WESERVE แพลตฟอร์ม delivery ที่เข้าใจคนท้องถิ่น เปิดตัว WE TOKEN ลุยตลาด Local Lifestyle | Techsauce

WESERVE แพลตฟอร์ม delivery ที่เข้าใจคนท้องถิ่น เปิดตัว WE TOKEN ลุยตลาด Local Lifestyle

พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปตั้งแต่การเร่งของ COVID-19 ปัจจุบันแพลตฟอร์ม food delivery เติบโตอย่างมากไม่เพียงแต่ในหัวเมืองอย่างกรุงเทพเท่านั้น ในต่างจังหวัด คนส่วนใหญ่เริ่มคุ้นชินและใช้แอปฯ ในการสั่งอาหารและส่งของ 

หนึ่งในนั้นคือ WESERVE ที่ประสบความสำเร็จในการให้บริการในพื้นที่ภาคใต้และขยายสู่จังหวัดอื่น ๆ และเมื่อโลกหมุนไปอย่างรวดเร็ว นอกจากการพฤติกรรมผู้บริโภคแล้ว เรื่องของสินทรัพย์ดิจิทัลก็เป็นโอกาสสำหรับทุก ๆ แพลตฟอร์มที่สามารถต่อยอดสร้างฐานลูกค้าใหม่ สอดคล้องกับพฤติกรรมคนที่ให้ความสำคัญกับสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น ด้าน WESERVE จึงได้จับมือกับ BitKub Blockchain Technology (บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี) เปิดตัว WE TOKEN (วีโทเค็น) เพิ่มทางเลือกผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม เตรียมลุยตลาด Local Lifestyle ด้วยโทเค็นพร้อมใช้ทั่วประเทศ

รู้จัก WESERVE แพลตฟอร์มที่พัฒนาจากคนไทยท้องถิ่นสู่คนท้องถิ่น

Weserve คือแพลตฟอร์ม Delivery Service เปิดตัวที่จังหวัดภูเก็ตเป็นที่แรกเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว โดยเริ่มต้นด้วยบริการ food delivery และขนส่งด่วนภายในพื้นที่ (messenger) ต่อเนื่องด้วยการเพิ่มเติมการจองบริการด้านสุขภาพและความงาม (wellness) และภายในปีนี้จะมี บริการด้านการท่องเที่ยว จองรถเช่าไฟฟ้าเข้ามาเสริมทัพอีกด้วย ปัจจุบันมีการขยายบริการไปยัง ตรัง กระบี่ พังงา สุราษฏร์ธานี สงขลา เพรชบุรี ราชบุรี เชียงใหม่ และ เชียงราย และมีแผนขยายบริการทั่วประเทศภายใน 2 ปีข้างหน้า

“เราอาจเห็นบริการ food delivery หรือ Super App จากบริษัทต่างประเทศ แต่ความแตกต่างที่เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของ Weserve ก็คือเป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาโดยคนท้องถิ่น และมีความเข้าใจคนท้องถิ่น ใส่ใจเรื่องคุณภาพการบริการ” คุณณัฐชยา สืบศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด WESERVE กล่าว

ปัจจุบัน WESERVE เดินหน้าสู่ Local Lifestyle Super App แพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ รวมทุกบริการครบจบในแอปฯ เดียว มีจำนวนผู้ใช้กว่า 200,000 ราย โดยคุณณัฐชยากล่าวว่า ตลอดการบริหารที่ผ่านมาบริษัทยังทำกำไรโดยตลอด และความภูมิใจหนึ่งคือเป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาโดยคนไทยทั้งหมด สามารถส่งได้ครอบคลุมและไกล และมีความรู้เรื่องลึกใกล้ชิดกับท้องถิ่นนั้น ๆ ทำให้สามารถจัดสรรบริการได้ตรงใจกับคนท้องถิ่นจริง ๆ โดยในเร็วนี้ ๆ ยังมีแผนเข้าสู่การระดมทุนในระดับ Serie A อีกด้วย

โอกาสในสินทรัพย์ดิจิทัล สู่ WE Token

การเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัล สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค ที่ไม่ได้ใช้เงินสกุลเดียวอีกต่อไป ซึ่งด้าน WESERVE มองเห็นโอกาสสำคัญใจครั้งนี้  จึงได้ร่วมกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดอย่าง Bitkub Chain พัฒนาระบบแพลตฟอร์มดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพ เปิดตัว Utility Token พร้อมใช้ในชื่อ WE Token

โดยมีเป้าหมายเติมเต็มความต้องการเพิ่มความแข็งแกร่งของ Ecosystem เชื่อมต่อให้ผู้ใช้บริการมีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย และสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างยั่งยืนบน WESERVE Platform 

คุณณัฐชยาเผยว่า WE TOKEN จะทำให้เกิดจุดต่างจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ โดยปัจจุบันทุกการใช้งาน ลูกค้าจะมีการสะสมแต้มกับทางแอปฯ  ซึ่งทาง WESERVE ต้องการมอบสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าและพันธมิตรใน Ecosystem ที่มีมากกว่า 200,000 ราย  ไม่ว่าจะเป็นนำมาแลกเปลี่ยนในบริการ, NFT และมีแผนพัฒนาให้เป็นโทเค็นที่มีสิทธิ์โหวตได้อย่างโปร่งใสในอนาคต โดยตั้งเป้าให้สามารถแลกเเละรับ Token ภายในเดือนกรกฎาคม 2022 นี้

“เรื่องของ Digital Token เราอาจเห็นว่ามักกระจุกตัวในเมืองหลวง แต่ประเทศไทยก็ยังขับเคลื่อนด้วยคนท้องถิ่น เราจึงต้องการที่จะพัฒนาสิ่งนี้ขึ้นมา” คุณณัฐชยากล่าวสรุป

ประกาศจับมือ Bitkub Chain และ Finstable

ฟากพันธมิตรอย่าง Bitkub Chain ได้เปิดเผยว่า การร่วมมือครั้งนี้จะช่วยขยายฐานลูกค้าให้กับทั้งสองฝั่ง รวมทั้งยังมีแผนการใช้เหรียญ kub ในแพลตฟอร์มของ weserve อีกด้วย

คุณภาสกร ปานนอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด เปิดเผยว่า เป้าหมายของ Bitkub Chain คือการผลักดันนักพัฒนาชาวไทยพัฒนาไปพร้อมกับ Bitkub Chain ดังนั้น Weserve ก็เป็นหนึ่งใน Use Case สำคัญที่มองว่าจะร่วมผลักดันไปพร้อม ๆ กัน

นอกจากนี้ยังมีพันธมิตรสำคัญที่มาช่วยคือ Finstable มีส่วนร่วมในการพัฒนาโปรเจ็ค WE Token ด้วยระบบ CeDeFi ที่มีความปลอดภัย โปร่งใส ตรวจสอบได้ สามารถช่วยบริหารจัดการแพลตฟอร์มของวีเสิร์ฟ ดูแลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดร.เผด็จ จินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Finstable ได้เผยว่า Finstable นั้นก็เริ่มต้นมาจากท้องถิ่นอย่างจังหวัดภูเก็ตเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็น Startup รุ่นแรก ๆ ของภูเก็ต ซึ่ง Finstable ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากภาคการเงิน ภาคหลักทรัพย์ กฎหมาย บัญชี และเทคโนโลยีบล็อกเชน ที่จะเข้ามาช่วยดูแลและพัฒนาให้ WE TOKEN เติบโตอย่างมั่นคง และค่อย ๆ เติบโตตามธุรกิจ

จะรับ WE TOKEN อย่างไร?

สำหรับลูกค้าผู้ใช้งาน รวมถึงผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเป็นสมาชิกและเชื่อมกระเป๋าเก็บสินทรัพย์ดิจิทัล Bitkub Next (บิทคับเน็ก) บนแอป WESERVE (วีเสิร์ฟ) เพื่อจองสิทธิ์รับ WE Token ฟรีได้แล้ววันนี้ (มีจำนวนจำกัด เพียง 500,000 โทเค็น) โดยภายในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ ผู้ที่ได้จองสิทธิ์ไว้จะได้รับ WE Token ผ่านการ Airdrop 

ดาวน์โหลดแอป WESERVE ได้ที่  https://www.weserve.co.th/en/downloadapp/ 

หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Weservetoken ที่ https://www.facebook.com/weservetoken

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ส่องเส้นทางเทคฯ KBTG จากยุคปรับตัว สู่ผู้นำ Agentic AI กับยุทธศาสตร์ Human-First x AI-First พลิกโฉมธุรกิจ

เจาะลึกกลยุทธ์ KBTG กับการนำไทยเข้าสู่ยุค Agentic AI 2025 ผ่าน Human-AI Integration เพื่ออนาคตที่ล้ำลึกและยั่งยืน...

Responsive image

โซลูชัน Technology Business Management เปลี่ยนต้นทุน IT ให้กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจด้วยการปลดล็อกศักยภาพด้านการบริหารจัดการต้นทุน IT ด้วยข้อมูลเชิงลึก

การบริหารต้นทุนด้านเทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จ Technology Business Management เป็นกรอบการจัดการช่วยให้ผู้บริหารสามารถควบคุมและบริหารต้นทุน IT ได้อย่างแม่...

Responsive image

เจาะเบื้องหลังดีล Zipevent และ Link Station Group สู่การขยายธุรกิจอีเวนต์ในภูมิภาค SEA

การเข้าซื้อกิจการระหว่าง Zipevent แพลตฟอร์มจัดการอีเวนต์และจำหน่ายบัตรออนไลน์ในประเทศไทย กับ Link Station Group บริษัทญี่ปุ่นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบจำหน่ายบัตร (Ticketing System) ถือเ...