
แม้ว่าหลายค่ายรถ EV จะเริ่มแข่งขันที่ความอัจฉริยะ แต่สำหรับ XPENG ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศจีน พวกเขากำลังมองไปไกลกว่านั้นด้วยการสร้าง AI-Defined Vehicles (AIDV) หรือรถยนต์ที่นิยามด้วย AI ซึ่งไม่ใช่แค่การเพิ่มฟีเจอร์ AI ใหม่ๆ เข้าไป แต่คือการทำทั้งโครงสร้าง ไม่ว่าจะเป็น ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ไปจนถึงประสบการณ์ของผู้ใช้งาน
ล่าสุดในงาน Techsauce Global Summit 2025 คุณ Manfred Tang, Head of Embedded Architecture of XPENG & Senior Expert in Advanced AI Technologies ได้ขึ้นเวทีฉายภาพโรดแมปที่จะนำพาบริษัทเข้าสู่ยุค AIDV อย่างเต็มตัว ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ที่ไม่เพียงจะเปลี่ยนโฉมวงการยานยนต์ แต่ยังสะท้อนถึงศักยภาพทางเทคโนโลยีที่ XPENG พัฒนาขึ้นมาด้วยตัวเอง เพื่อไปสู่วิสัยทัศน์ที่ XPENG เรียกว่า 'Leading the Futore of AI Mobility'

วิสัยทัศน์ของ XPENG ตั้งอยู่บน 3 เสาหลักสำคัญ คือ กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ AI, โครงสร้างพื้นฐาน AI และการประยุกต์ใช้ AI เป้าหมายไม่ใช่แค่การสร้างรถยนต์อัจฉริยะ แต่คือการสร้างระบบนิเวศที่ AI เป็นศูนย์กลาง ประกอบด้วย
XPENG บอกว่ายานยนต์ AI นั้นถูกสร้างขึ้นด้วยแพลตฟอร์มการพัฒนาแบบ Full-Stack ซึ่งก็คือการพัฒนาแบบครบวงจรภายในบริษัท XPENG เอง โดยมีเทคโนโลยีหลักที่น่าสนใจอย่าง
ชิปที่เปรียบเสมือน ‘สมอง’ ของ XPENG ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับโมเดล AI ขนาดใหญ่โดยเฉพาะ โดยเป็นหน่วยประมวลผลแบบ 40-Cores สามารถรองรับโมเดล AI ที่มีขนาด 30,000 ล้านพารามิเตอร์
นอกจากนี้ ยังมีหน่วยประมวลผลภาพ (ISP) ที่ทำให้มองเห็นได้ดีเยี่ยมในทุกสภาพแสง ทั้งกลางคืน ฝนตก หรือย้อนแสง เหมาะกับนำไปใช้ทั้งในรถยนต์ XPENG, หุ่นยนต์ Iron และรถยนต์บินได้
หาก Turing คือมันสมอง Canghai ก็คือระบบประสาทที่เชื่อมต่อทุกอย่างเข้าด้วยกัน แพลตฟอร์มนี้เป็นรากฐานสำหรับ AIDV มีสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์แบบหลายชั้น ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกลางสื่อสารให้ทุกส่วนของรถยนต์ เช่น แบตเตอรี่, ระบบปรับอากาศ และโมเดล AI ต่างๆ เพื่อให้ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น
เบื้องหลังการพัฒนา AI ที่ซับซ้อนของ XPENG ก็คือซูเปอร์คอมพิวเตอร์บนคลาวด์ที่ชื่อว่า Fuyao โดยมีคลัสเตอร์ที่ประกอบด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิกกว่า 10,000 ใบ และมีพลังประมวลผลสูงถึง 10 EFLOPS
แพลตฟอร์มนี้เปรียบเสมือนโรงงานที่ใช้สำหรับฝึกฝน และกลั่นกรองโมเดล AI ก่อนที่จะส่งไปใช้งานจริงบนรถยนต์

นอกจากเทคโนโลด้านฮาร์ดแวร์แล้ว อีกสิ่งที่ XPENG พัฒนามาโดดเด่นอย่างตลอดคือ ซอฟต์แวร์ ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของรถ AIDV ที่จะมีระบบขับขี่อัตโนมัติที่ฉลาดมากขึ้น ไปจนถึงฟีเจอร์ในรถยนต์ ซึ่งหากย้อนดูวิวัฒนาการซฮฟต์แวร์แต่ละยุค จะพบว่าตอนนี้ XPENG ได้เข้าสู่ยุค Software 3.0 แล้ว
Software 1.0 - ยุคเริ่มต้น การสร้างซอฟต์แวร์ไม่ต่างจากอุตสาหกรรมอื่น คือวิศวกรต้องเขียนโค้ดด้วยตัวเองทั้งหมด
Software 1.5 - เริ่มมีการนำโมเดล AI เข้ามาทำงานผสมผสานกับโค้ดที่เขียนขึ้น โดยใช้ AI เข้ามาช่วยในส่วนที่ต้องอาศัยการตีความข้อมูลจำนวนมาก เช่น การรับรู้ภาพจากกล้อง นับเป็นก้าวแรกของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค AI
Software 2.0 - ใช้ AI ในการเรียนรู้ และตัดสินใจตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งถูกนำมาใช้แล้วในระบบ XNGP (ระบบขับขี่อัตโนมัติของ XPENG) ในปี 2024
Software 3.0 - นี่คือยุคที่เป็นหัวใจของ AIDV โดยใช้ Foundation Model (AI Model ขนาดใหญ่) มาสร้าง AI รุ่นเล็กสำหรับใช้งานในรถยนต์ ซึ่งทำให้การพัฒนาเร็วขึ้น และเป็นอัตโนมัติทั้งหมด ปูทางสู่ระบบขับขี่อัตโนมัติ L3/L4

นอกเหนือจากระบบขับขี่อัตโนมัติแล้ว XPENG ยังได้นำ AI มาฝังลึกในระบบการจัดการของรถยนต์ผ่านระบบปฏิบัติการ AIOS (AI-native Operating System) หรือระบบปฏิบัติการที่เกิดจาก AI โดยตรง โดยจะเข้ามาช่วยควบคุมจัดการยานยนต์ทั้งหมดด้วย AI
AI Battery Doctor - ระบบจัดการแบตเตอรี่ที่ใช้ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์และดูแลสุขภาพของแบตเตอรี่ ช่วยคาดการณ์สถานะสุขภาพแบตเตอรี่ (State of Health - SOH) ได้แม่นยำถึง 60% ทำให้ช่วยเพิ่มอายุการใช้งานโดยรวมของแบตเตอรี่ได้ถึง 30% โดย XPENG ระบุว่าหลังจากใช้งานไป 7 ปี แบตเตอรี่จะมีการเสื่อมสภาพน้อยกว่า 10%
AI Thermal Management - การนำ AI เข้ามาจัดการความร้อนของระบบขับเคลื่อน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อสมรรถนะของรถ โดย AI จะเข้ามาช่วยควบคุมระบบระบายความร้อนอย่างชาญฉลาด เพื่อให้ส่วนประกอบต่างๆ อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดตลอดเวลา ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านกำลังของรถ (Power Performance) ได้ถึง 10% เมื่อต้องใช้งานอย่างหนักหน่วง

Iron เป็นหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่ใช้เทคโนโลยีพื้นฐานเดียวกับ AIDV ตั้งแต่
โดยในตอนนี้ Iron มีการนำไปใช้ในโรงงานของ XPENG เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระงานของมนุษย์ และในอนาคตหุ่นยนต์ Iron จะไปอยู่ตามบ้านเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ในชีวิตประจำวัน
จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีพื้นฐานของ AIDV ที่ XPENG นำมาเสนอนั้น ไม่ได้ถูกจำกัดแค่ยานพาหนะอย่างเดียว แต่ยังนำไปสู่การเดินทางสู่โลกที่ขับเคลื่อนแห่ง AI เหมือนกับวิสัยทัศน์ที่พวกเขาตั้งไว้อย่าง 'Leading the Future of AI Mobility'
อ้างอิง : สรุปจากเซสชั่น Technology Roadmap in the AIDV (AI-Defined Vehicles) Era จากงาน Techsauce Global Summit 2025
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด