NFT หรือ Non-Fungible Token สินทรัพย์ดิจิทัลที่มีลักษณะเฉพาะตัว ไม่สามารถทำซ้ำได้ ยกตัวอย่างจากการที่ Jack Dosey ประกาศประมูลทวีตแรกของเขา “Just set up my twittr” ในรูปแบบ ‘สินทรัพย์ดิจิทัล NFT’ และปิดการประมูลที่ราคา 2.9 ล้านเหรียญ โดยผู้ชนะการประมูลคือ Sina Estavi นักธุรกิจในประเทศมาเลเซีย โดยให้เหตุผลว่าทวีตแรกนั้นมีมูลค่ามหาศาลเปรียบเสมือนรูปโมนา ลิซ่าของศิลปิน ลีโอนาร์โด เดอ ดาวินชีเลยทีเดียว
ในช่วงเวลาไม่กี่เดือนมานี้ เชื่อว่าหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ได้ยินคนพูดถึง Bitcoin Cryptocurrency DeFi บ่อยจนเริ่มทำความรู้จักกับสิ่งเหล่านี้และค่อย ๆ เข้าใจไม่มากก็น้อย แต่พอคราวนี้ NFT ก็เป็นอีกสินทรัพย์ดิจิทัลที่เริ่มเป็นกระแสในวงกว้าง มีการนำมาใช้ซื้อขายในวงการเกม ศิลปะ และกีฬา ก็คงมีคำถามเพิ่มเติมอีกว่าแล้วมันแตกต่างจากสินทรัพย์ก่อนหน้าอย่างไร
เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น Cryptocurrency คือสินทรัพย์หรือเหรียญดิจิทัลประเภท Fungible Token ที่ไม่สามารถแยกความแตกต่าง แต่สามารถแลกเปลี่ยนหรือทดแทนกันได้ ตัวอย่างเช่น เราซื้อรถ Tesla ด้วยจำนวนบิทคอยน์ 2 BTC อีลอน มัสก์ก็สามารถนำเหรียญ 2 BTC ของเราไปแลกกับสถาบันการเงินได้ต่อ
ขณะที่ NFT จะเป็นสินทรัพย์หรือเหรียญดิจิทัลแบบ ‘Non-Fungible Token’ กล่าวคือ มีลักษณะเฉพาะตัว ไม่สามารถทำซ้ำ หรือทดแทนกันได้ ถ้าในโลกความเป็นจริงก็อาจสังเกตได้จาก หนังสือการ์ตูนโดราเอมอนผลิตขึ้นเล่มแรกที่มีลายเซ็นนักเขียน ที่ดินในเขตหนึ่งของกรุงเทพฯ แต่ในโลกดิจิทัลอาจเทียบได้ว่าเป็นรูปศิลปะแบบ digital painting ของศิลปินชื่อดังที่เซ็นกำกับไว้แล้ว มีรูปเดียวในโลก จึงกล่าวได้ว่า NFT เป็นนวัตกรรมที่บ่งชี้ว่าเราสามารถเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นได้แต่เพียงผู้เดียว
ด้วยความที่ NFT เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีอยู่หนึ่งเดียว จึงเป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มนักสะสมของอย่างมาก เพราะให้ความรู้สึกว่าตนมีสิทธิพิเศษที่ได้ครอบครองของที่มีจำกัดและหายาก จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนนิยมประมูลสินทรัพย์ NFT มักอยู่ในวงการรูปภาพศิลปะ (หรือที่เรียกว่า Crypto Art) วิดีโอเกม กีฬา หรือแม้กระทั่ง ใน Twitter
ดังที่เห็นจากผู้คนเข้าประมูลรูปภาพประเภทคอลลาจ “Everydays -- The First 5000 days” ที่ไม่มีอะไรหวือหวา เป็นเพียงแค่การปะติดปะต่อรูปภาพในชีวิตประจำวันของศิลปิน Beeple ติดต่อกัน 5,000 วัน แต่ก็ได้รับความสนใจล้นหลาม และได้รับเงินประมูลสูงถึง 69 ล้านดอลลาร์ เพราะคนให้คุณค่ากับความตั้งใจของศิลปิน หรือมองว่าไม่มีใครถ่ายรูปได้เหมือนกับศิลปินคนนี้
นอกจากนี้ ยังมีศิลปินจำนวนหนึ่งที่ได้แจ้งเกิดในตลาดซื้อขาย NFT อาทิ Cryptopunk, CryptoKitties, BLACKSNEAKERS โดยส่วนใหญ่จะซื้อขายในตลาดที่ชื่อว่า Nifty Gateway, Rarible, OpenSea, MakersPlace, Known Origin ทั้งนี้ งานทั้งหมดจะซื้อขายผ่านสกุลเงินดิจิทัลผ่านระบบของ Ethereum
จะสังเกตได้ว่ามีศิลปินหลายคนที่พลิกชีวิตจากหลังมือเป็นหน้ามือ เพราะขายผลงานในตลาด NFT ได้หลายร้อยล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่่ผ่านมา กลับพบว่ามีผู้สร้างผลงานและนักสะสมหลายรายตกเป็นเหยื่อของตลาด NFT สูญเสียทั้งรายได้และความเป็นเจ้าของผลงาน แม้ว่าตัว NFT จะคล้ายกับบิทคอยน์ตรงที่มีความปลอดภัย เพราะสามารถตรวจสอบช้อมูลและธุรกรรมการเงินในระบบบล็อกเชนได้ก็ตาม
โดยบทความใน Business Insider ได้รายงานว่า Michael J. Miraflor หนึ่งในนักสะสมผลงาน NFT ที่มีบัญชีผู้ใช้ในตลาดซื้อขาย Nifty Gateway ออกมาเผยว่าบัญชีตนโดนแฮกเกอร์หลอกขโมยผลงานทั้งหมดและใช้เงินในบัตรเครดิตไปกว่า 1 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ
ยังไม่เพียงเท่านั้น ก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ มีผู้ใช้หลายรายที่เป็นศิลปินได้ออกมาเตือนใน Twitter ว่ามีแฮกเกอร์รายหนึ่ง ได้สวมรอยเป็นผู้ใช้ Twitter ที่ชื่อว่า @tokenizedtweets ขโมยผลงานศิลปะในแพลตฟอร์มไปขายเป็นผลงาน NFT และปล่อยให้คนที่ซื้อผลงานในตลาดอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของใต้ผลงานนั้น ๆ ด้วยข้อความรหัสบล็อกเชน แม้ว่าผู้ใช้ @tokenizedtweets จะโดน Twitter แบนบัญชีผู้ใช้ถาวรแล้ว แต่ก็แสดงให้เห็นว่า NFT ไม่ได้รับประกันความปลอดภัยของผลงานนั้นเท่าไรนัก ต่อให้มีระบบบล็อกเชนและกฎหมายคุ้มครองลิขสิทธิ์ผู้สร้างสรรค์ผลงานไว้ มิจฉาชีพก็สามารถเสาะหาวิธีขโมยผลงานศิลปินและนักสะสมได้
แท้จริงแล้ว NFT พึ่งได้รับความนิยมและได้รับการยอมรับในบางวงการเท่านั้น แต่เราก็ได้เห็นมูลค่าเงินหมุนเวียนอยู่เป็นมหาศาล เริ่มมีตลาดซื้อขายเกิดขึ้นรองรับ มีผู้ซื้อที่มีกำลังเงิน และผู้ขายที่มีผลงาน
ในอนาคต มีแนวโน้มอย่างสูงว่าวงการอื่นนอกเหนือจากศิลปะ เกมส์ กีฬา ก็อาจนำนวัตกรรม NFT ไปพิจารณาสร้างเป็นตลาดซื้อขายได้ เช่น การซื้อขายโฉนดที่ดิน บ้าน หรือรีสอร์ทในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล NFT จนกระทั่งเข้าไปอยู่ในกระแสหลักได้เหมือนการซื้อขายสกุลเงินคริปโตเคอร์เรนซีอย่างบิทคอยน์
ขณะเดียวกัน เหมือนกับตลาดสินทรัพย์อื่นทั่วไป วันไหนที่ราคา NFT ขึ้นหลายล้านดอลลาร์ ก็ต้องมีสักวันหนึ่งที่ราคาตกได้เช่นกัน เป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง และมีโอกาสที่คนจะไม่เชื่อในมูลค่าของผลงานได้ ขึ้นอยู่กับว่าในอนาคตคนเชื่อในสินทรัพย์ NFT มากเพียงใด
อ้างอิงจาก CNBC , BBC , business insider , technologyreview ,theverge
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด