บทสรุปการสัมภาษณ์ Dr. Ted Gover : เลือกตั้งสหรัฐฯ จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย รุกสานความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม

การเมืองของสหรัฐฯ และความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-ไทย กับการเลือกตั้งปี 2024 บทสรุปจากการสัมภาษณ์ Dr. Ted Gover ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองของสหรัฐฯ และผู้อำนวยการโครงการ Tribal Administration ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะมีขึ้น ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-ไทย และความท้าทายสำคัญสำหรับทั้งสองประเทศ

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2024

  • การเข้ามาของกมลา แฮร์ริสผลกระทบที่เกิดขึ้น: ดร. โกเวอร์ชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการแข่งขันหลังจากการถอนตัวของโจ ไบเดน และการปรากฏตัวของกมลา แฮร์ริส ในฐานะผู้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคเดโมแครต สร้างผลกระทบเชิงบวกในด้านความกระตือรือร้นของผู้ลงคะแนนและตัวเลขจากการสำรวจความคิดเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน Battleground states หรือสมรภูมิรัฐชี้ขาดที่สำคัญ
  • การต่อสู้และกลยุทธ์ของทรัมป์: ดร. โกเวอร์ให้ความเห็นว่า โดนัลด์ ทรัมป์กำลังประสบปัญหาในการตอบโต้แฮร์ริสได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการเน้นโจมตีข้อมูลส่วนบุคคลได้พิสูจน์แล้วว่าไม่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังปิดกั้นเสียงของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งสำคัญ โดยเฉพาะเสียงจากผู้หญิงในแถบชานเมือง ดร. โกเวอร์เสนอแนะว่า ทรัมป์ควรเน้นไปที่นโยบายและเปรียบเทียบสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันกับในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
  • ความท้าทายและโอกาสของแฮร์ริส: ดร. โกเวอร์ยอมรับว่าแฮร์ริสมีความท้าทายที่จะต้องสร้างตัวตนของตัวเองต่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่อาจจะคุ้นเคยเธอแค่ในฐานะรองประธานาธิบดี เขาย้ำถึงความสำคัญในการใช้ประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครตเพื่อแนะนำเสนอเรื่องราวชีวิต ปรัชญา และแผนการณ์ของเธอในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น เงินเฟ้อและค่าครองชีพ

ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

  • การถอนตัวของสหรัฐฯ และการเติบโตของจีน: ดร. โกเวอร์วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของทั้งไบเดนและทรัมป์ที่ละเลยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เกิดช่องว่างให้จีนเข้ามาเติมเต็ม และย้ำถึงความวิตกกังวลในอิทธิพลจีนที่รายล้อมในภูมิภาค โดยยกตัวอย่างการบีบบังคับทางเศรษฐกิจและการกระทำที่ก้าวร้าวในทะเลจีนใต้
  • การฟื้นฟูการมีส่วนร่วมของสหรัฐฯ: ดร. โกเวอร์เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไปจะต้องฟื้นฟูการติดต่อกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างขะมักเขม้นอีกครั้ง โดยเฉพาะความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ต้องเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการแก้ไขปัญหาร่วมกัน เช่น ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้านสาธารณสุข และต่อต้านการครอบงำของจีน เป็นต้น
  • อุปสรรคและการคุ้มครองทางการค้า: ดร. โกเวอร์วิจารณ์การคุ้มครองทางการค้าของสหรัฐฯ โดยแย้งว่า นโยบายดังกล่าวขัดขวางความสัมพันธ์ระหว่างภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ต้องการเข้าถึงตลาดสหรัฐฯ และเสนอให้เลิกใช้แนวทางนี้จึงจะเกิดประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย

ย้อนกลับมองประเทศไทย 

  • การเน้นภายในสหรัฐฯ และมติมหาชน: ดร. โกเวอร์ระบุว่า การที่สหรัฐฯ ไม่สนใจไทยนั้นเป็นผลมาจากแนวโน้มมุ่งเน้นภายในสหรัฐฯ บวกกับความเหนื่อยล้าหลังสงครามอิรัก/อัฟกานิสถาน นำไปสู่การตั้งคำถามของผู้มีสิทธิเลือกตั้งถึงการเข้าไปเกี่ยวข้องกับต่างชาติ ดร. โกเวอร์เชื่อว่าการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับความสำคัญของการมีส่วนร่วมระหว่างประเทศนั้นเป็นสิ่งสำคัญ
  • ความท้าทายหลักของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และไทย: ดร. โกเวอร์เสนอว่าทั้งสองประเทศจำเป็นต้องสื่อสารกับพลเมืองของตนอย่างมีประสิทธิภาพถึงการรักษาความสัมพันธ์ทวิภาคีที่แข็งแกร่งมีความสำคัญอย่างใด นอกจากนี้ ดร. โกเวอร์เน้นย้ำถึงความท้าทายในการแก้ปัญหาร่วมกัน เช่น การค้ามนุษย์ การรักษาความปลอดภัยของห่วงโซ่อุปทาน และการพัฒนา AI ผ่านความร่วมมือร่วมกัน เป็นต้น
  • อิทธิพลของจีนและการสร้างสมดุลของไทย: ดร. โกเวอร์ทราบถึงความกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลของเศรษฐกิจจีนที่มีต่อไทยเพิ่มมากขึ้น เขาแนะนำให้หลีกเลี่ยงการกดดันให้ประเทศไทยเลือกข้างระหว่างประเทศมหาอำนาจ แต่เน้นย้ำถึงแนวทางการทูตที่เน้นผลในทางปฏิบัติของไทยและความสำคัญของการเคารพความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
  • ผลกระทบของการเลือกตั้งปี 2024 ต่อประเทศไทย: ดร. โกเวอร์คาดการณ์ว่าสหรัฐฯ จะให้ความสนใจกับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกมากขึ้นไม่ว่าผู้ชนะการเลือกตั้งจะเป็นใคร เนื่องจากการแข่งขันระหว่างสหรัฐฯ กับจีนทวีความรุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตาม ดร. โกเวอร์คาดการณ์ว่าทรัมป์จะให้ความสำคัญกับพันธมิตรในด้านความมั่นคงและลดการขาดดุลการค้าแต่อาจจะละเลยด้านสิทธิมนุษยชนไป ในขณะที่รัฐบาลของแฮร์ริสอาจมุ่งเน้นไปที่ความร่วมมือที่กว้างขึ้น สิทธิมนุษยชน และแนวทางที่ลดการกีดกันทางการค้าน้อยลง

เจาะประเด็นเทคโนโลยีและนวัตกรรม

  • ความน่าดึงดูดของไทยสำหรับความร่วมมือกับสหรัฐฯ: ดร. โกเวอร์เชื่อว่าไทยยังคงเป็นพันธมิตรที่น่าสนใจสำหรับการริเริ่มในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมของสหรัฐฯ โดยย้ำถึงความจำเป็นต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องในด้านการสื่อสารและด้านการศึกษาจากทั้งภาครัฐบาลและภาคเอกชนเพื่อมุ่งเน้นถึงประโยชน์ร่วมกันของความร่วมมือดังกล่าว
  • บทบาทของผู้นำและธุรกิจไทย: ดร. โกเวอร์สนับสนุนให้ผู้นำและธุรกิจของไทยมีส่วนร่วมโดยตรงกับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและ stakeholders หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียชาวอเมริกัน โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของประเทศไทยในฐานะหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์และแสดงให้เห็นถึงผลที่อาจตามมาจากการละเลยความสัมพันธ์

ดร. โกเวอร์กล่าวสรุปโดยเน้นย้ำถึงความไม่แน่นอนของการเมืองในสหรัฐฯ และระบุว่า แม้โพลจะบ่งชี้ให้เหห็นถึงแนวโน้มบางประการ แต่การเลือกตั้งปี 2024 ยังคงมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ 

นอกจากนี้ ดร. โกเวอร์ยังชี้ให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับไทย โดยย้ำถึงความจำเป็นในการติดต่อสื่อสารกันอย่างต่อเนื่อง เข้าใจจุดยืนร่วมกัน และการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันจากทั้งสองฝ่ายเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิรัฐศาสตร์โลก

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ฟองสบู่ AI กำลังจะแตก หรือแค่เพิ่งเริ่มต้นในปี 2026? เจาะลึกผ่านมุมมอง 17 ผู้นำโลกธุรกิจ

ฟองสบู่ AI จะแตกไหม? สรุปมุมมอง 17 บิ๊กเทคโลก Sam Altman เตือนระวัง แต่ Jensen Huang มั่นใจไปต่อ...

Responsive image

Top AI 2024 ปี 2025 โตขึ้นแค่ไหน? เจาะลึกวิวัฒนาการสู่ ‘Agentic AI’ จากแชทบอทสู่ระบบที่คิดและทำงานได้เอง

โลก AI เปลี่ยนไปไกลแค่ไหนในรอบ 2 ปี? จากเดิมที่เป็นเพียง Chatbot คุยถาม-ตอบ ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดไปสู่ระบบที่สามารถ คิด วิเคราะห์ และลงมือทำ บทความนี้สรุปประเด็นสำคัญของการเปลี่ยนผ่า...

Responsive image

90% ขององค์กรไทยยังไม่พร้อมรับมือความเสี่ยงไซเบอร์ยุค AI รายงานจาก Accenture ชี้ Cybersecurity คือโจทย์เร่งด่วน

รายงานจาก Accenture ชี้ว่าองค์กรไทยและเอเชียแปซิฟิกยังขาดความพร้อมด้าน Cybersecurity ในยุค AI เมื่อ Autonomous AI, AI Agent และระบบอัตโนมัติเร่งขยายตัว ความปลอดภัยจึงกลายเป็นกลยุทธ...