ในยุคที่ชื่อของ Mark Zuckerberg, Elon Musk หรือ Sam Altman แทบจะเป็นตัวแทนของอำนาจในโลกเทคโนโลยี มีหญิงสาววัย 36 ปีคนหนึ่งที่เลือกจะเดินอีกทาง เธอไม่ได้สร้างบริษัทเพื่อแข่งขัน แต่เพื่อเปลี่ยนวิธีที่โลกมอง AI ชื่อของเธอคือ Mira Murati
อดีต CTO ของ OpenAI ผู้ร่วมอยู่เบื้องหลัง ChatGPT และหนึ่งในผู้นำหญิงไม่กี่คนที่กล้าปฏิเสธเงิน พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก Mark Zuckerberg

Mira Murati เกิดในปี 1988 ที่เมือง Vlorë ประเทศแอลเบเนีย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประเทศยังอยู่ในภาวะเปลี่ยนผ่านทางการเมือง พ่อแม่ของเธอเป็นครูสอนวรรณกรรม แต่ลูกสาวกลับหลงใหลในคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ตั้งแต่เด็ก
ความสนใจนั้นก็พาให้เธอสามารถคว้าทุนจาก United World Colleges (UWC) ตอนอายุ 16 ปี ไปเรียนที่แคนาดา ที่โรงเรียน Pearson College ที่นั่น เธอได้เจอเพื่อนจากกว่า 80 ประเทศ และได้เห็นว่าความแตกต่างระหว่างผู้คนคือพลังของการเรียนรู้
หลังจบมัธยม เธอเลือกทางที่ต่างจากคนส่วนใหญ่ ด้วยการเรียนสองสาขาพร้อมกัน คือ คณิตศาสตร์ที่ Colby College และวิศวกรรมเครื่องกลที่ Dartmouth College นับเป็นการผสมระหว่างศาสตร์แห่งตรรกะกับ ศิลปะแห่งการสร้างสรรค์ กลายเป็นรากฐานสำคัญของแนวคิดที่เธอใช้จนถึงทุกวันนี้
หลังเรียนจบด้านวิศวกรรมเครื่องกล Mira เริ่มต้นที่ Tesla ในตำแหน่ง Senior Product Manager ดูแลโครงการ Model X รถ SUV พลังงานไฟฟ้ารุ่นสำคัญของบริษัท ที่นั่น เธอไม่ได้เรียนรู้แค่เรื่องเทคโนโลยียานยนต์ แต่ได้เห็นว่าการออกแบบเทคโนโลยีที่คนอยากใช้ ต้องเริ่มจากการเข้าใจพฤติกรรมมนุษย์ ตั้งแต่ความสะดวกสบาย การใช้งาน ไปจนถึงความรู้สึกของผู้ขับขี่
จาก Tesla เธอย้ายไป Leap Motion สตาร์ตอัปด้าน Augmented Reality ที่พัฒนาเทคโนโลยีควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยมือเปล่า ช่วงเวลานี้คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เธอเริ่มตั้งคำถามว่า เทคโนโลยีที่ดีจริง ๆ ต้องฉลาดกว่าเรา หรือควรเข้าใจเราให้มากขึ้น ?
แนวคิดนั้นติดตัวเธอมาเสมอ จนในปี 2018 Mira เข้าร่วม OpenAI ในตำแหน่งรองประธานฝ่าย Applied AI and Partnerships และด้วยมุมมองที่ไม่เหมือนใคร เธอไม่ได้มอง AI แค่เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล แต่เห็นมันเป็นภาษาใหม่ ระหว่างมนุษย์กับเทคโนโลยี
ปี 2022 เธอได้รับการแต่งตั้งเป็น Chief Technology Officer (CTO) ของ OpenAI ภายใต้การนำของเธอ ทีมงานได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่เปลี่ยนโลกอย่าง ChatGPT, DALL·E, Codex และ Sora เครื่องมือที่ทำให้ AI กลายเป็นสิ่งที่มนุษย์พูดคุยด้วยได้จริง ไม่ใช่แค่สั่งให้มันทำงาน
พฤศจิกายน 2023 เธอถูกแต่งตั้งเป็น CEO ชั่วคราวของ OpenAI หลัง Sam Altman ถูกปลดออกอย่างกะทันหัน แม้จะอยู่ในตำแหน่งเพียง 3 วัน แต่เหตุการณ์นั้นสะท้อนชัดว่า Murati ไม่ใช่เพียงวิศวกรอัจฉริยะ แต่คือผู้นำที่กล้าพูดเรื่องจริยธรรมในเทคโนโลยี
หลังเหตุการณ์ความสั่นคลอนภายใน OpenAI จบลง เธอประกาศลาออกจาก OpenAI และต้นปี 2025 Murati เปิดตัวบริษัท Thinking Machines Lab องค์กรที่เธอเรียกว่า Public Benefit Corporation คือไม่ใช่แค่สตาร์ตอัป AI ทั่วไป แต่เป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นเพื่อสร้าง AI ที่เข้าใจมนุษย์ และเข้าถึงได้โดยทุกคน
เธอรวบรวมทีมวิศวกรและนักวิจัยจาก OpenAI, Google, Meta และ Mistral รวมกว่า 30 คน และสามารถระดมทุนได้กว่า 2 พันล้านดอลลาร์ จากนักลงทุนระดับโลกอย่าง Nvidia, AMD, Accel และ Cisco จนกลายเป็นรอบ Seed ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เทคโนโลยี
ไม่กี่เดือนหลังเปิดตัว Mark Zuckerberg แห่ง Meta พยายามยื่นข้อเสนอเพื่อซื้อบริษัท พร้อมดึงตัวทีมของ Murati ไปสร้างแผนก Superintelligence Lab โดยเสนอค่าตอบแทนสูงสุดถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคน แต่ไม่มีใครยอมไป
เหตุผลนั้นไม่ใช่เพราะเธอห้ามไว้ แต่เพราะทุกคนเชื่อในสิ่งเดียวกัน ว่า AI ควรเป็นเครื่องมือเพื่อขยายศักยภาพของมนุษย์ ไม่ใช่กลไกที่อยู่ในมือของคนไม่กี่คน
และไม่นานผลิตภัณฑ์แรกของบริษัทก็ถือกำเนิด ในชื่อ Tinker เครื่องมือที่ช่วยนักวิจัยและนักพัฒนาปรับแต่งโมเดล AI อย่าง Llama ของ Meta หรือ Qwen ของ Alibaba ได้ด้วยโค้ดเพียงไม่กี่บรรทัด ระบบนี้ช่วยลดอุปสรรคทางเทคนิคที่ซับซ้อน ทำให้การพัฒนา AI กลายเป็นเรื่องที่ทุกคนทำได้
ชื่อของ Murati ปรากฏในลิสต์ TIME 100 Most Influential People in AI (2024) และ Fortune Most Powerful Women in Business (2023) แต่สิ่งที่ทำให้เธอมีอิทธิพลจริง ๆ ไม่ใช่ตำแหน่งหรือรางวัล แต่คือแนวทางที่เธอเลือกเดิน เส้นทางของคนที่กล้ายืนยันว่า เทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือเทคโนโลยีที่เคารพมนุษย์มากที่สุด
และในวันที่บริษัทใหญ่แข่งกันสร้างโมเดลที่ใหญ่กว่า เร็วกว่า ฉลาดกว่า Mira Murati กลับเลือกจะสร้างสิ่งที่เข้าใจ มากกว่าครอบงำ
เธอพิสูจน์ให้เห็นว่า การเป็นผู้นำในโลกเทคโนโลยีไม่จำเป็นต้องถือเงินทุนมหาศาล แต่ต้องมีความชัดเจนในสิ่งที่เชื่อมากพอจะยืนหยัดท่ามกลางแรงดึงจากทุกทิศทาง และสำหรับ Mira Murati มันคือคำตอบที่ชัดเจนอยู่แล้วว่า อนาคตของ AI ไม่ได้อยู่ในมือของคนไม่กี่คน แต่มันควรอยู่ในมือของทุกคน
อ้างอิง: fortune, economictimes
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด