สูตรลับ Entrepreneurship แบบ ThyChef | Techsauce

สูตรลับ Entrepreneurship แบบ ThyChef

  • มนุษย์เงินเดือนผู้ไม่หยุดวิ่งตามฝันจนก่อตั้งบริษัท โฟร์ฟูดส์ จำกัดขึ้นเมื่อปี 2545 มุ่งสร้างสรรค์ผงปรุงรสป้อนลูกค้าอุตสหกรรมขนาดใหญ่
  • ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เป็นส่วนหนึ่งของเบื้องหลังสารพัดรสอร่อยไม่ว่าจะเป็นขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือแม้แต่น้ำซุปในร้านอาหาร
  • หลังจากกิจการเดินได้อย่างมั่นคงจึงเริ่มพัฒนาแบรนด์ ThyChef สูตรเฉพาะของบริษัท เพื่อตอบโจทย์ SME และผู้ประกอบการรายเล็ก
  • ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีอัตราเติบโตเฉลี่ยที่ 20% ต่อปี รวมถึงพัฒนาช่องทาง Online ให้ทำรายได้เพิ่มขึ้นมากขึ้น

Entrepreneurship ในจิตวิญญาณของ สมเจตน์ ปัญจวัฒนางกูร เจ้าของบริษัท โฟร์ฟูดส์ จํากัด ผู้ผลิตผงปรุงรสหรือ seasoning ที่อยู่เบื้องหลังความอร่อยของขนมและอาหารที่หลาย ๆ คนชื่นชอบจนประสบความสำเร็จ แล้วต่อยอดปรุงแต่งแบรนด์ ThyChef ให้ไปเสริมศักยภาพพร้อมสร้างโอกาสแก่ผู้ค้ารายย่อย ตลอดจนพัฒนาช่างทางขาย Online ให้ส่งผลิตภัณฑ์ถึงมือลูกค้าแบบทันใจ

Entrepreneurship-4food-thychef

บริษัท โฟร์ฟูดส์ฯ ก่อตั้งเมื่อปี 2545 (ที่ชื่อบริษัทได้แรงบันดาลใจมาจากวงบอยแบรนด์ F4 ที่กำลังมีชื่อเสียงมากในยุคนั้น และ 4 ยังเป็นเลขมงคลของคนจีนด้วย) โดยปัจจุบันมีสถานะเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพสูงให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ ผงปรุงรสต่าง ๆ ซึ่งเหมาะกับหลากหลายประเภทอาหาร ไม่ว่าจะเป็นผงปรุงรสสำหรับขนมขบเคี้ยว ผงหมักหลากรสสำหรับอุตสาหกรรมแปรรูปเนื้อสัตว์ อาหารทะเล และ สัตว์ปีก รวมถึงสูตรผสมเฉพาะของวัตถุเจือปนอาหารเพื่อเพิ่มผลผลิตต่อหน่วย (Yield) และเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ อีกทั้งยังมีส่วนผสมอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ ที่เป็นสูตรเฉพาะให้กับลูกค้าอีกด้วย

สำหรับอาหารและขนมที่มีผลิตภัณฑ์ของบริษัท ฯ เป็นส่วนหนึ่งของเบื้องหลังความอร่อยมากมายไม่ว่าจะเป็นขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือแม้แต่น้ำซุปในร้านอาหาร

กระทั่งในปี 2557 จึงเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นสูตรเฉพาะของบริษัทฯ เอง สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดย่อม (SME) และผู้บริโภครายย่อยภายใต้แบรนด์ ‘ไทเชฟ’ (ThyChef) เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มกิจการขนาดเล็กและผู้บริโภคที่ต้องการปรุงอาหารเพื่อรับประทานเองภายในบ้าน ได้แก่ ผงปรุงรสไก่ ผงหมักเนื้อนุ่ม ผงหมักรสนิวออรีนส์ เป็นต้น

ทว่าความมุ่งมั่นที่ต้องการทำธุรกิจของตัวเอง เป็น passion ที่ฝังอยู่ในจิตวิญญาณของเด็กบ้านสวนจากจังหวัดชลบุรี อย่าง สมเจตน์ ปัญจวัฒนางกูร ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการบริษัท บริษัท โฟร์ฟูดส์ จํากัด มาตั้งแต่ตัวเขาเริ่มเข้าสู่ชีวิตวัยทำงาน หลังจากจบการศึกษาจากคณะวิทยาศาสตร์ประยุกต์ สาขาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

โดยสมเจตน์มีโอกาสใช้ความรู้ที่ได้รํ่าเรียนมาเข้าทํางานกับบริษัทที่มีชื่อเสียงด้านเคมีอาหาร วัตถุแต่งกลิ่นและรสชาติหลายแห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทร่วมทุนต่างชาติชั้นนําผู้อยู่เบื้องหลังความสําเร็จของอุตสาหกรรมอาหาร

แต่จุดกำเนิดแห่งฝันที่จะเป็นเจ้าของกิจการ เริ่มตั้งแต่ก้าวสู่เส้นทางสายอาชีพในฐานะฝ่าย Production บริษัท เขาช่องอุตสาหกรรม 1979 จํากัด (ผู้ผลิตกาแฟผงสําเร็จรูปเขาช่อง) ซึ่งตัวเขาชื่นชอบที่จะทุ่มเทและคิดหาวิธีสร้างให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานอยู่เสมอ จนมักถูกเพื่อนร่วมงานมองว่าทุ่มเทกับงานประหนึ่งเป็นลูกชายเจ้าของกิจการ เช่นเดียวกับที่ย้ายไปอยู่บริษัทอื่น ๆ ก็ยังคงยึดมั่นในวิถีการทำงานแบบทุ่มเทเช่นเดิมมาตลอด ตัวอย่างเช่น เคยยอมนั่งรถสิบล้อไปซื้อผงชูรสที่ต่างจังหวัด เพื่อนำมาขายให้ลูกค้าจะได้มีวัตถุดิบมาผลิตซุปก้อน แม้ว่าเงินที่ขายได้จะเป็นของบริษัทก็ตาม

“ทุกบริษัทที่ไปทำ ผมไม่ค่อยคิดว่าเป็นลูกจ้าง แต่ชอบคิดเหมือนเป็นลูกเจ้าของ เพราะเวลามีปัญหาก็มักจะไปช่วยคิดแก้ไขจนสุดความสามารถ ไม่ได้สนใจว่าจะได้ผลตอบแทนมากหรือน้อย คิดแค่ทำอย่างไรให้สินค้าออกมาดี ให้ธุรกิจออกมาดี ”

กระทั่งมีจุดเปลี่ยนที่สมเจตน์ได้เข้าสู่วงการธุรกิจผลิตผงปรุงรส ในฐานะ Technical Sale Seasoning and Flavor ของ บริษัท บุช โบค เอเลน (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้จําหน่ายวัตถุปรุงแต่งรสชาติอาหาร แต่หลังจากที่ทำอยู่หลายปีและสร้างยอดขายได้มหาศาลจนสร้างรายได้จากค่าคอมมิชชั่นแซงหน้าเงินเดือน แต่ด้วยด้วยการปรับโครงสร้างบริษัท เนื่องจากผู้ถือหุ้นต่างชาติต้องการขายกิจการ ทำให้ตัวเขาเลือกออกจากงานเดิมแล้วไปเป็น Sale Manager Savory flavor ที่ บริษัท วี.เมน ฟิลส์ (ประเทศไทย) จํากัด (ผู้จําหน่ายวัตถุแต่งกลิ่นอาหาร)

อย่างไรก็ตามระหว่างที่สมเจตน์ทำงานในธุรกิจจำหน่ายวัตถุแต่งกลิ่นอาหารนั้น ลูกค้าเก่า ยังคงติดต่อมาถามหาผลิตภัณฑ์ผงปรุงรสจากเขาอยู่สม่ำเสมอ เพราะบริษัทเดิมของเขาผลิตสินค้าได้ไม่พอกับจำนวนที่ลูกค้าต้องการ ทำให้สมเจตน์เกิดแนวคิดจะเริ่มทำธุรกิจจำหน่ายผงปรุงรสของตัวเองขึ้น

บวกลบคูณหารแล้วก็พบว่าด้วยลูกค้าเดิม 3-4 รายแรกก็น่าจะพอทำรายได้เลี้ยงกิจการได้ จึงทำสัญญาใจกันว่าถ้าเราออกมาทำเองแล้วเถ้าแก่ต้องมาเป็นลูกค้าเหมือนเดิม ซึ่งจากวันนั้นผ่านมา 17 ปี ลูกค้าเหล่านี้ก็ยังซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทอยู่กันอย่างเหนียวแน่น

สมเจตน์ย้อนเรื่องราวในช่วงแรกของการดําเนินธุรกิจของบริษัท โฟร์ฟูดส์ ฯ ว่า จะเป็นไปในลักษณะซื้อมา-ขายไป เกี่ยวกับเคมีอาหาร ต่อมาลูกค้าต้องการวัตถุที่ผสมสําเร็จรูปเขาจึงตัดสินใจมองหาโรงงานอย่างเป็นกิจจะลักษณะ และลงทุนเครื่องจักรเพื่อดําเนินการผลิตอย่างเต็มรูปแบบ แต่ในเบื้องต้นได้ว่าจ้างโรงงานที่มีความพร้อมให้ผสมวัตถุดิบให้ก่อนแล้วจึงนํามาเก็บในทาวน์เฮาส์และอาคารพาณิชย์รอการแพ็คสินค้าในวันเสาร์-อาทิตย์ เพื่อพร้อมขายในวันเปิดทําการแต่เนื่องจากถูกชาวบ้านร้องเรียนเรื่องกลิ่นรบกวนบ่อยครั้งและพื้นที่ค่อนข้างคับแคบ ไม่สามารถรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคตได้

พอดําเนินธุรกิจได้ราว 1 ปี สมเจตน์จึงลงทุนซื้อที่ดินแถวคลอง 8 กว่า 200 วา เพื่อสร้างโรงงานใกล้กับกรุงเทพฯ ที่ใช้งบลงทุนก่อสร้างโรงงานพร้อมเครื่องจักรในการผลิตไปทั้งสิ้น 16 ล้านบาท

จากก้าวสำคัญครั้งนั้น บริษัท โฟร์ฟูดส์ฯ ก็เริ่มขยายงานในแต่ละแผนก อาทิ ฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ฝ่ายขายและการตลาดจากพนักงานที่เริ่มต้นเพียง 4 คน วันนี้มีการจ้างงานพนักงานเพิ่มขึ้นรวม 70 คน โดยสมเจตน์รับหน้าที่มองภาพรวมการเติบโตของธุรกิจและขยายตลาดไปในทิศทางต่างๆ ที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ

ทั้งนี้ด้วยโรงงานที่สะอาด มีเทคโนโลยีเครื่องจักรทันสมัย มีความพร้อมในการผลิต โดยได้รับการรับรองมาตรฐานทั้ง GMP, HACCP, FSSC 22000 และ HALALยิ่งทําให้ลูกค้ามั่นใจที่จะทําธุรกิจร่วมคิดและพัฒนาสินค้า โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ที่ให้ความสําคัญกับมาตรฐานการผลิตค่อนข้างสูง

Entrepreneurship-4food-thychef

Entrepreneurship ฝังลึก

สมเจตน์ยืนยันว่าก่อนที่ใครก็ตามจะเริ่มสร้างธุรกิจของตัวเองขึ้นมา อย่างน้อยเขาเหล่านั้นต้องจุดประกายความเป็น Entrepreneurship ขึ้นด้วยตัวเองก่อนตั้งแต่ยังเป็นลูกจ้าง อีกทั้งควรมีความคิดสร้างสรรค์ที่ฉีกแนวจากมนุษย์เงินเดือนทั่วไป ขณะที่ตัวของสมเจตน์เองมักมีมุมมองในฝั่งของเจ้าของกิจการ เช่น เตรียมตั้งคำถามกับตัวเองในใจก่อนว่าลูกค้าจะมีข้อสงสัยอะไรบ้าง เพื่อเตรียมทำการบ้านหรือหาคำตอบไว้ล่วงหน้าก่อนพบลูกค้า

ที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการมีทัศนคติแบบ Entrepreneurship คือการมีวิสัยทัศน์ที่จะสร้างสรรค์ธุรกิจ นั่นคือมองในมุมของลูกค้าว่าหากจะสร้างธุรกิจใดขึ้นมาก็ตามต้องถามตัวเองก่อนกว่าหากเป็นตัวเราแล้วจะซื้อ/ใช้บริการผลิตภัณฑ์เหล่านี้หรือไม่

เพราะถ้าเรายังไม่ซื้อแล้วจะไปขายใครได้

กระนั้นเมื่อถึงวันที่เป็นเจ้าของกิจการจริง ๆ แม้เก็บเกี่ยวประสบการณ์นับแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำของธุรกิจผงปรุงรสมาเป็นสิบ ๆ ปีก่อนจะก่อตั้งบริษัทก็ยังไม่เพียงพอ ทำให้สมเจตน์ต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เช่น ด้านการเงิน การบริหารเงินสด ระบบบัญชี เป็นต้น

ปัญหาเรื่องขาดกระแสเงินสดจึงเป็นสิ่งที่ผู้ก่อตั้งบริษัท โฟร์ฟูดส์ ฯ ต้องเผชิญอยู่แทบตลอดเวลาในช่วง 2 ปีแรกที่เปิดกิจการ เพราะนอกจากเงินเก็บสมัยเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ร่วมลงขันกับหุ้นส่วนอีก 6 คนที่เคยเป็นเพื่อนร่วมงานกันมาก่อน ก็ไม่สามารถระดมทุนจากแหล่งอื่นได้อีก นอกจากนำทรัพย์สินส่วนตัวมาเป็นหลักประกันเงินกู้จากธนาคาร

ผมไม่เคยกู้นอกระบบ ใช้วิธีอ้อนวอนลูกค้าให้จ่ายเร็วขึ้นหรือขอให้สั่งสินค้าจำนวนมาก ๆ เพื่อให้คุ้มกับที่นำไปส่ง ต้องประหยัดให้ได้มากที่สุดและหาเงินเข้าบริษัทให้ได้เร็วที่สุด

ปรุงแต่ง ThyChef

สำหรับจุดเปลี่ยนที่นำไปสู่การพัฒนาแบรนด์ ThyChef  ขึ้นนั้น สมเจตน์เฉลยว่าเริ่มจากได้พบว่ากลุ่มผู้ประกอบการ SME หรือพ่อค้าแม่ค้ารายเล็ก ๆ ขาดปัจจัยที่จะเป็นเครื่องมือให้สามารถต่อยอดหรือเสริมให้ขายสินค้าได้มากขึ้น อีกทั้งด้วยจรรยาบรรณของการทำธุรกิจที่ต้องไม่นำสูตรของลูกค้ารายใดก็ตามไปขายให้รายอื่น ๆ ต่อ จึงตัดสินใจที่จะพัฒนาสูตรของบริษัทขึ้นเองเพื่อป้อนกลุ่มผู้ค้ารายเล็กที่มีกำลังซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้ในจำนวนไม่สูงมากเท่าธุรกิจรายใหญ่

ทว่าต้นเรื่อง ๆ ที่จุดให้เกิดไอเดียทำ ThyChef เริ่มที่แม่ค้าขายไก่ทอดแถวโรงงานมาขอแบ่งซื้อผงปรุงรส ซึ่งปรากฏว่าพอเริ่มขายแล้วมีการตอบรับดีมาก ก็ปรึกษากันกับผู้ร่วมหุ้นว่าน่าจะต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นแบรนด์ของบริษัทเอง ซึ่งมีขนาดแพ็คเกจไม่ใหญ่ และวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตามหลังจากเริ่มผลิตสินค้า ThyChef มาแล้วก็ยังหาช่องทางวางจำหน่ายไม่ได้ พอดีกับที่ช่วงนั้นมันเกรียวทอดกรอบเริ่มแพร่หลาย จึงลองนำผลิตภัณฑ์ไปตั้งวางในย่านที่มีการขายส่งมันฝรั่งต่อให้กับผู้ขายรายย่อยอย่างตลาดไท

แต่แรกเริ่มที่ไปติดต่อขอวางสินค้ากลับมีการตอบรับที่ไม่ได้ราบรื่นนัก กระทั่งสมเจตน์ตื๊อจนเถ้าแก่ร้านขายส่งมันฝรั่งยอมให้วางผลิตภัณฑ์ได้แค่ 2 ลังก่อน แต่เพียงไม่กี่ชั่วโมงเมื่อร้านปิดแล้วทางเถ้าแก่ก็โทรมาบอกว่าผลิตภัณฑ์ขายดีมาจดหมดแล้วทั้ง 2 ลังให้นำมาส่งเพิ่มอีกในพรุ่งนี้ ซึ่งนี่คือลูกค้ารายแรกสำหรับ ThyChef ที่ทำให้ตัวเขาหัวใจพองโตมาก และจากวันนั้นก็ยังคงค้าขายกันอยู่ถึงวันนี้

ลูกค้าที่มาซื้อมันฝรั่งบอกกับเฮียเจ้าของร้านว่าว่าอยากได้ผงโรยแบบนี้มานานแล้ว เป็นของหายากมาก

สมเจตน์บอกเล่าถึงความคาดหวังต่อ ThyChef ว่าถ้ามองในแง่นักธุรกิจก็คงไม่มีจุดเพียงพอเพราะไม่ว่าใครก็ต้องการสร้างยอดขายให้สูงขึ้นไปเรื่อย แต่ความภาคภูมิใจของเขากลับอยู่ที่ผลิตภัณฑ์ได้รับการชื่นชมอย่างจริงใจ โดยยกตัวอย่างว่าเคยเจอแม่ค้าขายไก่ทอดแล้วลองชิมดูก็รู้ว่าเป็นผงปรุงรสของบริษัท แล้วถาม feed back ว่าเป็นอย่างไร พอได้รับคำตอบว่าพอใช้ผงปรุงรสของ ThyChef แล้วขายดีได้กำไรงาม ก็ยิ่งทำให้มีความสุข เพราะประหนึ่งได้ต่อยอดธุรกิจให้ผู้ค้ารายย่อย

สินค้าตัวท็อปของ Thy Chef ที่ยอดขายไม่เคยร่วงเลยมี 4 ตัวคือผงปาริกา บาบีคิว ชีส และต้มยำ

สูตรลับส่วนหนึ่งที่ทำให้กิจการเดินเครื่องมาอย่างต่อเนื่องคือ “ไม่เคยหยุดพัฒนา” โดยสมเจตน์ย้ำว่าหัวใจหลักของธุรกิจคือการที่สามารถสร้างสูตรของผงปรุงรสให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้มากที่สุด ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงมีนโยบายที่เปิดโอกาสให้ฝ่าย R&D ไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมตลอดเวลา ทั้งการส่งไปสัมนาหรือดูงาน

ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการนำเครื่องมือด้านเทคโนโลยีมาเสริมเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วย เช่น ใครอุปกรณ์วัดค่าตรวจเกลือหรือความชื้นมาแทนแรงงานคน เพื่อให้ทำงานง่ายและแม่นยำมากขึ้น

รวมถึงพยายามผลักดันให้พนักงานทุกคนเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ แต่เขาก็ยอมรับว่าแม้จะเคี่ยวเข็ญอย่างไรก็มีทั้งที่ส่วนที่ตื่นตัวตามและที่นิ่งเฉย เช่นเดียวกับที่พยายามส่งเสริมให้พนักงานที่มีศักยภาพได้โอกาสเติบโตในเส้นทางสายอาชีพอย่างเต็มพลังความสามารถของแต่ละคน

ผมพยายามบอกพนักงานทุกคนว่าต้องพัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อย ๆ เพราะโลกเปลี่ยนตลอด ถ้าอยู่เฉย ๆ ก็จะโดนคนอื่นแซง จึงต้องทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้ดีที่สุด

Entrepreneurship-4food-thychef

น้ำท่วมใหญ่สร้างโอกาส

สมเจตน์เล่าอีกว่าในช่วง 10 ปีแรกที่เปิดบริษัท ไม่เคยมีโอกาสได้แบ่งปันผลกำไรให้กับหุ้นส่วนเลย เพราะจะนำผลกำไรที่ได้มาลงทุนเพิ่มเพื่อขยายกิจการให้เติบโต กระทั่งเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อปี 2554 ที่โรงงานได้รับผลกระทบบางส่วน เพราะน้ำท่วมถึงแค่ฟุตบาทรอบโรงงานเท่านั้น แต่ก็ยังสามารถดำเนินการผลิตได้ ขณะที่โรงงานของผู้ผลิตรายอื่นต้องปิดหรือหยุดผลิต ควบคู่กับต้องหาลูกค้ารายใหม่มาเพิ่ม เพื่อทดแทนลูกค้าบางส่วนที่ปิดโรงงานเพราะน้ำท่วม ทำให้พลิกจากวิกฤติเป็นโอกาสครั้งสำคัญสำหรับบริษัท โฟร์ฟูดส์ฯ จึงดันยอดขายจากเคยอยู่ที่ 14-15 ล้านบาทเป็น 18 ล้านบาท

แม้จะยุ่งยากเรื่องการเดินทางของพนักงานและการขนส่งวัตถุดิบบ้าง แต่โรงงานยังเดินเครื่องผลิตได้ ลูกน้องก็ช่วยกันสู้เต็มที่เพื่อให้ขายได้และลูกค้าได้รับของ

อย่างไรก็ตามแม้จะรอดพ้นน้ำท่วมมาได้ แต่สมเจตน์ก็สารภาพว่าตัวเขาต้องตกอยู่ในภาวะตึงเครียดมาก เพราะนอกจากต้องหาทางให้ยังผลิตและขายได้แล้ว ก็ต้องปวดหัวกับการบริหารเงินสด เพราะทั้งบริษัทและตัวเขาเองต่างก็ที่ไม่มีเงินทุนสำรองไว้ใช้เพียงพอยามฉุกเฉิน

ด้วยวิกฤติครั้งนี้ทำให้ความคิดของสมเจตน์เปลี่ยนไปและเรียนรู้ที่จะเก็บออมเงินทั้งสำหรับบริษัทและตัวเขาเอง เพื่อที่จะช่วยให้อยู่รอดได้ในกรณีที่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น

สําหรับอนาคตของบริษัท โฟร์ฟูดส์ ฯ นั้น สมเจตน์วางแผนที่จะใช้ความรู้และเทคโนโลยีต่อยอดสินค้าและบริการรูปแบบใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น ในส่วนของการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC จะเน้นการวิจัยและพัฒนาสินค้าให้ประเทศเพื่อนบ้านพึงพอใจ

นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขยายตําแหน่งงานเพื่อรองรับการเจาะตลาดเพื่อนบ้านที่มีความต้องการในเรื่องของรสชาติที่แตกต่างจากคนไทย หากอ่านความต้องการของลูกค้าได้ขาดแล้วจะใช้องค์ความรู้ เทคโนโลยีการผลิต อีกทั้งวัตถุดิบจําพวกสมุนไพรเครื่องเทศคุณภาพที่บ้านเรามีพร้อมอย่างอุดมสมบูรณ์ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน

ขณะที่ในส่วนของ ThyChef คือทำทุกวิธีเพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ เช่นล่าสุดมีโครงการ “นักขายออนไลน์ไทเชฟ” ที่ชวนสร้างรายได้แบบง่ายๆ สำหรับแม่บ้านและผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ชอบอยู่ในโลกออนไลน์เป็นเวลานาน ๆ ที่หากโพสต์ประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ เช่น ผงปรุงรสและผงเครื่องดื่มสำเร็จรูปรสชาติต่าง ๆ พร้อมแนะนำวิธีการทำและเมนูจากผลิตภัณฑ์เพื่อเชิญชวนเพื่อน ๆ ให้รู้จักกับกับแบรนด์ ผ่านช่องทางออนไลน์ส่วนตัว เช่น Facebook LINE Instagram ฯลฯ ซึ่งจะได้รับค่าคอมมิชชั่นคิดเป็น 7% จากยอดขาย

นอกจากนี้ยังปรับปรุงระบบหลังบ้านของช่องทาง Online เพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจที่สามารถมีผลิตภัณฑ์ถึงมือได้เร็วขึ้น ซึ่งนับจากที่เริ่มเปิดตัวมาเมื่อ 2 ปีก่อนถึงวันนี้ก็มียอดขายเติบโตขึ้น 100% ซึ่งฐานผู้ซื้อส่วนใหญ่ยังเป็นแถบกรุงเทพและปริมณฑลมากกว่าต่างจังหวัด

ทั้งนี้ ปัจจุบันฐานรายได้หลักของบริษัท โฟร์ฟูดส์ ฯ เฉลี่ย 70% ยังมาจากกลุ่มลูกค้าที่เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ขณะที่ 20-30 % มาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ ThyChef โดยเป้าหมายตัวเลขสำหรับบริษัทคือขอให้รายได้รวมต่อเดือนสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนก็ถือว่าพอใจแล้ว ไม่ว่าจฝั่งไหนจะดีขึ้นหรืออัตราการขยายตัวของรายได้จะอยู่ที่เท่าใดก็ตาม

“ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้เติบโตเฉลี่ย 20% ต่อปี เพราะลูกน้องช่วยกันทำงานขยันแข็ง ถ้าอยากรักษาอัตราการเติบโตเช่นเดิมก็ต้องดิ้นให้มากขึ้น”

สมเจตน์ยังทิ้งท้ายถึงเส้นทางของบริษัท โฟร์ฟู้ดส์ฯ ในระยะไกลอีกว่า

พี่ไม่ได้อยากเอาโรงงานเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่อยากเข้าตลาดสดมากกว่า


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

มรดกแนวคิด Steve Jobs ที่ส่งต่อถึง Tim Cook เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของ Apple

Tim Cook ยกหนึ่งคำสอนล้ำค่าในการทำงานจาก Steve Job ที่ทำให้ Apple เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของโลก ในด้านการส่งเสริมนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ภายในองค์กร นั่นก็คือ ‘ทุกคนสามารถสร้าง...

Responsive image

ทำไมองค์กรต้องมี ‘Innovation Culture’ พื้นฐานที่ขาดไม่ได้ถ้าอยากสร้างนวัตกรรม

ในบทความนี้ Techsauce ขอพาผู้อ่านไปรู้จักคำว่า Innovation Culture หรือ วัฒนธรรมนวัตกรรม อีกฟันเฟืองสำคัญของการสร้างนวัตกรรมองค์กรที่ขาดไปไม่ได้...

Responsive image

เจาะกลยุทธ์ ‘ปรับแต่ไม่เปลี่ยน’ ที่ IKEA ร้านเฟอร์นิเจอร์เก่าแก่เอาตัวรอดในยุคดิจิทัล

กลยุทธสำคัญอย่าง ‘ปรับแต่ไม่เปลี่ยน’ ที่ทำให้ IKEA สามารถรักษาเอกลักษณ์อันโดดเด่นของบริษัท ไปพร้อมกับการปรับตัวท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง...