ฤาชีวิตต้องถูกลิขิตด้วย AI เมื่อองค์กรใหญ่ระดับโลกใช้ปัญญาประดิษฐ์สัมภาษณ์งานแทนมนุษย์ | Techsauce

ฤาชีวิตต้องถูกลิขิตด้วย AI เมื่อองค์กรใหญ่ระดับโลกใช้ปัญญาประดิษฐ์สัมภาษณ์งานแทนมนุษย์

สำหรับองค์กรใหญ่ระดับโลก ทุกกระบวนการทำงานที่เกิดขึ้นล้วนใหญ่ไม่แพ้องค์กร โดยเฉพาะกระบวนการสมัครงาน ซึ่งบางครั้งอาจมีผู้ส่งใบสมัครเข้ามานับพันรายต่อตำแหน่ง แน่นอนว่าด้วยจำนวนมหาศาลย่อมเพิ่มภาระให้กับ HR อันนำไปสู่คุณภาพการคัดเลือกที่ลดลง ทำให้ได้คนไม่เหมาะสมกับตำแหน่งและเกิดปัญหาในระยะยาวได้

ซึ่งล่าสุด Unilever ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ระดับโลก ได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จาก Tech Company จากสหรัฐฯ มาใช้ในขั้นตอนสัมภาษณ์ผู้สมัครงานที่ประเทศอังกฤษ ตัวระบบจะอำนวยความสะดวกแก่ทั้งองค์กรและผู้สัมภาษณ์ด้วยขั้นตอนเบื้องต้นที่เกิดขึ้นบน Online Platform โดยใช้ AI ช่วยประเมินเกณฑ์ต่างๆ ผ่าน Videocall และแบบสอบถามตามสายงาน

Hirevue บริษัทผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบเทคโนโลยีเพื่อการสัมภาษณ์งานออนไลน์อธิบายถึง Solution ดังกล่าวว่า พวกเขาใช้เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าผสานกับปัญญาประดิษฐ์ในขณะผู้สัมภาษณ์กำลังตอบคำถามผ่านช่องทางออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น Smartphone หรือ Laptop โดย AI จะวิเคราะห์อารมณ์บนใบหน้าอย่างละเอียด โทนเสียงและความเร็วในการพูดของผู้สัมภาษณ์ ไปจนถึงลักษณะภาษาที่ใช้ โดยนอกจาก Uniliver แล้ว บริษัทในหลากหลายอุตสาหกรรมทั้งโรงแรมเครือ สายการบิน และบริษัทพลังงานได้เริ่มใช้ระบบดังกล่าวบ้างแล้ว

บริษัทผู้ออกแบบเทคโนโลยีดังกล่าวเคลมว่าระบบจะช่วยให้ HR สัมภาษณ์ผู้สมัครได้จำนวนมากขึ้น ทั้งยังช่วยลด “อคติ” จากการตรวจคุณสมบัติผู้สมัครด้วย CV หรือประวัติรูปแบบอื่นๆ เพียงอย่างเดียว

หลายฝ่ายช่วยกันชี้ “ข้อบกพร่อง” เมื่อหุ่นยนต์มาเลือก “คนทำงาน”

อย่างไรก็ตาม นักวิชาการเตือนว่าเทคโนโลยีเกี่ยวกับ AI ล้วนมีโอกาสสร้าง “อคติ” จากชุดข้อมูลที่ผ่านมา โดยเฉพาะข้อมูลรับสมัครบุคลากรที่บางองค์กรคัดเลือกโดยแบ่งสถาบันหรือวิชาชีพอยู่แล้ว รวมถึงอาจจะ “คัดออก” Talent มากความสามารถแต่ขาดคุณสมบัติมาตรฐานบางอย่างโดยไม่มีโอกาสชี้แจงหรือปรับตัว

Anna Cox ศาสตราจารย์ด้าน Human-Computer Interaction จาก UCL ระบุว่า หากพึ่งเทคโนโลยีมากไป ระบบอาจจะเลือกผู้สมัครที่เตรียมตัวสัมภาษณ์เก่งเพื่อเอาชนะคะแนน AI แทนที่จะเลือกผู้สมัครที่อ่อนการสัมภาษณ์แต่มุ่งเน้นประสิทธิภาพการทำงาน

Griff Ferris นักวิชาการด้านกฎหมายและมาตรการรัฐจาก Big Brother Watch กล่าวว่า การที่ระบบทำหน้าที่ตรวจสอบจากวิธีพูด ใบหน้า และท่าทาง ทำให้ผู้สมัครที่มีความสามารถแต่บกพร่องเล็กน้อยในส่วนนี้พลาดโอกาสที่จะร่วมงานกับองค์กร และแม้ว่า AI จะถูกฝึกด้วยชุดข้อมูลมหาศาลและกว้างขวางเพียงใด แต่ก็มีโอกาสเจออคติที่นำไปสู่การแบ่งเขาแบ่งเราได้

อ้างอิงข้อมูลจาก telegraph.co.uk

ขอบคุณภาพประกอบจาก hirevue.com 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

แนะเทรนด์ลงทุนในสตาร์ทอัพปี 2024 พร้อมช่องทางใหม่ในการระดมทุนจากงาน KATALYST TALK MEETUP #3

บทความที่เอสเอ็มอี สตาร์ทอัพควรอ่านเพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการเผชิญความท้าทายในปีนี้ จากการรับฟังภายในงาน KATALYST TALK MEETUP #3 ‘Navigating the Startup Challenges in 2024 and Beyond’...

Responsive image

เตรียมพบกับงาน SEA Blockchain Week 2024 (SEABW) ยกขบวนกูรูผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชน และ Web 3 ระดับโลกกว่า 100 คน มาร่วมพูดคุยแบ่งปันประสบการณ์ที่เมืองไทย

Southeast Asia Blockchain Week หรือ SEABW งานด้านบล็อกเชนสุดยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาค ที่เตรียมจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในวันที่ 24-25 เมษายน 2567 ซึ่งจะจัดขึ้น ณ True ICON HALL ช...

Responsive image

กระทรวง AI : เมื่อ AI อันตรายเกินกว่าจะปล่อยไว้ โลกเร่งออกกฎควบคุม

AI กลายเป็นสิ่งที่ต้องถูกควบคุมด้วยกฎหมาย และต้องถูกจับตาดูโดยหน่วยงานของรัฐบาลอย่าง ‘กระทรวง AI’ ที่มีอำนาจ และความสำคัญไม่แพ้หน่วยงานอื่น ๆ แต่ทำไม AI ต้องถูกควบคุมโดยรัฐบาล ? กร...