ก่อนที่โลกจะรู้จักคำว่าโปรแกรมเมอร หรือคอมพิวเตอร์อย่างในปัจจุบัน มีหญิงสาวคนหนึ่งที่มองเห็นภาพของมันล่วงหน้าไปกว่า 100 ปี เธอคือ Ada Lovelace นักคณิตศาสตร์และนักเขียนชาวอังกฤษ ผู้ที่ได้รับฉายาว่า ‘โปรแกรมเมอร์คนแรกของโลก’
สิ่งที่ทำให้ Ada โดดเด่น ไม่ได้มีแค่ความเก่งทางคณิตศาสตร์ แต่คือจินตนาการของเธอที่มองเห็นว่าเครื่องจักรสามารถทำได้มากกว่าการคำนวณ ความคิดที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของยุคคอมพิวเตอร์อย่าง และต่อมาในปี 1979 กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังตั้งชื่อภาษาโปรแกรม Ada เพื่อเป็นเกียรติแก่เธอ

Ada เกิดในกรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 1815 เป็นลูกสาวของกวีระดับตำนาน Lord Byron และ Anne Milbanke ผู้สนใจวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ไม่นานหลังจากเธอเกิดพ่อแม่ก็แยกทางกัน
เมื่อ Ada อายุเพียง 8 ปี ด้านพ่ออย่าง Lord Byron เดินทางไปกรีซและเสียชีวิต ทำให้เธอเติบโตมากับแม่ที่ตั้งใจให้ลูกสาวเรียนรู้เหตุผลมากกว่าอารมณ์แบบพ่อ (พ่อของ Ada เป็นชายที่ขับเคลื่อนชีวิตด้วยอารมณ์ เพราะเป็นนักกวี)
Anne แม่ของ Ada ได้จ้างครูส่วนตัวมาสอนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ให้ลูก ซึ่งถือว่าแปลกมากในยุคนั้น เพราะผู้หญิงแทบไม่ได้รับการศึกษาในสายนี้เลย
เมื่อเติบโตขึ้น Ada ได้รู้จักกับนักคณิตศาสตร์และนักประดิษฐ์ชื่อ Charles Babbage ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งคอมพิวเตอร์ เพราะเขาคือผู้คิดค้นเครื่องจักรคำนวณอัตโนมัติชื่อว่า Analytical Engine ซึ่งเป็นเครื่องจักรที่คิดได้เหมือนมนุษย์ในแง่การคำนวณ โดยใช้หลักการทำงานที่เกือบเหมือนคอมพิวเตอร์สมัยใหม่เลย คือมี Input > Processing Unit (Mill) > Memory (Store) > Output
โดย Ada ได้รับมอบหมายให้แปลบทความภาษาฝรั่งเศสเกี่ยวกับเครื่องจักรของ Babbage เป็นภาษาอังกฤษ แต่สิ่งที่ทำให้ Ada Lovelace กลายเป็นตำนานของวงการคอมพิวเตอร์ ไม่ได้อยู่ที่เธอเก่งคณิตศาสตร์เพียงอย่างเดียว แต่คือจินตนาการที่ก้าวไกลเกินกว่าคนในศตวรรษที่ 19 จะนึกถึง
ในช่วงที่เธอช่วย Charles Babbage แปลบทความภาษาฝรั่งเศสเกี่ยวกับเครื่อง Analytical Engine ของเขา Ada ไม่ได้แค่แปล แต่เธอเพิ่มบันทึกของตัวเองยาวหลายเท่าของต้นฉบับ และในนั้นเองคือที่มาของแนวคิดที่เปลี่ยนโลกไปตลอดกาล
Ada เขียนว่าเครื่องจักรของ Babbage ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องคิดเลข แต่มันสามารถทำตามคำสั่งเป็นลำดับขั้นตอนได้ เหมือนการเขียนสูตรอาหารที่ระบุทีละข้อว่าทำอะไรก่อน ทำอะไรต่อ ถ้าเครื่องจักรสามารถทำตามลำดับนี้ได้ มันก็เหมือนกับว่าเรากำลังเขียนโปรแกรมให้มันทำงาน
แต่มุมมองของ Ada ไม่ได้หยุดแค่ตรงนั้น เธอมองว่าเครื่องจักรไม่ได้จำเป็นต้องประมวลผลแค่ตัวเลขเท่านั้น เพราะสิ่งใดก็ตามที่สามารถแปลงเป็นสัญลักษณ์หรือรหัสได้ ไม่ว่าจะเป็นตัวอักษร ดนตรี หรือแม้แต่ภาพ เครื่องจักรก็สามารถประมวลผลสิ่งนั้นได้เช่นกัน
พูดง่ายๆ คือ Ada มองเห็นว่าเครื่องจักรจะไม่ใช่แค่เครื่องคำนวณ แต่เป็นเครื่องประมวลผลความคิดของมนุษย์ หากเราสามารถป้อนกติกาให้มันเข้าใจได้
แนวคิดนี้ล้ำยุคมากในปี 1843 เพราะในเวลานั้นโลกยังไม่มีคำว่าคอมพิวเตอร์ด้วยซ้ำ และ Ada ได้ตีพิมพ์บันทึกนี้ในนาม A.A.L. (Augusta Ada Lovelace) พร้อมยกตัวอย่างวิธีสั่งให้เครื่องคำนวณเลขเบอร์นูลลี ซึ่งถือเป็นรหัสโปรแกรมต้นแบบในยุคก่อนมีโปรแกรมมิ่งจริงๆ
และนี่เองคือจุดเปลี่ยนจาก ‘การคำนวณ’ สู่ ‘การคอมพิวต์’ จากการบวก ลบ คูณ หาร ไปสู่การให้เครื่องจักรทำงานตามกติกาเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งกลายเป็นรากฐานของแนวคิดคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในปัจจุบัน จนแม้เวลาจะผ่านไปกว่าร้อยปี โลกถึงเพิ่งตามทันสิ่งที่เธอเห็นตั้งแต่ศตวรรษที่ 19
แต่ในขณะที่ความคิดของเธอกำลังก้าวล้ำไปข้างหน้า ชีวิตของ Ada เองกลับเต็มไปด้วยความเปราะบางที่สวนทางกันอย่างสิ้นเชิง หลังจากสร้างผลงานทางวิทยาศาสตร์ที่ล้ำยุค เธอหันกลับมาใช้ชีวิตในบทบาทของภรรยาและแม่ เมื่อแต่งงานกับ William King ในปี 1835 และมีลูกด้วยกัน 3 คน
แม้จะใช้ชีวิตอยู่ในสังคมชนชั้นสูงของลอนดอน ร่วมวงสนทนากับบุคคลชื่อดังอย่าง Michael Faraday และ Charles Dickens แต่สุขภาพของ Ada กลับย่ำแย่ลงเรื่อยๆ เธอป่วยจากโรคระบบทางเดินหายใจและระบบย่อยอาหารมานานหลายปี และต้องพักฟื้นนานหลังการคลอดบุตร
สุดท้ายโรคร้ายก็พรากเธอไปก่อนวัยอันควร Ada เสียชีวิตด้วยมะเร็งมดลูกในปี 1852 ขณะอายุเพียง 36 ปี และถูกฝังเคียงข้างหลุมศพของบิดา Lord Byron กวีชื่อก้องโลกที่เธอไม่เคยมีโอกาสได้รู้จัก
ชื่อของ Ada เงียบหายไปเกือบศตวรรษ ก่อนที่โลกจะเริ่มตระหนักถึงคุณค่าของสิ่งที่เธอได้ทิ้งไว้ แนวคิดที่ทำให้คอมพิวเตอร์ไม่ใช่แค่เครื่องคิดเลข แต่กลายเป็นเครื่องมือแห่งความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ ทุกวันอังคารที่ 2 ของเดือนตุลาคมจึงถูกกำหนดให้เป็น Ada Lovelace Day เพื่อเฉลิมฉลองบทบาทของผู้หญิงในวงการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์
อ้างอิง: lemelson.mit.edu
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด