รู้จัก F-NFTs การแบ่งกรรมสิทธิ์ถือครอง NFTs ที่ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกันได้ | Techsauce

รู้จัก F-NFTs การแบ่งกรรมสิทธิ์ถือครอง NFTs ที่ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกันได้

ในช่วงที่ผ่านมาถือว่ามีความร้อนแรงไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับ NFT ซึ่งเป็น Digital Asset ที่มีลักษณะเฉพาะตัว ไม่สามารถที่จะทำซ้ำได้ รวมถึงยังสามารถบ่งชี้ได้ว่าเราสามารถที่จะเป็นเจ้าของได้แต่เพียงผู้เดียว แต่ด้วยคุณสมบัติตรงนี้หลายคนจึงมองว่าทำให้มูลค่าการซื้อ-ขายมีราคาที่สูงเกินไป ดังนั้นจึงมีการคิดค้นการแก้ปัญหาเหล่านั้นด้วย Fractionalized NFTs หรือ F-NFTs ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถทำให้การถือครองกรรมสิทธิ์ของ  NFTs  สามารถแบ่งกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของร่วมกันได้

F-NFTs

F-NFTs หรือ Fractionalized NFTs คืออะไร ? แตกต่างจาก NFTs อย่างไร

แม้ว่าทั้ง NFT กับ F-NFT จะเป็นสินทรัพทย์ประเภท Non-Fungible Token เหมือนกัน แต่การทำงาน และความสำคัญของ Token ทั้งสองแตกต่างกัน โดยในที่นี้จะเปรียบให้เห็นภาพชัดกับการทำธุรกิจในโลกจริง กล่าวคือ 

NFT นั้นเป็นเหมือนกับธุรกิจที่มีเจ้าของกิจการเพียงคนเดียว มีการจดทะเบียนโดยชื่อ ๆ เดียว มีแห่งเดียวเท่านั้น ดังนั้นในโลกดิจิทัลผู้ครอบครองผลงาน NFT ก็จะมีได้แค่หนึ่งคน และไม่สามารถที่จะทำซ้ำ หรือทดแทนกันได้

F-NFT จะเปรียบเหมือนธุรกิจประเภทห้างหุ้นส่วนของกิจการมีแห่งเดียวในโลก มีผู้ร่วมลงทุนอย่างน้อย 2 คนขึ้นไป ทุกคนเป็นเจ้าของกิจการ มีอำนาจในการตัดสินใจร่วมกันในทุก ๆ เรื่อง ดังนั้น F-NFT จึงเป็นเพียงสัดส่วนของ NFT ทั้งหมดที่ถูกแบ่งออกเป็นส่วนย่อย ทำให้ผู้คนจำนวนมากสามารถอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของชิ้นส่วนของ NFT เดียวกันได้ ผ่านการใช้ Smart Contract สร้าง Token จำนวนหนึ่งมาเชื่อมโยงกับต้นฉบับของ NFT ดังกล่าว ทำให้ผู้ถือแต่ละรายมีสัดส่วนการเป็นเจ้าของ NFT และสามารถซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนในตลาดรองได้

Fractionalized NFTs หรือ F-NFTs ทำงานอย่างไร?

โดยพื้นฐานแล้ว NFT เป็น  Token ที่ใช้มาตรฐาน ERC-721 ของ Ethereum ซึ่งก่อนที่จะกลายเป็น F-NFT ได้นั้น  อันดับแรกจะถูกล็อกใน Smart Contract ก่อน หลังจากนั้นจะมีการแบ่ง ERC-721 Token ออกเป็นหลายส่วนในรูปแบบของ  ERC-20 Token ตามที่เจ้าของผลงานกำหนดไว้ ซึ่งจะประกอบด้วยราคา metadata และคุณสมบัติอื่น ๆ จากนั้นจึงจะถูกนำไปขายในราคาที่คงที่ตามระยะเวลาที่กำหนด หรือจนกว่าของจะหมด โดยที่ ERC-20 Token จะแสดงถึงความเป็นเจ้าของผลงาน  NFT ในแต่ละส่วน

ลองนึกถึงผลงาน Triptych Inspired by the Oresteia of Aeschylus ของ Francis Bacon ที่มีมูลค่ากว่า 84.6 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวแทนของงานศิลปะราคาสูง และถูกครอบครองโดยเจ้าของเพียงคนเดียว ถูกนำมาแปลงเป็น Digital Asset และแยกส่วนออกเป็น 10,000 ERC-20 Token โดยใช้ Smart Contract ซึ่งเท่ากับว่านักสะสมทุกคนก็จะสามารถเป็นเจ้าของงานศิลปะที่ทรงคุณค่าที่มีเพียงชิ้นเดียวบนโลกได้ในราคาเพียง 8,460 ดอลลาร์ต่อชิ้นเท่านั้น ซึ่งมีราคาไม่แพงมากและจะดึงดูดผู้ซื้อให้สนใจได้ง่ายขึ้น

แต่อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือทั้ง NFT และ F-NFT ไม่ได้มีจำกัดอยู่เพียง Ethereum Blockchain เท่านั้น แต่ยังสามารถทำงานบนเครือข่าย Blockchain ใด ๆก็ตาม ที่รองรับ Smart Contract รวมถึง  NFT เครือข่ายทางเลือก เช่น Polygon (MATIC), Cardano (ADA) และ Solana (SOL) ที่สามารถอำนวยความสะดวกในการสร้างและโอน NFT ได้อีกด้วย

Case Study ที่ใช้ประโยชน์จาก F-NFTs

Voice Life บริษัทเทคโนโลยีผู้พัฒนาโซลูชั่นการชาร์จไร้สาย ได้มีการนำ F-NFT มาสร้างรายได้โดยเปิดทางให้ผู้คนสามารถมาร่วมเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทได้

โรเบิร์ต สมิธ  CEO ของ Voice Life ได้ค้นพบวิธีการใหม่ที่จะร่วมแบ่งปันการเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ของบริษัทให้กับทุกคนในรูปแบบของ Fractional Non-Fungible Token หรือ  F-NFT ที่อยู่ภายในอีโคซิสเต็มของ BNB Chain 

โดย F-NFT ของ Voice Life คือการนำทรัพย์สินทางปัญญามาแปลงให้อยู่ในรูปของ Token ซึ่งเป็นเครื่องมือใหม่ที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ถือ Token F-NFT สามารถใช้เงินทำงาน และสร้างรายได้ให้กับ Voice Life ไปในเวลาเดียวกัน

สำหรับผู้ถือครอง F-NFT ของ Voice Life จะได้รับสิทธิประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท คือ จะถือครองกรรมสิทธิ์แบบสัดส่วน (fractional ownership) ในทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท และจะสามารถสร้างรายได้จากสิทธิบัตรที่ได้รับจากสหรัฐอเมริกา ตลอดจนสิทธิบัตรจากประเทศอื่น ๆ มากมาย

นอกจาากนี้ผู้ถือ F-NFT จะถือครองกรรมสิทธิ์แบบสัดส่วนในสิทธิบัตรระหว่างประเทศใด ๆ ที่จะมีการจดในอนาคต รวมถึงจะสามารถสร้างรายได้จากค่าลิขสิทธิ์ผลิตภัณฑ์สูงสุด 20 ปี อีกทั้งยังสามารถสร้างรายได้จากทุกการจำหน่ายใบอนุญาต

และผู้ถือ F-NFT จะได้รับสิทธิ์เข้าถึงแพลตฟอร์ม F-NFT ของบริษัท ซึ่งมีสภาพคล่องในการแลกเปลี่ยนซื้อขาย พร้อมได้รับประโยชน์จากการเติบโตในอนาคต และสร้างรายได้จากทรัพย์สินทางปัญญาของ Voice Life

ข้อจำกัดที่อาจจะเกิดขึ้นจากการถือครอง F-NFTs

การถือครอง Digital Asset อย่าง F-NFT นั้นก็มีความเสี่ยงสูงไม่ต่างไปจาก NFT  Bitcoin  Cryptocurrency และการแบ่งสัดส่วนในการถือครองกรรมสิทธิ์เองก็ต้องใช้ระบบที่มีความปลอดภัยมากกว่าการครอบครองผลงานแบบ NFT ซึ่งแนวทางทางกฎหมายและระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับ F-NFT ก็ยังไม่มีความชัดเจนมากนัก โดยยังมีประเด็นด้านทรัพย์สินทางปัญญา การจัดประเภททางการเงิน สิทธิในการเผยแพร่ และภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่ยังไม่ได้รับการยืนยันใด ๆ  รวมถึงสิทธิที่นักลงทุน F-NFT และผลประโยชน์ที่จะได้รับก็แตกต่างกันไปในแต่ละโครงการเช่นกัน

ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างมากที่จะศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น การทำงานโดยละเอียด ข้อกฏหมาย สิทธิประโยชน์ รวมถึงระบบความปลอดภัย และความเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นก่อนจะตัดสินใจถือครองกรรมสิทธิ์จาก F-NFT ใดๆ


อ้างอิง Business Insider , Bybit Learn 


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

รู้จัก LLMs’ Explainability การเข้าใจกลไกสมอง AI หนึ่งใน Tech Trends 2025 ที่จะมาเปลี่ยนโลกเอไอ

เจาะลึกเบื้องหลัง Large Language Models (LLMs) และเทคโนโลยี LLMs’ Explainability ที่ช่วยเปิดเผยกระบวนการทำงานของ AI จากกล่องดำสู่ความโปร่งใส ความก้าวหน้าที่เปลี่ยนโลก AI ในอนาคต!...

Responsive image

รู้จัก AI Product Management สายงานที่ Andrew Ng ชี้มาแรง

สำรวจบทบาท AI Product Management และเหตุผลที่ Andrew Ng ยกให้เป็นตำแหน่งสำคัญในการขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ AI ตั้งแต่การพัฒนาแนวคิดจนถึงการนำไปใช้งานจริง...

Responsive image

เปิดกลยุทธ์ธุรกิจยุคใหม่ พลิกข้อมูล สู่ขุมทรัพย์ด้วย analyticX ด้วยพลัง Telco Data Insights และ GenAI

ยุคนี้ใคร ๆ ก็พูดถึง Data แต่จะใช้ Data อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่างหากคือกุญแจสำคัญ! ในสัมมนาสุดเอ็กซ์คลูซีฟ "Unlocking Data-Driven Decisions with Telecom Data Insights" ที่จั...