หากพูดถึง Corporate ของไทยที่เดินหน้ารับมือ Digital Transformation ได้น่าสนใจ หนีไม่พ้น SCG หรือบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ที่เดินหน้าเสาะหานวัตกรรมทั้งจากภายในผ่านโครงการ Internal Startup และจากภายนอกผ่านการลงทุนรูปแบบ CVC โดย Addventures ซึ่งล่าสุด SCG ได้ประกาศการดำเนินงานของหน่วยงาน Digital Transformation ทั้งอัพเดทโครงการ Internal Startup และเผยแนวทางการลงทุนในอนาคตของ Addventures
คุณยุทธนา เจียมตระการ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การบริหารกลาง, SCG กล่าวว่า “SCG ได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถทางการแข่งขัน เพื่อให้องค์กรสามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างรวดเร็ว เข้าใจพฤติกรรมเชิงลึก (Insight) ของลูกค้าและผู้บริโภค สามารถตอบสนองพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปได้อย่างทันท่วงที และให้บริการลูกค้าได้แบบ One-stop service มากขึ้น โดยได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเกี่ยวข้องกับคน กระบวนการทำงาน และผลิตภัณฑ์ บริการ หรือโซลูชั่นของเอสซีจี”
“ด้วยความมุ่งมั่นของเอสซีจีที่ต้องการพัฒนาสินค้าและบริการให้ลูกค้ามีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น หรือ Passion for Better เราจึงพยายามตั้งคำถามที่จะทำให้เข้าใจลูกค้าได้ดีขึ้นอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถพัฒนานวัตกรรมต่างๆ ที่ตอบโจทย์ตรงใจ และทันต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป” คุณยุทธนากล่าว
SCG ได้ตั้งหน่วยงาน Digital Transformation เพื่อรับผิดชอบใน 3 ส่วนงานหลัก ได้แก่
1.ส่วนงานภายใน ดูแลและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากบุคลากรภายในองค์กรเพื่อสร้างขีดความสามารถให้แก่บุคลากร ผลักดันให้เกิดโมเดลธุรกิจใหม่ใน SCG และเกิดนวัตกรรมใหม่ที่ต่อยอดกับธุรกิจหลักได้ โดย Internal Startup เป็นหนึ่งในโครงการของส่วนงานนี้ บนแนวคิด Hatch>Walk>Fly ซึ่งช่วยให้เกิด Solution ที่ตอบโจทย์ทั้ง Operation และ Product โดยหนึ่งในตัวอย่างของงานนี้คือ Rudy หรือรู้ดี โปรแกรม Sales Automation สำหรับ On-Site Contractor ช่วยให้สั่งสินค้ามายังหน้างานได้รวดเร็วและแม่นยำ
2. ส่วนงานภายนอก จัดตั้ง AddVentures เป็นหน่วยงานด้านการลงทุน (Corporate Venture Capital) ของ SCG ตั้งแต่ปี 2017 เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก
3. ส่วนงาน Core Transformation นำเรื่องของ AI และ Machine Learning เข้ามาช่วยทำ Data Analytics และ Digital Marketing เพื่อเพิ่มศักยภาพและลดความเสี่ยงให้ธุรกิจหลักของ SCG และบริษัทในเครือ
การปรับทิศทางของ SGC ทำให้การบริหารงานภายในทั้งดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทั้งด้าน Operation และ Production นำไปสู่การแก้ Pain Point ของลูกค้าทั้งภาคธุรกิจและรายย่อยได้ตรงจุด
“ขณะนี้ เราเริ่มมีธุรกิจกลุ่มดิจิทัลเข้ามาช่วยในการให้บริการลูกค้ามากขึ้น ทั้งในรูปแบบซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชัน เช่น Home Buddy แอปพลิเคชันให้คำปรึกษา ออกแบบ เลือกซื้อสินค้าสำหรับการสร้างบ้าน โดยคาดว่าใน 3-5 ปีข้างหน้า เราจะมีธุรกิจกลุ่ม B2B for C หรือธุรกิจต่อธุรกิจเพื่อผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจในปัจจุบันของเรา เช่น e-Logistics และ e-Commerce ที่ตอบโจทย์ Active Omni Channel และจะมีการขยายโมเดลลักษณะนี้ไปในอาเซียนด้วย” คุณยุทธนา กล่าว
ทางด้าน ดร.จาชชัว แพส ผู้อำนวยการ Digital Transformation เอสซีจี และกรรมการผู้จัดการ, AddVentures โดย SCG กล่าวว่า "สำหรับส่วนงานภายใน ของหน่วยงาน Digital Transformation นั้น มีกิจกรรมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้มีโครงการบ่มเพาะธุรกิจสำหรับพนักงานภายใน หรือ Internal Startup Program ขึ้น เพื่อให้พนักงานที่มีศักยภาพ มี Passion ในการทำธุรกิจ และอยากมีส่วนร่วมในการคิดที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อลูกค้า สามารถนำเสนอโมเดลธุรกิจของตัวเองเข้ามาร่วมโครงการ โดยผู้เข้าร่วมจะได้รับโอกาสในการทำงานอย่างอิสระ รวมถึงได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากเอสซีจีโดยตรงสำหรับการดำเนินโครงการ”
AddVentures ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2017 มีการพัฒนาความร่วมมือหลายลักษณะ ทั้งการเข้าลงทุนผ่านกองทุนชั้นนำที่ลงทุนใน Startup (Fund of Fund Investment) และการลงทุนโดยตรงในสตาร์ทอัพ (Direct Investment) โดยมีความร่วมมือที่สำคัญ เช่น ความร่วมมือกับ GIZTIX Startup ด้าน Logistics Market Place, BUILK Platform การบริหารธุรกิจก่อสร้างซึ่งมีอยู่แล้วใน 5 ประเทศ และ Baania Platform ค้นหาอสังหาริมทรัพย์พร้อมบริการข้อมูลครบวงจร
“เรายังคงเปิดรับโอกาสในการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก เพื่อใช้ความเชี่ยวชาญของเรา ผสานเข้ากับไอเดียของสตาร์ทอัพเหล่านั้น ในการตอบโจทย์ลูกค้าและส่งเสริม Ecosystem ให้เติบโตอย่างยั่งยืน” ดร.จาชชัว กล่าว
ปัจจุบัน AddVentures มีงบลงทุนรวม 6,000 ล้านบาทใน 5 ปี เข้าลงทุนทั้งแบบ Fund of Fund Investment และ Direct Investment รวม 11ราย พร้อมสร้างความร่วมมือเชิงพาณิชย์กับ Tech Startup ทั่วโลกรวมกันกว่า 70 โครงการ ทั้งในระดับ Early stage และ Growth stage startups โดยให้ความสนใจ Startup ในหลายประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน อิสราเอล อินเดีย และประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด