Kohler เปิดตัว Dekoda 'เซนเซอร์ติดชักโครก' วิเคราะห์สุขภาพลำไส้จากของเสียในโถ พร้อมแปลงข้อมูลส่งตรงถึงมือถือ

Kohler (โคห์เลอร์) ผู้นำด้านสุขภัณฑ์ได้ก้าวเข้าสู่สมรภูมิ Health Tech เต็มตัว ด้วยการเปิดตัว 'Dekoda' แกดเจ็ตติดตามสุขภาพชิ้นล่าสุด ที่ไม่ได้ติดบนข้อมือคุณ แต่ติดบนขอบชักโครกแทน

การรู้ว่ามีอะไรออกมาจากร่างกายนั้น สำคัญไม่แพ้กับการเลือก 'สิ่งที่จะเข้าไป' นี่คือแนวคิดหลักที่ Kohler ใช้ในการพัฒนา Dekoda ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มใหม่ที่ต้องการเปลี่ยนห้องน้ำให้เป็นฮับสุขภาพที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

Dekoda คืออะไร และทำงานอย่างไร?

Dekoda คือระบบเซนเซอร์อัจฉริยะที่ออกแบบมาเพื่อวิเคราะห์ของเสียที่เราขับถ่ายในแต่ละวัน โดยมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมในห้องน้ำให้กลายเป็นข้อมูลเชิงลึกด้านสุขภาพที่จับต้องได้

มันไม่ได้ใช้กล้องวิดีโอทั่วไป แต่ใช้เซนเซอร์ออปติคัลขั้นสูงที่เรียกว่า 'สเปกโทรสโกปี' (Spectroscopy) ซึ่งติดตั้งอยู่ด้านในขอบโถ เพื่อสังเกตว่าแสงมีปฏิกิริยากับของเสียของคุณอย่างไร จากนั้นอัลกอริทึมจะวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้นเพื่อแปลผลออกมา

ผลลัพธ์ที่ได้คือข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสุขภาพลำไส้ (Gut Health), ระดับความชุ่มชื้นของร่างกาย (Hydration) รวมถึงความถี่, รูปร่าง และความข้นหนืด แต่ฟีเจอร์ที่สำคัญที่สุดและอาจช่วยชีวิตคนได้ คือการแจ้งเตือนอย่างเงียบๆ เมื่อระบบตรวจพบเลือดซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงกว่านั้น

การติดตั้ง ความเป็นส่วนตัว และค่าใช้จ่าย

ตัวอุปกรณ์ Dekoda ถูกออกแบบมาให้ติดตั้งง่ายๆ บนขอบโถสุขภัณฑ์ส่วนใหญ่ด้วยกลไกหนีบแบบขยาย (อย่างไรก็ตาม Kohler เตือนว่ามันใช้ไม่ได้กับโถสีเข้ม เพราะมีปัญหาเรื่องแสง) ด้านนอกโถจะมีส่วนอิเล็กทรอนิกส์หลักและแบตเตอรี่แบบแม่เหล็กที่ถอดชาร์จได้สะดวก ทำให้ไม่ต้องถอนการติดตั้งทั้งหมดเพื่อชาร์จไฟ

ในยุคที่ความเป็นส่วนตัวคือทุกสิ่ง Kohler เน้นย้ำว่าเซนเซอร์ถูกปรับมุมให้ส่องลงเฉพาะภายในโถเท่านั้น จะไม่เห็นผู้ใช้งาน ข้อมูลทั้งหมดที่ส่งไปยังแอปพลิเคชันจะถูกเข้ารหัสแบบ end-to-end และหากใช้กันหลายคนในบ้าน ระบบจะใช้เซนเซอร์ลายนิ้วมือบนรีโมตติดผนังเพื่อแยกแยะว่าข้อมูลนี้เป็นของใคร

ข้อมูลสุขภาพทั้งหมดจะถูกส่งไปที่แอป Kohler Health (มีบน iOS และกำลังจะมาใน Android) แต่การเข้าถึงข้อมูลนี้มีค่าใช้จ่าย Kohler Dekoda เปิดให้พรีออเดอร์ในราคา 599 ดอลลาร์ (ประมาณ 22,000 บาท) และต้องสมัครสมาชิกรายเดือน เริ่มต้นที่ 6.99 ดอลลาร์/เดือน (ผู้ใช้เดียว) หรือ 12.99 ดอลลาร์/เดือน (แผนครอบครัว 5 คน)

สุขภาพที่เริ่มต้นจากการสังเกต

ข้อมูลที่ Dekoda รวบรวมตลอดหลายวัน จะช่วยให้ผู้ใช้ตระหนักได้ว่าเมื่อใดควรดื่มน้ำให้มากขึ้น หรือการเปลี่ยนแปลงอาหารส่งผลต่อการย่อยและการดูดซึมสารอาหารอย่างไร

แม้ว่าระบบจะไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่าเลือดที่พบมาจากไหน แต่การที่มันช่วยแจ้งเตือนก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้ใช้ไม่มองข้ามอาการที่อาจร้ายแรง และไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กได้ทันท่วงที ถือเป็นการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันได้อย่างน่าสนใจ

ที่มา: The Verge

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

นักวิจัยพบยาใหม่ ‘NU-9’ อาจหยุดโรคอัลไซเมอร์ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ยาจะเข้าไปซ่อมระบบภายในให้สมองล้างพิษได้เอง

นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Northwestern พบโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีความเป็นพิษสูง ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการทำลายสมอง พร้อมกับเปิดตัวยาตัวอย่างชื่อ NU-9 ที่มีศักยภาพในการยับยั้งความ...

Responsive image

Disrupt Health Impact Fund ลงทุนใน PocDoc มุ่งพัฒนาการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

กองทุน Disrupt Health Impact Fund ประกาศความคืบหน้าการลงทุนใน “PocDoc” สตาร์ทอัพด้านการวินิจฉัยโรคแบบดิจิทัลในสหราชอาณาจักร พร้อมแผนนำการตรวจสุขภาพสำหรับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs)...

Responsive image

Chai Discovery ยูนิคอร์นด้าน AI Drug Discovery รายล่าสุดที่ OpenAI และครอบครัว Jobs เดิมพันว่าจะมาพลิกโลก

Chai Discovery สตาร์ทอัพ AI Drug Discovery ที่ OpenAI และครอบครัว Jobs ลงทุน ใช้ AI ออกแบบยาใหม่ ลดเวลาและต้นทุนการพัฒนายาอย่างพลิกเกม...