The Merge การอัปเกรดครั้งใหญ่ของ Ethereum คืออะไร ทำไมถึงน่าจับตา ? | Techsauce

The Merge การอัปเกรดครั้งใหญ่ของ Ethereum คืออะไร ทำไมถึงน่าจับตา ?

การอัปเกรด The Merge ของ Ethereum จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในโครงสร้างพื้นฐานของเครือข่าย ซึ่งถือเป็นขั้นตอนแรกของการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด ในบทความนี้เราพาไปทำความเข้าใจในขั้นพื้นฐานของ The Merge กัน

The Merge

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก The Merge ว่าคืออะไร

The Merge คือการเปลี่ยน Ethereum blockchain จากกลไกฉันทามติ proof-of-work (PoW) ในปัจจุบันไปเป็นกลไกฉันทามติ proof-of-stake (PoS) ซึ่งเป็นการรวม mainnet ในปัจจุบันเข้ากับ beacon chain โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เร็วและประหยัดพลังงานมากขึ้น 

ซึ่งในการอัปเกรด Beacon Chain เป็นรากฐานที่สำคัญของโครงสร้าง Ethereum 2.0 ที่ใช้กลไกฉันทามติ Proof-of-Stake โดยทำงานแบบคู่ขนานบน Mainnet ของ Ethereum แต่ไม่ได้มีการทำธุรกรรมบนเครือข่ายหลัก ซึ่งในการอัปเกรดข้อมูลที่อยู่บน Mainnet ได้แก่ บัญชีทั้งหมด ยอดคงเหลือ Smart Contract และสถานะบล็อกเชน โดยข้อมูลดังกล่าวจะได้รับการรักษาความปลอดภัยด้วยการทำงานของกลไกฉันทามติ Proof-of-Work ทั้งนี้ The Merge คือการผสานรวมกันของทั้งสองเครือข่ายเข้าด้วยกัน ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว การทำงานของกลไกฉันทามติ Proof-of-Work จะถูกแทนที่ด้วยกลไกฉันทามติ Proof-of-Stake อย่างถาวร

ทำไมการอัปเกรด The Merge ของ Ethereum ถึงมีความสำคัญ

สิ่งที่ทำให้ The Merge มีความสำคัญคือ การเปลี่ยนมาใช้กลไกฉันทามติ Proof-of-Stake ซึ่งทำให้แรงจูงใจในการตรวจสอบ Ethereum Blockchain มีการเปลี่ยนแปลง

เพราะก่อนหน้านี้ในกลไกฉันทามติ Proof-of-Work นักขุดจะใช้โหนดและต้องการพลังงานจำนวนมากเพื่อขุดบล็อกถัดไป โดยการมาของกลไกฉันทามติ Proof-of-Stake จะทำให้สิ่งเหล่านี้ถูกแทนที่ด้วยการวางเงินเดิมพันเพื่อทำการสุ่มเลือกผู้ตรวจสอบความถูกต้องของโหนด ซึ่งส่งผลให้พลังงานลดลงมากกว่า 99.9%

นอกจากนี้ข้อดีของ Proof-of-Stake สำหรับ Ethereum ในภาพรวม ได้แก่

  • ช่วยลดปัญหาการขาดแคลน GPU เนื่องจากระบบ Proof-of-Stake ไม่จำเป็นต้องใช้ GPU ในการขุดเหรียญ

  • ความเสี่ยงจากการรวมศูนย์น้อยลง เนื่องจากทุกคนสามารถเป็นผู้เดิมพันได้

  • การปล่อยเหรียญ ETH จะลดลงจาก 4.3% เป็น 0.43% 

โดยในกระบวนการตรวจสอบ ผู้ตรวจสอบความถูกต้องจะต้องฝากเหรียญขั้นต่ำ 32 ETH เพื่อเข้าร่วม ซึ่งเครือข่ายจะให้รางวัลตอบแทนสำหรับการตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม ทั้งนี้หากผู้ตรวจสอบไม่ออนไลน์และไม่สามารถดำเนินการได้ รางวัลบล็อกสำหรับผู้ตรวจสอบอาจลดลง 

Ethereum หลังจากการอัปเกรด The Merge จะเป็นอย่างไรต่อไป

หนึ่งในวัตถุประสงค์ของ Ethereum 2.0 คือการปรับขนาด โดย Vitalik  Buterin กล่าวว่าหลังจากการอัปเกรดแล้ว Ethereum จะสามารถประมวลผลธุรกรรมได้ 100,000 รายการต่อวินาที ซึ่ง The Merge เป็นขั้นตอนแรกจากทั้งหมด 5 ขั้นตอนของการอัปเกรดโปรโตคอล  โดยสามารถแบ่งขั้นตอนได้ดังนี้

The Merge

คือการรวม mainnet ปัจจุบันของ Ethereum เข้ากับ Beacon Chain ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนจากกลไกฉันทามติ Proof of Work ไปเป็นกลไกฉันทามติ Proof of Stake 

The Surge

คือ การแบ่งข้อมูลไปยังโปรโตคอล เป็นการปรับขนาดโดยจะแบ่งเครือข่ายออกเป็นส่วนๆ ซึ่งเรียกว่า "shards" ที่ออกแบบมาเพื่อกระจายภาระบน Mainnet 

The Verge

เป็นการแนะนำ “verkle trees” ซึ่งเกี่ยวข้องกับการอัพเกรดเป็น Merkle proof โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูลสำหรับโหนด Ethereum

The Purge

เป็นการอัปเกรดเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลสำหรับผู้ตรวจสอบและจะลดพื้นที่ฮาร์ดไดร์ฟซึ่งจำเป็นสำหรับผู้ตรวจสอบ รวมทั้งลดความแออัดของเครือข่าย

The Splurge

เป็นการอัปเกรดครั้งสุดท้าย ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อที่ทำขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าวิธีการทำงานของเครือข่ายโดยรวมจะราบรื่น

อย่างไรก็ตามการอัปเกรด The Merge นับว่าเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของคริปโตเคอเรนซี เนื่องจากหนึ่งในโปรโตคอลที่ใหญ่ที่สุดจะต้องผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งคงต้องจับตาดูต่อไปว่าหลังจากการอัปเกรดแล้วจะส่งผลกระทบต่อคริปโตเคอเรนซีอย่างไร

อ้างอิง

coindesk, ethereum


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

17 เรื่อง AI ต้องรู้ จากรายงาน AI Index 2024

Techsauce ได้สรุป 17 ประเด็นสำคัญจากรายงาน AI Index Report 2024 ซึ่งจัดทำโดย Stanford Institute for Human-Centered Artificial Intelligence (HAI) ที่รวบรวมประเด็นต่างๆ ของปัญญาประดิ...

Responsive image

แนะเทรนด์ลงทุนในสตาร์ทอัพปี 2024 พร้อมช่องทางใหม่ในการระดมทุนจากงาน KATALYST TALK MEETUP #3

บทความที่เอสเอ็มอี สตาร์ทอัพควรอ่านเพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการเผชิญความท้าทายในปีนี้ จากการรับฟังภายในงาน KATALYST TALK MEETUP #3 ‘Navigating the Startup Challenges in 2024 and Beyond’...

Responsive image

เตรียมพบกับงาน SEA Blockchain Week 2024 (SEABW) ยกขบวนกูรูผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชน และ Web 3 ระดับโลกกว่า 100 คน มาร่วมพูดคุยแบ่งปันประสบการณ์ที่เมืองไทย

Southeast Asia Blockchain Week หรือ SEABW งานด้านบล็อกเชนสุดยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาค ที่เตรียมจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในวันที่ 24-25 เมษายน 2567 ซึ่งจะจัดขึ้น ณ True ICON HALL ช...