โอลิมปิก ปารีส 2024 จะกลายเป็นมหกรรมกีฬาที่หรูหราและมีสไตล์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ หลัง LVMH อาณาจักรแบรนด์หรูระดับโลกรับหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนหลัก และช่วยรังสรรค์ความยิ่งใหญ่ของการแข่งขันให้เข้ากับความหรูหราในแบบฉบับฝรั่งเศส
หลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อ LVMH กันสักเท่าไหร่ แต่คงรู้จักกันบ้างถ้าบอกว่านี่คืออาณาจักรแบรนด์หรูระดับโลก ที่มีธุรกิจในเครืออย่าง Louis Vuitton, Christian Dior, Givenchy, Celine, Tag Heuer, Sephora และอีกมากมายรวมทั้งสิ้น 75 แบรนด์ ประกอบธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่สินค้าแฟชั่นและเครื่องหนัง เครื่องสำอางและน้ำหอม เครื่องประดับและนาฬิกา ร้านค้าปลีก ไวน์และสุรา รวมถึงอสังหาริมทรัพย์
Bernard Arnault มหาเศรษฐีเบอร์ 1 ของโลกนั่งแท่นประธานและ CEO ของบริษัท พร้อมลูกอีก 5 คนแบ่งๆ กันนั่งเก้าอี้บริหารแบรนด์หรูในเครือ รวมถึง Frederic Arnault ลูกชายคนที่ 4 วัย 29 ปี ที่มีข่าวออกเดตกับ ‘ลิซ่า’ ศิลปินหญิงระดับโลก คอยดูแลแบรนด์นาฬิกาในเครือ อย่าง Hublot, TAG Heuer และ Zenith
โดยมีปัจจุบัน (เดือนกรกฎาคม 2024) ข้อมูลจาก CompaniesMarketCap ระบุว่า LVMH มีมูลค่า 371,100 ล้านดอลลาร์ เป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดอันดับที่ 26 ของโลก มีมูลค่าสูงสุดในฝรั่งเศสและใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของยุโรป
ในเดือนกรกฏาคมปี 2023 LVMH ได้ประกาศตัวเป็นสปอนเซอร์กีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก 2024 ที่ปารีสอย่างเป็นทางการ ในฐานะ Premium Partner ระดับสูงสุด ซึ่งคาดว่าบริษัทใช้งบประมาณถึง 166 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 6 พันล้านบาทในข้อตกลงนี้
ตัวเลขอาจดูสูง แต่นี่อาจเป็นดีลคุ้มมหาคุ้มของ LVMH ถ้าเทียบกับสิ่งที่บริษัทจะได้รับกลับมาจากมหกรรมกีฬาที่กรุงปารีส ทั้งการทำการตลาด สร้างการรับรู้ให้แบรนด์ในเครือ ยอดขายจากร้านค้าปลีก ฯลฯ
เรียกได้ว่านี่คือโอกาสที่จะประกาศให้คนทั้งโลกรู้จักและจดจำ LVMH ในฐานะตัวแทนความยิ่งใหญ่ หรูหรา รวมถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของฝรั่งเศส
แอบกระซิบว่าตัวเลข 6 พันล้านบาท นี้นั้น สูงกว่างบประมาณด้าน ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ ของรัฐบาลไทย ที่เคาะตัวเลขออกมาที่ 5,164 ล้านบาท ไม่เท่าไหร่เอง
อย่างไรก็ตาม การลงทุนของ LVMH ครั้งนี้นั้น เกิดขึ้นท่ามกลางการชะลอตัวของอุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือย แม้ว่า LVMH คาดว่าจะสร้างยอดขายได้เกือบ 90,000 ล้านยูโรในปีนี้ แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาและจีน ทำให้ผู้คนชะลอการใช้จ่ายกับของไม่จำเป็น
เรามาดูกันว่า LVMH จะคว้าโอกาสจากดีลนี้เพื่อเสริมแกร่งธุรกิจของตัวเองได้มากขนาดไหน
เริ่มจาก Louis Vuitton ได้รับหน้าที่ออกแบบ ‘หีบใส่เหรียญรางวัล’ และ ‘หีบใส่คบเพลิง’ ที่จะใช้ในโอลิมปิกครั้งนี้
Chaumet แบรนด์เครื่องประดับหรูจะเป็นผู้ออกแบบเหรียญรางวัล Moët Hennessy บริษัทผู้ผลิตไวน์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะจัดเตรียมแชมเปญให้กับผู้ชนะการแข่งขันและผู้เข้าร่วมงานระดับ VIP
ด้าน Berluti แบรนด์รองเท้าและเครื่องหนังจะเป็นผู้ออกแบบชุดทักซิโด้และรองเท้าที่นักกีฬาจะสวมใส่ในงานพิธีเปิด สำหรับเครื่องแต่งกายของผู้เชิญเหรียญรางวัล 515 คนที่ได้รับการคัดเลือกมานั้น ก็ได้ Louis Vuitton เป็นผู้ออกแบบเสื้อผ้าและถาดใส่เหรียญรางวัลเช่นกัน
Sephora ร้านเครื่องสำอางระดับโลก หนึ่งในแบรนด์ของบ้าน LVMH รับบทเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการของงานวิ่งคบเพลิงโอลิมปิกและพาราลิมปิก
โดยตลอดงานวิ่งคบเพลิง Sephora กว่า 50 สาขาใน 46 เมืองทั่วฝรั้่งเศสจะจัดกิจกรรมให้ลูกค้าได้ลุ้นผลิตภัณฑ์ความงามรวมถึงตั๋วเข้าชมโอลิมปิก นอกจากนั้นจะตั้งร้าน Pop-up store ใน 4 เมืองใหญ่ ได้แก่ บอร์โดซ์ นีซ ลีลล์ และเมืองปารีส
นอกจากส่งแบรนด์ในบ้านมาอวดความยิ่งใหญ่สู่สายตาชาวโลกในรูปแบบงานดีไซน์ หรือกิจกรรมส่งเสริมการขายแล้ว LVMH จะเข้ามาเป็นสปอนเซอร์นักกีฬาทีมชาติฝรั่งเศสด้วย
ยกตัวอย่างเช่น Léon Marchand นักกีฬาว่ายน้ำ แชมป์โลก 5 สมัย และเจ้าของสถิติในประเภทเดี่ยวผสม 400 เมตร ความหวังในการคว้าเหรียญรางวัลของฝรั่งเศสครั้งนี้ นอกจากนั้นยังมี Antoine Dupont นักกีฬารักบี้ฟุตบอลประเภท 7 คนของฝรั่งเศส วัย 27 ปี และอีกหลายคน
ยังไม่พอ LVMH จะจัดงานอิเวนต์ศิลปะที่ผสมผสานกีฬา ศิลปะ และคุณค่าของงานโอลิมปิกเข้าด้วยกัน ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาลากยาวไปจนถึงสิ้นปีนี้ โดยมีแบรนด์ในบ้านสลับกันมาเป็นเจ้าภาพนิทรรศการ ไม่ว่าจะเป็น Berluti, Dior, Guerlain, Louis Vuitton, La Samaritaine และ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Fondation Louis Vuitton
การแข่งขันนี้คาดว่าจะมีผู้ชมทั่วโลกว่าพันล้านคน ไม่รวมผู้ชมที่จะเดินทางไปยังปารีสอีกราว 2-3 ล้านคน ในฐานะสปอนเซอร์รายใหญ่และตัวแทนของฝรั่งเศส แน่นอนว่าธุรกิจของ LVMH จะได้รับการประชาสัมพันธ์ไปทั่วโลก ไม่ว่าจะผ่านงานออกแบบที่สะท้อนถึงความหรูหราของแต่ละแบรนด์ การมีส่วนร่วมกับการแข่งกีฬา และแน่นอนเตัว CEO อย่าง Bernard Arnault และครอบครัว จึงอาจพูดได้ว่าเงินเพียง 6 พันล้านบาท ที่เสียไปกับดีลนี้นั้นคุ้มสุดๆ
เพราะไม่ว่าผลการแข่งขันในสนามจะเป็นยังไง แต่ผู้คนจะจดจำ โอลิมปิก 2024 ที่ฝรั่งเศสในฐานะมหกรรมกีฬาที่หรูหราที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมี LVMH อยู่เบื้องหลัง
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด