แอปหาคู่เริ่มเมื่อไหร่ ? Swipe, Click, Love วิวัฒนาการของแอปหาคู่จากอดีตถึงปัจจุบัน

ถ้าเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก” ก็ขอให้รู้ไว้เลยว่ามันไม่ได้เปลี่ยนแค่โลกการทำงาน ชีวิตประจำวัน หรือความบันเทิงเท่านั้น แต่มันยังเข้าไปเปลี่ยน “ความรัก” ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์เชื่อว่าเป็นเรื่องของหัวใจล้วนๆ ให้กลายเป็นเรื่องของ อัลกอริธึม โค้ด และ Big Data อย่างเต็มตัว

จากยุคของการเขียนจดหมายรัก สู่การส่งอิโมจิหัวใจในแชต จากการพบกันโดยบังเอิญ สู่การถูกจับคู่ผ่านอัลกอริธึม ทุกวันนี้ความรักไม่ได้ถูกกำหนดโดยโชคชะตาเพียงอย่างเดียว แต่มันถูกขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี ที่บางครั้งมันรู้ใจเราดียิ่งกว่าตัวเราเองเสียอีก

บทความนี้ Techsauce จึงอยากพาทุกคนไปย้อนรอยวิวัฒนาการของแอปหาคู่ จากอดีตถึงปัจจุบัน ว่าเมื่อไหร่กันที่เราเริ่มให้คอมพิวเตอร์ช่วยหาคู่ !

ยุคบุกเบิก: เมื่อคอมพิวเตอร์เริ่มจับคู่ให้เรา

ย้อนกลับไปหลายทศวรรษก่อน Tinder, Bumble และ OKCupid ยังไม่มีอยู่จริง แต่การใช้เทคโนโลยีเพื่อค้นหารักแท้เริ่มต้นขึ้นจากโปรเจกต์เล็กๆ ของนักศึกษาฮาร์วาร์ดสองคน Jeff Tarr และ Vaughan Morrill ที่เบื่อหน่ายกับกิจกรรมหาคู่แบบเดิมๆ และคิดว่า “ถ้าคอมพิวเตอร์ช่วยหาคู่ให้เราได้ล่ะจะเป็นยังไง?” พวกเขาจึงได้เริ่มโปรเจกต์ Operation Match ขึ้นในปี 1965

รูปจาก: https://abcnews.go.com 

หากใครต้องการใช้ Operation Match คุณต้องกรอกแบบสอบถาม 75 ข้อ ที่ครอบคลุมข้อมูลทุกด้าน ตั้งแต่งานอดิเรก การศึกษา รูปลักษณ์ เชื้อชาติ ไปจนถึงทัศนคติเรื่องเพศ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องอ่อนไหวในยุคนั้น โดย Operation Match จะใช้คอมพิวเตอร์ช่วยจับคู่ 

แต่คอมพิวเตอร์ในสมัยนั้นไม่ใช่สิ่งที่เราใช้กันทุกวัน มันคือ เครื่อง IBM ขนาดมหึมา ทำให้ทั้ง Tarr และ Morrill ต้องเช่าเวลาการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อรันโปรแกรม และคิดค่าบริการ $3 ต่อคน (ประมาณ 100 บาทในปัจจุบัน) ซึ่งคอมพิวเตอร์ IBM จะวิเคราะห์ข้อมูลจากชุดคำถามและจับคู่ที่เหมาะสมให้ผู้ใช้ พร้อมส่ง รายชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของ 5 คนที่น่าจะเข้ากันได้มากที่สุด จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของพวกเขาที่จะโทรไปทำความรู้จักเอง

ภายใน 6 เดือนแรกมีนักศึกษากว่า 90,000 คนเข้าร่วม แต่สิ่งที่ตลกคือ Tarr ผู้ก่อตั้งเองกลับยุ่งกับการบริหารโปรเจกต์เกินกว่าจะใช้บริการของตัวเอง และสุดท้ายเขากลับพบรักกับภรรยาจากการ นัดบอด (Blind Date) ตามแบบฉบับดั้งเดิม

ยุคอินเตอร์เน็ต: เว็บไซต์หาคู่บรรพบุรุษของแอปหาคู่

ในช่วงกลางทศวรรษ 1990 การหาคู่ผ่านอินเทอร์เน็ตเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยมีเว็บไซต์หาคู่อย่าง Match.com ถือกำเนิดขึ้นในปี 1995 ก่อตั้งขึ้นโดย Gary Kremen และ Peng T. Ong ในซานฟรานซิสโก มีบริษัท Electric Classifieds Inc. เป็นผู้ดำเนินการ เว็บไซต์นี้ถือเป็นผู้บุกเบิกในด้านเว็บหาคู่ที่เป็นแม่แบบของแอปหาคู่ในปัจจุบัน

รูปจาก: fastcompany.com 

ในยุคนั้น การสร้างโปรไฟล์ออนไลน์เพื่อค้นหาคู่ที่ตรงใจถือเป็นนวัตกรรมที่น่าตื่นเต้น แม้ว่าอัลกอริทึมในตอนนั้นจะยังไม่ซับซ้อนเท่าปัจจุบัน แต่ผู้ใช้ก็สามารถระบุอายุ ความสนใจ และสถานที่ เพื่อให้ระบบแนะนำคู่ที่มีความเป็นไปได้ที่จะเข้ากันได้ 

นอกจากนี้ Match.com ยังเป็นหนึ่งในเว็บไซต์แรกที่ใช้ ระบบสมัครสมาชิก (Subscription Model) โดยให้ผู้ใช้จ่ายเงินเพื่อเข้าถึงฟีเจอร์พิเศษ เช่น การส่งข้อความไม่จำกัด หรือการดูว่าใครสนใจโปรไฟล์ของตน

จนต่อมาในปี 1999 IAC (InterActiveCorp) บริษัทสื่อและเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ได้เข้าซื้อกิจการของ Match.com และในปี 2009 ได้ก่อตั้ง Match Group ขึ้นมาเพื่อรวบรวมธุรกิจหาคู่ออนไลน์ทั้งหมดที่บริษัทเป็นเจ้าของ Match Group ได้ขยายอาณาจักรด้วยการเข้าซื้อกิจการอื่น ๆ เช่น 

  • People Media ซึ่งเป็นเจ้าของเว็บไซต์หาคู่เช่น BlackPeopleMeet.com และ OurTime.com ในปี 2009 
  • OkCupid ซึ่งเป็นเว็บไซต์หาคู่ที่เน้นการให้บริการฟรีและมีรายได้จากโฆษณา ในปี 2011  

นอกจากนี้ ในปี 2012 Tinder ซึ่งเป็นแอปหาคู่ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ก็ถูกพัฒนาขึ้นภายใน Hatch Labs ซึ่งเป็นศูนย์บ่มเพาะสตาร์ทอัพของ IAC ด้วยเช่นกัน

ปัจจุบัน Match Group เป็นเจ้าของแอปหาคู่ยอดนิยมมากมาย เช่น Tinder, Match.com, OkCupid, และ PlentyOfFish โดยมีมูลค่าตลาดสูงถึง 3 แสนล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 02/02/2025)  ซึ่งแสดงถึงความสำเร็จและการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมหาคู่ออนไลน์ 

ยุคเปลี่ยนผ่าน: จากเว็บไซต์สู่สมาร์ทโฟน

ปี 2009 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของแอปหาคู่ เมื่อสมาร์ทโฟนเริ่มแพร่หลายมากขึ้น Grindr แอปหาคู่เน้นการให้บริการแก่ชุมชน LGBTQ+ โดยเฉพาะกลุ่มเกย์ ไบเซ็กชวล และทรานส์เจนเดอร์ ได้เปิดตัวในฐานะแอปที่ใช้ GPS ช่วยให้ผู้ใช้สามารถหาคู่ที่อยู่ใกล้ตัวได้แบบเรียลไทม์ แต่นี้ยังคงเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ใช้ในแอปเฉพาะกลุ่มเท่านั้น

แต่ต่อมาในปี 2012 การเปิดตัวของ Tinder ได้เปลี่ยนแปลงโลกของแอปหาคู่ครั้งใหญ่ ด้วยแนวคิด Swipe หรือการปัดซ้าย-ขวาที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ผู้ใช้สามารถปัดขวาเพื่อแสดงความสนใจ หรือปัดซ้ายเพื่อผ่าน ซึ่งทำให้การหาคู่กลายเป็นเรื่องสนุกและเสพติด คล้ายกับการเล่นเกม

ความสำเร็จของ Tinder ไม่ได้มาเพียงเพราะฟีเจอร์การปัด แต่ยังมาจากการออกแบบที่เน้นการใช้งานบนมือถือเป็นหลัก และอัลกอริทึมการจับคู่ที่มีประสิทธิภาพ ภายในปี 2018 Tinder ถูกดาวน์โหลดมากกว่า 100 ล้านครั้ง มีการปัดมากกว่า 1.8 พันล้านครั้งต่อวัน และสร้างการจับคู่มากกว่า 20 พันล้านครั้งทั่วโลก

ความสำเร็จของ Tinder ได้จุดประกายให้เกิดแอปหาคู่อื่น ๆ ที่พยายามสร้างความแตกต่างเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่หลากหลาย หนึ่งในนั้นคือ Bumble ซึ่งเปิดตัวในปี 2014 โดย Whitney Wolfe Herd หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Tinder โดย Bumble มีแนวคิดที่แตกต่างโดยให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายเริ่มต้นการสนทนาเมื่อเกิดการจับคู่ ซึ่งช่วยลดปัญหาการคุกคามทางออนไลน์

นอกจากนี้ยังมี Raya ซึ่งเปิดตัวในปี 2015 เป็นแอปหาคู่ที่เน้นความเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับเซเลบริตี้และคนในวงการครีเอทีฟ การเข้าร่วม Raya ต้องผ่านกระบวนการสมัครที่เข้มงวด รวมถึงการแนะนำจากสมาชิกปัจจุบัน และการตรวจสอบโดยคณะกรรมการที่ไม่เปิดเผยตัวตน สิ่งนี้ทำให้ Raya กลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีความเป็นส่วนตัวสูง และดึงดูดผู้ใช้ที่มีชื่อเสียง

รู้หรือไม่ ? ประเทศไทยเคยหาคู่ผ่านหนังสือพิมพ์

ในช่วงยุคไล่เลี่ยกันกับการเกิดของ Operation Match ราวปี 1973 เทคโนโลยีในประเทศไทยยังไม่แพร่หลายมากนัก การหาคู่ผ่านหนังสือพิมพ์ เคยเป็นทางเลือกยอดฮิตของคนโสดในไทย โดยมักใช้บริการ "คอลัมน์หาคู่" หรือ "โฆษณาหาคู่" ในหนังสือพิมพ์และนิตยสาร โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์รายวันและรายสัปดาห์ที่มีคอลัมน์พิเศษสำหรับโฆษณาประเภทนี้

หนึ่งในคอลัมน์ที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ "มาลัยเสี่ยงรัก" ของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เปิดตัวในปี 2516 โดยมี ลุงหนวด หรือ เทพชู ทับทอง เป็นผู้ดูแล จุดแข็งของคอลัมน์นี้คือความเรียบง่ายตรงไปตรงมา คนที่สนใจสามารถส่งจดหมายแนะนำตัว พร้อมรายละเอียดเกี่ยวกับอายุ อาชีพ นิสัย ความต้องการ และช่องทางติดต่อ เช่น

หนุ่ม 35 ปี ข้าราชการ มั่นคง มองหาหญิงโสดจริงใจเพื่อสร้างครอบครัว โทร 08X-XXX-XXXX

จะมาในรูปแบบสั้น กระชับ ได้ใจความ บอกอายุ อาชีพ ความมั่นคง และลักษณะนิสัยก่อนให้ช่องทางติดต่อ เพื่อรับจดหมายจากผู้ที่สนใจ ในบางกรณี ผู้ลงประกาศอาจใช้บริการของหนังสือพิมพ์เป็นตัวกลาง โดยให้จดหมายถูกส่งไปยังสำนักงานหนังสือพิมพ์ก่อน แล้วทางสำนักพิมพ์จะเป็นผู้ส่งต่อไปยังผู้ลงประกาศอีกที

แต่พอเข้าสู่ยุค 2000s อินเทอร์เน็ตและมือถือเริ่มเข้ามาแทนที่ การหาคู่แบบดั้งเดิมถูก disrupt โดยเว็บหาคู่ Tinder, Bumble และ Facebook Dating ที่เข้ามาครองตลาด การหาคู่ไม่ต้องรอหนังสือพิมพ์อีกต่อไป ทุกอย่างเกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ สะดวกขึ้น มีตัวเลือกเยอะขึ้น

ปัจจุบัน เทคโนโลยีพัฒนามากขึ้นจน AI และ Big Data สามารถช่วยจับคู่คนที่ใช่ได้แม่นยำขึ้น การเปิดตัวของแอปเหล่านี้แสดงถึงการพัฒนาและความหลากหลายในตลาดแอปหาคู่ ที่พยายามตอบสนองต่อความต้องการและความคาดหวังที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้ใช้  แต่แก่นแท้ของการเดทยังเหมือนเดิม คือ เทคโนโลยีช่วยสร้างตัวเลือก แต่เรายังต้องเป็นคนตัดสินใจเองว่า "ใครคือคนที่ใช่"

อ้างอิง: edition.cnn , datingnews, theverge , thematter, techcrunch

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ย้อนรอยประวัติศาสตร์ ‘Starlink’ จักรวาลอินเทอร์เน็ตของ Elon Musk และยุคไร้จุดอับสัญญาณ

เจาะลึกประวัติศาสตร์ Starlink เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตดาวเทียมพลิกโลกของ Elon Musk ตั้งแต่นวัตกรรม V2 Mini, Laser Links, Direct-to-Cell จนถึงบทบาทสำคัญในสงครามและภารกิจกู้ภัยน้ำท่วมหา...

Responsive image

เนเธอร์แลนด์กับสงครามน้ำพันปี ถอดรหัส ‘Delta Works’ จากปัญหามหาอุทกภัย สู่การบริหารจัดการแบบปรับตัว

เจาะลึก Delta Works โครงการป้องกันน้ำท่วมระดับโลกของเนเธอร์แลนด์ จากหายนะปี 1953 สู่สิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรม และโมเดล Adaptive Delta Management รับมือ Climate Change...

Responsive image

เบื้องหลัง 30 ปี SolidWorks จากโปรแกรมเดสก์ท็อป สู่เครื่องมือปลดปล่อยจินตนาการวิศวกร

ย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ซอฟต์แวร์ 3D CAD ถือเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ยากมาก จึงทำให้ SOLIDWORKS ต้องการสร้างซอฟต์แวร์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ จนในปี 1995 ซอฟต์แวร์ 3D CAD ตัวแรกของโลกที...