน์หรือประยุกต์ใช้ต่อได้

หัวข้อ 'ttb spark REAL change'

คุณปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวเปิดในหัวข้อ 'ttb spark REAL change' โดยเล่าถึงเป้าหมายองค์กร, แนวคิดในการ Transformation, การสร้างความเปลี่ยนแปลงผ่าน Digital & Tech, การแก้ Pain Point และตอบโจทย์ลูกค้า ดังนี้

• ทีทีบีมุ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการชีวิตทางการเงินได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และปลอดภัยขึ้น จึงสร้างทีม ttb spark มาขับเคลื่อนและพัฒนาโซลูชันด้านดิจิทัล เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายและสร้างอนาคตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับทุกคน
   
• คุณปิติยกตัวอย่างแบรนด์ Apple ในยุคสตีฟ จอบส์ ว่าเป็นบุคคลที่มี Passion มีวิสัยทัศน์ชัดเจน ว่าต้องการอะไร หาพาร์ตเนอร์ และนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อมุ่งตอบโจทย์สิ่งนั้น เช่น ต้องการทำให้จอ iPhone แข็งแรง ก็หาเทคโนโลยีที่มีความทนทานสูงมาประกอบจนสำเร็จ เช่นเดียวกับทีทีบี ที่มี Passion ในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าและมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ชีวิตทางการเงินของลูกค้าดีขึ้น จึงโฟกัสการพัฒนาโซลูชันที่สามารถสร้างผลกระทบให้ลูกค้าและสังคม โดยเริ่มจากการพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะดิจิทัล หาพาร์ตเนอร์ด้านเทคโนโลยีและพันธมิตรทางธุรกิจมาร่วมพัฒนาบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าและทำได้เหนือความคาดหมาย
   
• ผู้คนมีความพร้อมและความกลัวไม่เท่ากัน ธนาคารจึงต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้า และแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมให้ได้ เช่น คนไม่ได้กลัวผลิตภัณฑ์ประกัน แต่ไม่อยากเข้าธนาคารเพราะกลัวโดนขายประกัน จึงไปหาข้อมูลตามเว็บต่าง ๆ , คนต้องการกู้เงินก็ต้องไปหาข้อมูลสินเชื่อและทำความเข้าใจสินเชื่อนั้น ๆ ก่อน ซึ่งเป็น Product Centric ไม่ใช่ Customer Centric ทีทีบี จึงนำ Data ลูกค้ามาทำ 'Personalized Platform' ส่งมอบบริการผ่าน Mobile Banking ที่สามารถแนะนำและบอกสิ่งต่าง ๆ ที่เหมาะกับลูกค้าได้อัตโนมัติ 
   
• ทีทีบี เล็งเห็นว่า คนไทยสามารถพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อใช้เองและทำให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ได้ แต่ขาดโอกาสที่จะทำ ทีทีบี จึงสร้างโอกาสโดยการจัดตั้งทีม ttb spark, ttb spark academy และ ttb spark tech เพื่อสร้างโซลูชันที่สามารถนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสิ่งที่ทีทีบีต้องการพัฒนาให้ลูกค้าซึ่งจะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศอีกทางหนึ่ง 
   
• Make REAL Change ในแบบฉบับของ ทีทีบี จึงไม่ใช่แค่การพัฒนาเทคโนโลยีให้ก้าวล้ำ แต่เป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้า โดยปัจจุบัน ทีทีบี มีลูกค้ามากกว่า 10 ล้านราย มี Data กว่า 6.3 พันล้าน Data Points และมีแอปพลิเคชันกับระบบหลังบ้าน รวมแล้วมากกว่า 360 ระบบ

หัวข้อ 'Digital Transformation: Spark the Future'

สำหรับหัวข้อ 'Digital Transformation: Spark the Future'  โฟกัสที่การแบ่งปันแนวคิดเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมในยุคดิจิทัลเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง โดยมีผู้บริหารระดับสูงจาก 4 องค์กรชั้นนำมาร่วมใน Panel Discussion ได้แก่ คุณฐากร ปิยะพันธ์ President, ttb คุณศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร CEO & Director, MFEC คุณธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ Managing Director, Microsoft Thailand และ ดร.วิโรจน์ จิรพัฒนกุล Co-Founder & Managing Director, Skooldio ที่มาเป็นผู้ดำเนินการเสวนาร่วมกับคุณฐากร ปิยะพันธ์

คุณศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร CEO & Director, MFEC 

• 'เทคโนโลยี' ก็เหมือน 'หุ้น' มีโอกาสที่จะใช้แล้วขาดทุนหรือใช้แล้วได้กำไร
  
  
• People - Process - Technology ในสามสิ่งนี้ People สำคัญที่สุด เพราะเป็นผู้ใช้เทคโนโลยีและสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ 
  
  
• Productivity ของมนุษย์ต่างกัน ต้องคิดแล้วใช้งาน AI เท่านั้นจึงจะเห็นผล และก่อนใช้ AI ในองค์กร ให้แต่ละคนประเมินตัวเองว่า สิ่งที่ทำจัดอยู่ในงานประเภทไหน 
  • งานที่ทำอย่างไรก็สู้คนอื่นไม่ได้
  • งานที่ทำแล้วดีเท่า ๆ ที่คนอื่นทำ
  • งานที่ทำแล้วดีกว่าคนอื่นแน่นอน
    
    
• การใช้ AI ต้องใช้ให้คุ้นเคย อย่าใช้ AI เป็นแค่อีกหนึ่งเครื่องมือ แต่ให้ใช้จน AI กลายเป็นสมาชิกของทีม 
  
  
• ในวันที่ Intelligence กลายเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ เรายิ่งต้องมี Logic หรือตรรกะความคิดที่ถูกต้อง เพราะถ้าไม่มี Logic แล้ว AI พาหลง จะทำให้เราหลงทางได้เร็วมาก
  
  
• เทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็วและโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ทำให้คนมีความสามารถในการคิดซับซ้อนและมีสมาธิยาว ๆ น้อยลงเรื่อย ๆ แนะนำให้หากิจกรรมมาทำแทนการเสพโซเชียล เช่น ตีเทนนิส เล่นโยคะ เบนความสนใจไปทางอื่นเพื่อไม่ให้ใช้เทคโนโลยีจนเป็นพิษ

คุณธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ Managing Director, Microsoft Thailand 

• ไม่เคยเห็นเทคโนโลยีอยู่ในทุกอุตสาหกรรม ทุกโปรไฟล์ ทุกประเทศ ได้มากเท่าตอนนี้ จึงเป็นโชคดีของคนเทคที่จะได้สร้างผลกระทบให้ธุรกิจโดยตรง
  
  
• AI เป็นโอกาสสำหรับทุกคนและทุกอุตสาหกรรม ซึ่งในปัจจุบันมีโมเดลมากมายให้เลือกใช้ โดยส่วนใหญ่เลือกจาก 1) โมเดลที่ถูกที่สุด 2) โมเดลที่ดีและให้คำตอบที่แม่นยำที่สุด และ 3) โมเดลที่มีการตอบสนองมนุษย์ได้รวดเร็วทันใจ
  
  
• Productivity ที่เกิดจาก AI นั้นมหาศาล โดยสิ่งที่ชัดที่สุดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คือ Employee Productivity ยกตัวอย่างการใช้ Github Copilot เพิ่ม Productivity ให้โปรแกรมเมอร์ได้มากถึง 40-50% 
  
  
• ปีนี้จะเห็นการใช้ AI จริง Adoption จริง สร้างผลกระทบจริง และ AI Agents จะเข้าไปซัพพอร์ตหลาย ๆ ด้าน 
  
  
• ผู้ใช้งาน AI สามารถสร้าง AI Agents ได้เองและมากเท่าไหร่ก็ได้ การใช้งาน AI Agents จึงเป็นแบบไฮบริดระหว่าง Low Code กับ High Code (ไม่ว่าจะรู้เรื่องโค้ดน้อยหรือมากก็สามารถสร้าง AI Agents ได้)
  
  
• Digital Disruption ทำให้เกิด 'Digital Divide' คือ คนที่ใช้ดิจิทัลกับคนที่ไม่ได้ใช้จะมีช่องว่าง และคนที่ใช้ AI ได้จะมีความได้เปรียบมหาศาล 
  
  
• ถ้าทุกคนใช้ AI เหมือนกัน โมเดลเดียวกัน ความต่างจะอยู่ที่ 'ผู้ใช้งาน' ถ้าเป็นผู้ใช้งานที่มีความรู้ มีประสบการณ์จะใช้ AI แล้วต่อยอดได้ดีกว่า
  
  
• เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในองค์กร ต้องมีการบังคับใช้ AI เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งาน ตลอดจนเปลี่ยนมายด์เซ็ต ตั้งแต่ผู้นำหรือผู้บริหารระดับสูง เพราะด้วยตำแหน่งงานที่อยู่ในระดับสูง สามารถเลือกได้ว่า จะใช้คนหรือจะใช้ AI ทำสิ่งต่าง ๆ ถ้าไม่เปลี่ยน ทีมไม่เปลี่ยน องค์กรก็จะไม่เปลี่ยน

ดร.วิโรจน์ จิรพัฒนกุล Co-Founder & Managing Director, Skooldio 

• AI เป็นเหมือนตัวคูณ ถ้าทำเหมือนคนอื่นก็ไม่มีอะไรโดดเด่น แต่ถ้าเรามี Critical Thinking และมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าคนอื่น AI จะเป็นตัวคูณที่ทำให้เราไปได้ไกล 
  
  
• สิ่งหนึ่งที่มักจะบอกผู้บริหารเสมอ คือ ถ้าเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไหน AI ก็จะรู้น้อยกว่าเรา แต่ถ้าเราไม่รู้ด้านไหน AI ก็จะฉลาดกว่าเรา เช่น ถ้าเราไม่รู้เรื่องแบงก์ AI ก็จะรู้มากกว่าเรา 
  
  
• ทุกวันนี้เทคโนโลยีเปลี่ยนเร็วกว่าองค์กรและองค์กรไม่สามารถเปลี่ยนคนได้ทัน ปัญหาจึงอยู่ที่ ‘ผู้นำ’ ว่ามีมายด์เซ็ตอย่างไร เห็นความสำคัญของการนำเทคโนโลยีมาใช้หรือไม่ แล้วจะทำอย่างไรให้ทีมได้ใช้เทคโนโลยีที่ใหม่ที่สุด ถูกที่สุด และสร้าง ROI ได้มากที่สุด 
  
  
• ที่ Silicon Valley มีคนกล่าวไว้ว่า ถ้าจะหาซีอีโอ ให้หาคนที่เก่งหรือเข้าใจเทคโนโลยีมากที่สุดและอยู่กับองค์กรมานาน เพราะเทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
  
  
• ทักษะหนึ่งที่จะสำคัญมากขึ้นและมนุษย์ทำได้เหนือกว่า AI คือ Interpersonal Skill การสื่อสารระหว่างบุคคลและปรับตัวเข้ากับผู้อื่น ซึ่งจะทำให้คนอื่นอยากคุยกับเรา เราสามารถโน้มน้าวใจคนอื่นได้ แสดงความเห็นอกเห็นใจได้ ทำให้เกิดความเชื่อใจตามมา
  
