เปิดนวัตกรรม ‘Unitree’ หุ่นยนต์ AI พิชิตงานอันตราย กับอนาคตที่มนุษย์ไม่ต้องเสี่ยงอีกต่อไป

ภายในงาน CP Innovation Exposition & Symposium 2025, XiaoLi Chen (Irving Chen) จาก Unitree Robotics ได้ขึ้นมานำเสนอภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจของวงการหุ่นยนต์ ไม่ใช่เพียงในฐานะผู้ผลิต แต่ในฐานะผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมหุ่นยนต์อัจฉริยะ (Intelligent Robot Industry Pioneer) Unitree ได้เปิดเผยมิติที่ลึกซึ้งกว่าแค่การสร้างเครื่องจักรอัจฉริยะ แต่คือการปฏิวัติวิธีการทำงานของมนุษย์ในสภาพแวดล้อมที่อันตรายที่สุด พร้อมภารกิจอันยิ่งใหญ่ในการส่งหุ่นยนต์เข้าปฏิบัติการแทนมนุษย์ในพื้นที่เสี่ยงที่เรียกว่า '4D'

เส้นทางจากโซลูชันต้นทุนต่ำสู่ผู้นำตลาดโลก

Unitree ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2016 โดย Xingxing Wang ณ เมืองหางโจว ประเทศจีน ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนตั้งแต่ปี 2013 ในการสร้างโซลูชันหุ่นยนต์สี่ขา (Quadruped Robot) ที่มีต้นทุนต่ำแต่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพสูง ทำให้เทคโนโลยีนี้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น จากจุดเริ่มต้นนั้น บริษัทได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดสู่การเป็นผู้นำตลาด โดย Unitree ครอบครองส่วนแบ่งตลาดหุ่นยนต์สี่ขาทั่วโลกสูงถึง 60-70% และขยายเครือข่ายธุรกิจไปแล้วใน กว่า 50% ของประเทศทั่วโลก จากหุ่นยนต์ต้นแบบ XDog (2013) สู่รุ่นบุกเบิก Laikago (2017) และขยายไลน์ผลิตภัณฑ์สู่ซีรีส์ Go1, Go2 ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง จนมาถึงการก้าวสู่ยุคของหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ด้วย H1 (2023), G1 (2024), R1 (2025) และยังได้รับการรับรองมาตรฐานการป้องกันฝุ่นและน้ำระดับ IP68 ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความทนทานและพร้อมใช้งานในทุกสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย

พิชิตงานเสี่ยงในสภาพแวดล้อม 4D

หัวใจสำคัญในวิสัยทัศน์ของ Unitree คือการส่งหุ่นยนต์เข้าไปทำงานในสภาพแวดล้อม ‘4D’ ซึ่งเป็นงานที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพและเป็นอันตรายต่อชีวิตมนุษย์ โดย 4D ประกอบด้วย

  1. Difficult (ยากลำบาก) งานที่ต้องใช้พละกำลังสูง หรือมีความซับซ้อนเกินขีดจำกัดมนุษย์
  2. Dangerous (อันตราย) งานในพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น เหมืองใต้ดิน, โรงงานสารเคมี, แท่นขุดเจาะน้ำมัน
  3. Dirty (สกปรก) งานที่ต้องเผชิญกับมลภาวะ, ฝุ่น, หรือสารปนเปื้อน
  4. Duplicative (งานซ้ำซาก) งานที่น่าเบื่อและต้องทำซ้ำๆ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพจิตและร่างกาย

Unitree ชี้ว่างานในกลุ่มนี้คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 5% ของตลาดแรงงานทั่วโลก และเป็นงานที่คนรุ่นใหม่มักหลีกเลี่ยง การนำหุ่นยนต์เข้ามาแทนที่ จึงไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องชีวิตมนุษย์ แต่ยังช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคส่วนสำคัญเหล่านี้

จากสี่ขาพันธุ์แกร่งสู่ฮิวแมนนอยด์นักกีฬา

หุ่นยนต์สี่ขา (Quadruped Robots)
เปรียบเสมือนม้างานที่ถูกออกแบบมาเพื่องานตรวจสอบและบำรุงรักษาโดยเฉพาะ สามารถบรรทุกน้ำหนักได้สูงสุดถึง 35-40 กิโลกรัม และทำงานต่อเนื่องได้นานกว่า 3 ชั่วโมง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานในเหมืองใต้ดินที่ต้องเดินทางไกลกว่า 12,000 เมตร และ Unitree เตรียมเปิดตัว A2 Stellar Explorer ที่จะยกระดับอุตสาหกรรมด้วยประสิทธิภาพการเคลื่อนไหวที่เหนือชั้นและความสามารถในการบรรทุกที่สูงขึ้น 

หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ (Humanoid Robots)
Unitree ได้สร้างปรากฏการณ์ในวงการด้วยหุ่นยนต์ H1 ซึ่งคว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายในการแข่งขัน First World Humanoid Robot Games โดยกวาดรางวัลไปถึง 7 เหรียญทอง, 3 เหรียญเงิน, และ 4 เหรียญทองแดง สมรรถนะของ H1 นั้นน่าทึ่งอย่างยิ่ง:

  • วิ่งระยะไกล 1,500 เมตร โดยใช้เวลาเพียง 6 นาทีครึ่ง ซึ่งเร็วกว่าคนทั่วไป
  • ทำความเร็วได้ถึง 4.78 เมตรต่อวินาที ในการแข่งขัน และในการทดสอบภายในล่าสุดสามารถทำความเร็วได้เกิน 5 เมตรต่อวินาที
  • วิ่ง 100 เมตรในเวลาประมาณ 20 วินาที โดยไม่ต้องพึ่งพาระบบระบายความร้อน (Cooling System) ใดๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการจัดการพลังงานและความร้อนที่ยอดเยี่ยม
  • Unitree ประกาศเป้าหมายที่ท้าทายอย่างยิ่ง ที่จะทำให้หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์สามารถวิ่ง 100 เมตร ต่ำกว่า 15 วินาที ให้ได้ภายในปีหน้า

สมองกล AI และความท้าทายด้านข้อมูล

แน่นอนว่าฮาร์ดแวร์ที่แข็งแกร่งต้องมาพร้อมกับสมองกลที่ชาญฉลาด เบื้องหลังความเทพทั้งหมดนี้คือ Unitree LLM โมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่บริษัทเปิดเป็นโอเพนซอร์สเต็มรูปแบบ นี่คือสมองกลที่ไม่ได้แค่ทำตามสั่ง แต่สามารถคิดและคาดการณ์ การเคลื่อนไหวที่เหมาะสมได้เอง 

แต่ XiaoLi Chen ก็ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาถึงปัญหาของวงการ AI นั่นคือเรื่องของข้อมูลเขาเปรียบเทียบว่า ‘ข้อมูลคือเชื้อเพลิง ส่วนโมเดลคือเครื่องยนต์’ ซึ่งตอนนี้วงการกำลังเผชิญกับความท้าทายในการหาเชื้อเพลิงคุณภาพสูง ระหว่างข้อมูลจริงที่แม่นยำแต่เก็บยาก, ข้อมูลจำลองที่สร้างง่ายแต่ยังเจอปัญหา ‘Sim-to-Real Gap’ หรือช่องว่างที่ทำให้สิ่งที่ทำได้ในโลกจำลอง อาจทำไม่ได้ในโลกจริง, ข้อมูลสังเคราะห์ที่รวดเร็วแต่ยังขาดความสมจริง, และข้อมูลจากการสาธิตของมนุษย์ที่มีคุณภาพสูงแต่เปราะบางและปรับใช้กับสภาพแวดล้อมอื่นได้ยาก เป้าหมายของ Unitree คือการสร้างเครื่องยนต์ ที่ดีที่สุด ที่สามารถเรียนรู้ได้มหาศาลจาก ‘เชื้อเพลิง’ ที่มีอยู่อย่างจำกัด

เป้าหมายของ Unitree คือการสร้างโมเดลที่ชาญฉลาด สามารถเรียนรู้ได้มากขึ้นโดยใช้ข้อมูลน้อยลง แต่ยังคงทำงานได้อย่างน่าเชื่อถือในโลกแห่งความเป็นจริงที่ซับซ้อน

จากโรงงานสู่งานกู้ภัยช่วยชีวิต

Unitree ได้นำเสนอแนวทางการใช้งานที่จับต้องได้ ตั้งแต่งานตรวจสอบในโรงไฟฟ้า, โรงงานเคมี, ไปจนถึงการลาดตระเวนชายแดน และการสร้างโอกาสให้ผู้พิการสามารถควบคุมหุ่นยนต์ทำงานจากระยะไกลได้

แต่ที่น่าประทับใจที่สุดคือแนวคิดสำหรับ "สถานการณ์ฉุกเฉิน" (Emergency Solutions) โดยเฉพาะภารกิจดับเพลิง พวกเขาได้พัฒนาหุ่นยนต์ภาคพื้นดินที่สามารถติดตั้ง ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง (Water Cannon) เพื่อเข้าไปยังจุดอันตรายแทนมนุษย์ ทำให้นักดับเพลิงสามารถควบคุมสถานการณ์จากระยะไกลที่ปลอดภัยได้ ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อปกป้องชีวิตผู้เสียสละอย่างแท้จริง

"เรากำลังคิดถึงการใช้แพลตฟอร์มเคลื่อนที่ภาคพื้นดินเพื่อเข้าไปแทนที่นักดับเพลิง โดยให้หุ่นยนต์ที่ติดตั้งปืนฉีดน้ำแรงดันสูงบุกเข้าไปในอาคารที่ไฟกำลังลุกโหม ขณะที่นักดับเพลิงตัวจริงสามารถ รักษาระยะห่างจากพื้นที่อันตรายได้มากขึ้น นี่คือการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยชีวิตผู้เสียสละอย่างแท้จริง"

XiaoLi Chen ปิดท้ายการนำเสนอโดยย้ำว่า แม้ Unitree จะเป็นผู้นำตลาด แต่พวกเขามองว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่ยาวไกล และมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะสร้างมิตรภาพและแสวงหาความร่วมมือกับพันธมิตรในประเทศไทยและทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย เพื่อร่วมกันผลักดันให้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ก้าวไปข้างหน้า และสร้างอนาคตที่มนุษย์ไม่ต้องเสี่ยงชีวิตในงานที่อันตรายอีกต่อไป

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

รวมคลื่น Layoff 2025 บิ๊กเทคปลดคนครั้งใหญ่ 300 กว่าวันที่ผ่านมาเจออะไรบ้าง ?

อัปเดตวิกฤต Layoff ปี 2025 ในวงการเทค Intel ปลดกว่า 23,000 คน ตามด้วย Microsoft และ Amazon วิเคราะห์ภาพรวมการลดคนครั้งใหญ่และแนวโน้มตลาดแรงงานยุค AI...

Responsive image

สรุป 17 ดีลใหญ่ AI ที่เกิดขึ้นในปี 2025

สรุปครบ 17 ดีล AI ยักษ์ใหญ่ปี 2025 พร้อมเจาะลึกปม Circular Deals หรือการหมุนเงินลงทุนเป็นวงกลม สัญญาณเตือนฟองสบู่ที่นักลงทุนต้องระวัง...

Responsive image

ทิศทาง Agoda ในยุค AI-First จาก CEO เตรียมปักธงปั้นกรุงเทพฯ เป็น ‘Silicon Valley แห่งเอเชีย’ พร้อมส่องเทรนด์ท่องเที่ยวปี 2026

เจาะลึกวิสัยทัศน์ Agoda 2025 ปั้นกรุงเทพฯ สู่ Silicon Valley แห่งเอเชีย พร้อมเปิดตัวกลยุทธ์ AI-First และ Autonomous Agent ผู้ช่วยอัจฉริยะที่คิดแทนคุณได้ เผยข้อมูล Insight เที่ยวไทย...