  
• องค์ประกอบ 3 ด้านที่คนทำงานรุ่นใหม่ต้องมี 1) Digital Literacy ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้และสามารถใช้จนเก่งกว่าคนอื่น 2) Human Skills มีทักษะความเป็นมนุษย์ที่ทำให้อยู่เหนือ AI และ 3) Advanced Skill มีทักษะขั้นสูงในการสร้างนวัตกรรมใหม่ให้องค์กรได้ ซึ่งอาจนำไปสู่โมเดลธุรกิจใหม่

‘ttb spark’ ทีมที่พลิกโฉมอุตสาหกรรมการเงินของ ttb และขยายสู่ 'ttb spark tech'

คุณนริศ อารักษ์สกุลวงศ์ Chief Strategy and Digital Group, ttb เล่าไทม์ไลน์การจัดตั้งทีม ttb spark ในปี 2022 และการพัฒนาแอป ttb touch

คุณนริศ อารักษ์สกุลวงศ์ Chief Strategy and Digital Group, ttb มาเล่าในหัวข้อ 'ttb spark story' โดยมัดรวมเรื่องไทม์ไลน์การทำ Transformation, หน่วยงานหลักต่าง ๆ ที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อน Digital & Tech อย่างครบวงจร, แนวคิดเกี่ยวกับการสร้างโซลูชันไปจนถึงการออกแบบโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อทำให้ทุกบริการของทีทีบีเป็นไปอย่างราบรื่นและมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ใช้บริการโซลูชันด้านดิจิทัล โดยมี 3 หน่วยงานหลักที่เป็นกำลังสำคัญก็คือ 

• ttb spark - ก่อตั้งเมื่อ 3 ปีที่แล้ว จากทีมที่มีไม่กี่สิบคน ขยายจนปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 700 คน โดยมีเป้าหมายเดียวกันในการพัฒนา Digital Innovation และขับเคลื่อน Business Transformation ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล 
   
• ttb spark academy - ก่อตั้งขึ้นเพื่อเร่งสร้างศักยภาพทางด้านดิจิทัล (Digital Capabilities) โดย ttb spark academy มุ่งเน้นที่การ Build - Groom - Grow บุคลากรรุ่นใหม่ โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษาฝึกงานได้มีส่วนร่วมในโปรเจ็กต์จริงของธนาคาร ขณะเดียวกันก็ Upskill & Reskill พนักงานเดิมให้สามารถทำงานด้านดิจิทัลได้อย่างเต็มศักยภาพ
   
• ttb spark tech - เป็นทีมที่ตั้งขึ้นล่าสุดเพื่อดูแลด้าน IT และ Infrastructure ซึ่งเป็น 'โครงสร้างหลังบ้าน' ของดิจิทัลโซลูชันทางการเงินของทีทีบี และทำให้ดิจิทัลโซลูชัน ของทีทีบีเชื่อมต่อได้อย่างราบรื่น มีความเร็วสูง และปลอดภัย 

จากนั้นคุณนริศเปิดเผยตัวเลขการใช้งานแอป ttb touch ว่า ในแต่ละวันมีผู้เข้าใช้งานแอปมากกว่า 1.4 ล้านราย มีการทำธุรกรรมทางการเงินมากกว่า 4 ล้านครั้ง จากยอดผู้ใช้งานแอปทั้งหมด 5.5 ล้านราย

คุณนริศเล่าย้อนถึงช่วงขอให้บอร์ดอนุมัติเรื่องการจัดตั้งทีม ttb spark เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ว่า "การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าเราไม่ได้ Buy in จากคนที่ทํางานอยู่ในธนาคารอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น เราจึงตัดสินใจที่จะเซ็ตอัป 'ttb spark' เป็นยูนิตหนึ่งในธนาคาร เพราะเราเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะสําเร็จได้ก็ต่อเมื่อเราสามารถผสาน 'Young Blood คนสายดิจิทัล สายเทคของ ttb spark' กับ 'Old Blood คนที่ทำ Banking มาโดยตลอด และมีความรู้ความเข้าใจเรื่องระบบการเงินการธนาคารอย่างแท้จริง' 

"ซึ่งในวันที่ขอจัดตั้งทีม ผมได้รับคําถามจากบอร์ดเยอะแยะมากว่า 'แน่ใจเหรอที่เราจะทําได้แตกต่างจากทุกธนาคารในประเทศไทย?' มองย้อนกลับไปจะเห็นว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะเราไม่มีวันทําได้ด้วยสปีดนี้ ด้วยสเกลนี้ ถ้าเราเป็นยูนิตแบบทีมเสริม (Subsidiary) ที่อยู่นอกธนาคาร" 

ปิดท้ายด้วยหัวข้อ 'ttb spark tech: Transformation Journey' ที่มีผู้บริหารจาก ttb คุณสุทธิกานต์ รุ่งศรีทอง Chief Information Officer และ คุณรัชกร ชยาภิรัต Chief Technology Group ร่วมด้วย คุณพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ Chief Executive Officer บริษัท โชว์ไร้ขีด จำกัด มาร่วมพูดคุยเรื่องการทำ Digital & Tech Transformation ของ ทีทีบี 

คุณสุทธิกานต์ รุ่งศรีทอง Chief Information Officer, ttb

• Transformation Journey ของแต่ละองค์กรมีแนวทางต่างกันไป สำหรับทีทีบีใช้ Digital Capability เป็นตัวนำ โดยดูว่าทำอะไรไปเพื่ออะไร และจุดมุ่งหมาย (Purpose) ต้องชัด ไม่ใช่การใช้เทคโนโลยีเป็นตัวนำ ว่าต้องใช้ขั้นสูงที่สุดหรือซับซ้อนที่สุด แต่มุ่งไปที่การใช้เทคโนโลยีนั้นทำเพื่ออะไร ทําไปแล้วลูกค้าจะมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นได้อย่างไร
   
• เหตุที่ต้องสร้าง ttb spark tech เพราะทีทีบีให้ความสำคัญเรื่อง คน (People) และต้องการพัฒนาคนเพื่อให้คนทำสิ่งที่ตอบโจทย์องค์กรในอนาคตได้ ทีทีบีจึงทำ Transformation ภายในองค์กร ให้คนของทีทีบีช่วยกันคิดช่วยกันทำสิ่งต่าง ๆ โดยไม่ได้ทำแบบ Top-down (พัฒนาองค์กรโดยสื่อสารจากบนลงล่าง) เพียงอย่างเดียว แต่ทำแบบ Bottom-up (พัฒนาองค์กรโดยสื่อสารจากล่างขึ้นบน) ด้วย และทีม ttb spark ไม่กี่สิบคน ขยายจนมีเกือบ 700 คน มีผลงานเด่นคือ การสร้างแอปพลิเคชันขึ้นมาใหม่ โดยใช้เทคโนโลยี Stack ที่ควรใช้ ใช้คนในองค์กรดีไซน์ UX UI ทำให้ธนาคารมีเทคโนโลยีของตัวเอง คัสตอมตามความต้องการของลูกค้าได้ ลดการพึ่งพาซอฟต์แวร์ต่างชาติที่ไม่สามารถคัสตอมได้ตามความต้องการได้ 100% 
   
• การตั้งทีม ttb spark tech เป็นการพัฒนาคนเพื่อทำให้โครงสร้างหลังบ้านแข็งแกร่ง และส่งมอบบริการที่ดีที่สุดให้ลูกค้า โดยทำให้งานหลังบ้านสัมพันธ์กับงานหน้าบ้าน ซึ่งก็คือ งานบริการของพนักงานสาขา เพราะพนักงานสาขาควรจะตอบสิ่งที่ลูกค้าถามได้ทุกอย่าง ทีม ttb spark และทีม ttb spark tech จึงช่วยให้พนักงานบริการได้อย่างไร้รอยต่อ (Seamless) มากที่สุด โดยมีเครื่องมือต่าง ๆ ให้ใช้เพื่อเป็นตัวช่วยในการให้บริการได้ดียิ่งขึ้น
   
• ทีทีบีเปิดรับคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมงาน สำหรับคุณสมบัติที่มองหา คือ 1) ชอบความท้าทาย ด้วยโครงสร้างองค์กรที่มี Dynamic สูงมาก จึงมีโอกาสเข้ามาสร้างสิ่งใหม่ สร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นจริง 2) รู้ว่าสิ่งที่จะทำนั้นมีคุณค่าและต้องการสภาพแวดล้อมการทำงานที่สื่อสารได้อย่างเปิดกว้าง มีสิทธิ์มีเสียงได้ ไม่ต้องรับฟังคำสั่งเพียงอย่างเดียว และ 3) ต้องการทำให้ชีวิตทางการเงินของคนไทยและลูกค้าดีขึ้น

 คุณรัชกร ชยาภิรัต Chief Technology Group, ttb 

• เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่ตรงใจที่สุด งาน Interface หน้าบ้านของทีทีบี เน้นที่การทำสิ่งที่ลูกค้าจับต้องได้ง่ายและส่งผลกระทบมาก ซึ่งสัมพันธ์กับระบบหลังบ้านที่ต้องทำงานร่วมกันเป็นทีมเหมือนเล่นฟุตบอล ซึ่งถ้าเทียบงานหน้าบ้าน ตอนนี้ทีทีบีมีประมาณ 30 แอปพลิเคชัน ส่วนงานหลังบ้านมีประมาณ 300 กว่าแอปพลิเคชัน เรียกว่า ทีทีบีอยู่ในจุดที่มีความสามารถทั้งในด้านความรู้และจํานวนคน มากพอที่จะทำสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากกว่านี้และเร็วกว่านี้ 
   
• เนื่องจากซอฟต์แวร์ต่างชาติไม่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าในประเทศไทยได้ทุกเรื่อง ทั้งยังมีเทคโนโลยี Gen AI เข้ามา มีความคาดหวังของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ธนาคารจึงต้องการสร้างเทคโนโลยีขึ้นเอง และตั้งทีม ttb spark tech ขึ้นเพื่อพัฒนาโครงสร้างหลังบ้านเพื่อการใช้งานโดยเฉพาะ
   
• ttb spark tech มีโครงการใหญ่ที่เรียกว่า IT Day2 คือ IT Transformation ของ ttb spark tech ซึ่งจัดทำหลายโครงการ หนึ่งในนั้นคือ เปลี่ยนวิธีสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้า เปลี่ยนวิธีการขาย วิธีการบริการ ทีมหลังบ้านทั้ง ttb spark และทีม ttb spark tech กำลังทำงานร่วมกับทีมหน้าบ้านที่คอยให้บริการลูกค้า โดยสิ่งที่จะเริ่มเห็นในปีนี้คือ การใช้งานแบงก์กิงบนแท็บเล็ตของฝั่งพนักงาน ซึ่งจะมีเครื่องมือต่าง ๆ ในการเก็บข้อมูลลูกค้าได้เร็วขึ้น ตอบโจทย์ลูกค้าได้มากขึ้น และทําให้ชีวิตทางการเงินของลูกค้าดีขึ้น
   
• ฝากทิ้งท้ายว่า ttb spark tech เปิดรับคนรุ่นใหม่ DNA ที่มองหา คือ D-A-R-E มีความกล้าที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย ซึ่งประกอบไปด้วย 
  • Daring กล้ายืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง และดีที่สุดสำหรับลูกค้า 
  • Agile กล้าล้ม ลุกเร็ว เพื่อเรียนรู้และพัฒนาให้เร็วกว่า 
  • REAL ทุกสิ่งที่ทำ จับต้องได้จริง 
  • Energetic เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง และสนุกกับการได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่

สำรวจ Ecosystem บนแอป ttb touch ในงาน 'ttb spark REAL change' 

งาน 'ttb spark REAL change' จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 โดยภายในงานมีการจัดแสดง Digital Solutions ที่ช่วยพลิกโฉมประสบการณ์ทางการเงินของลูกค้าอย่างหลากหลาย 

นอกจากเวที Spark Talk ทีทีบี ยังจัดพื้นที่แสดงผลงานดิจิทัลโซลูชันที่เปลี่ยนโฉมการให้บริการของธนาคารหลากหลายด้าน ซึ่งฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็มีการใช้งานจริงบนแอปพลิเคชัน ttb touch เช่น

• My Credit - ลูกค้าสามารถเช็กสุขภาพเครดิตตัวได้ด้วยตัวเองผ่านฟีเจอร์ในแอป ttb touch ไม่ว่าจะเป็นการประเมินวงเงินสินเชื่อเบื้องต้นสำหรับวางแผนซื้อรถ ซื้อบ้าน หรือขอสินเชื่อบุคคล และสามารถรู้ผลการประเมินวงเงินสินเชื่อได้ภายใน 2 นาที
  
  

• My Home - ฟีเจอร์สำหรับคนมีบ้าน ทั้งเรื่องการแจ้งเตือนเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในบ้าน ค่าประกันบ้าน ดูประวัติการชำระบิลต่าง ๆ การขอสินเชื่อบ้าน ไปจนถึงการเช็กค่าฝุ่น PM2.5 ในบริเวณที่อยู่อาศัยได้
  
  

• My Car - ฟีเจอร์ที่ช่วยจัดการทุกเรื่องของคนมีรถ ทั้งการจ่ายสินเชื่อ ซื้อ-ต่อประกันรถ ต่อ พ.ร.บ. / ภาษีรถ เติมเงิน-เช็กยอด Easy Pass รวมถึงยังสามารถเลือกขายรถผ่านลานประมูล พร้อมเลือกซื้อรถมือสองคุณภาพดีผ่าน Roddonjai.com และหากลูกค้ามีปัญหาชีวิตติดขัด ก็สามารถขอสินเชื่อรถแลกเงินผ่านแอป ttb touch ได้
  
  

• My Work - ฟีเจอร์ที่ช่วยจัดการทุกเรื่องของคนทำงาน/มนุษย์เงินเดือน เงินเดือนเข้าก็รู้ ตัดประกันสังคมก็เห็น จ่ายภาษีก็มีรายละเอียดในแอป ทั้งยัง        สามารถลงเวลาเข้างาน เลิกงาน ผ่านแอป แทนการแตะบัตรเข้า-ออกจากออฟฟิศได้ 
  
  

• ttb smart shop บริการที่ช่วยให้เจ้าของธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูลและวางแผนธุรกิจได้อย่างแม่นยำ
  
  

• Yindee Chatbot ที่พัฒนาโดยใช้ Generative AI ลูกค้าสามารถสอบถามข้อมูลได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องรอสาย Contact Center
  
  

• Gamification เป็นการผสมผสานเกมเข้ากับการทำธุรกรรมทางการเงิน สำหรับลูกค้าที่ทำ Mission สำเร็จจะได้รับรางวัลพิเศษ เพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้าบนแอป ttb touch 

ในงานนี้ยังมีการเปิดตัว ttb enterprise โซลูชันใหม่ที่มาในรูปของ Humanized Digital Platform ซึ่งนำเอาเทคโนโลยีมาเป็นผู้ช่วยและคู่คิดให้กับพนักงานสาขาและ Contact Center สามารถเชื่อมโยงข้อมูลได้อย่างไร้รอยต่อกับระบบหลังบ้าน ช่วยคัดสรรสิทธิประโยชน์และโปรโมชันที่ตรงใจให้ลูกค้าได้แม่นยำ รวดเร็ว และใช้งานสะดวกยิ่งขึ้นบนแท็บเล็ตและไอแพด   

บทความนี้เป็น Advertorial