เป็นอีกโครงการที่ประสบความสำเร็จของดิจิทัล เวนเจอร์ส ผู้ศึกษาและพัฒนานวัตกรรมทางการเงินในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ เปิด Digital Ventures Accelerator Batch 1 (DVAb1) โครงการบ่มเพาะและส่งเสริมสตาร์ทอัพให้เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 โดยมีสตาร์ทอัพที่ผ่านการคัดเลือก 10 ทีมจาก 148 ทีม เข้าร่วมหลักสูตรเตรียมความพร้อมอย่างเข้มข้น เพื่อก้าวสู่การเติบโตและความสำเร็จทางธุรกิจแบบก้าวกระโดด มุ่งเน้นการสร้างโอกาสในการต่อยอดธุรกิจกับธนาคารไทยพาณิชย์ และลูกค้าองค์กรของธนาคารฯ โดยทีมวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งด้วยประสบการณ์จากธนาคารฯ และพันธมิตรผู้นำในธุรกิจ อย่าง อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ AddVentures by SCG และ ExpresSo ในเครือปตท. ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างระบบนิเวศให้กับสตาร์ทอัพที่ดีที่สุด เพื่อเสริมขีดความสามารถของสตาร์ทอัพไทยให้เติบโตทัดเทียมระดับสากลได้อย่างยั่งยืน
คุณอรพงศ์ เทียนเงิน ประธานกรรมการบริหารบริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า “ โครงการ DVA ครั้งนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 ด้วยหลักสูตรที่มีความเข้มข้นมากขึ้น ทั้งการจัดโปรแกรม วิทยากร พันธมิตรที่มาร่วม รวมถึงกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ เพื่อให้เป็นโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพที่มุ่งสร้างการเติบโตและขยายขนาดธุรกิจ (grow & scale) อย่างยั่งยืนแบบ 360 องศา ภายใต้การสนับสนุนอย่างเต็มที่จากธนาคารไทยพาณิชย์และดิจิทัล เวนเจอร์ส ทั้งด้านความรู้และเงินทุน ทั้งเงินทุนแบบให้เปล่า 300,000 บาท ตั้งแต่เริ่มโครงการเพื่อให้เป็นเงินหมุนเวียนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในโครงการ และเสนอเงินลงทุนขั้นต่ำ 1 ล้านบาทกับสตาร์ทอัพที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาหลังจบโครงการ และที่สำคัญคือโอกาสในการพัฒนาต่อยอดต่อไปได้อย่างเต็มศักยภาพ ด้วยการส่งเสริมจากธนาคารไทยพาณิชย์และพันธมิตรต่าง ๆ ของธนาคารซึ่งสามารถเชื่อมโยงธุรกิจกับฐานลูกค้าจำนวนมากในตลาด บนแพล็ตฟอร์มและโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลของธนาคารฯ ”
คุณชาล เจริญพันธ์ – Head of Accelerator บริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า “ โครงการ DVAb1 ในปีนี้ได้คัดเลือกสตาร์ทอัพเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 10 ทีม ประกอบด้วยประเภทธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้นจากปีที่แล้วและไม่จำกัดเฉพาะฟินเทค (FinTech) โดยครอบคลุมทั้ง HealthTech EnergyTech PropTech ฯลฯ เพื่อเน้นการสร้างโอกาสในการต่อยอดอย่างรอบด้าน ไม่ใช่เฉพาะแต่กับธนาคาร แต่ยังเปิดกว้างสำหรับโอกาสทางธุรกิจร่วมกับลูกค้าองค์กรของธนาคารด้วย โดยโครงการ DVAb1 ได้รับการสนับสนุนจากหลายองค์กร ได้แก่ AddVentures by SCG ExpresSo ในเครือปตท. และอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ที่ได้มาร่วมสร้าง Tech Community เพื่อส่งเสริมให้ระบบนิเวศสำหรับสตาร์ทอัพที่แข็งแกร่งให้เกิดขึ้นในประเทศไทย หลังจากที่โครงการ DVAb0 ในปีที่แล้วได้รับความสำเร็จอย่างดีในการสร้างมิติใหม่ให้กับวงการสตาร์ทอัพของไทย โดยสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมโครงการฯ ปีที่แล้วได้รับเงินลงทุนต่อเนื่องรวมกว่า 125 ล้านบาท รวมทั้งความสำเร็จในการร่วมมือทางธุรกิจระหว่างสตาร์ทอัพและพาร์ทเนอร์ 31 ราย และได้ทดลองความเป็นไปได้ของผลิตภัณฑ์ (Proof of Concept) ร่วมกับพาร์ทเนอร์ 17 ครั้ง นอกจากนี้สตาร์ทอัพฯ หลายทีมยังมีโอกาสร่วมงานกับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ของธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อต่อยอดธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ OneStockHome สตาร์ทอัพที่สร้างแพลตฟอร์มการซื้อวัสดุก่อสร้างออนไลน์ซึ่งได้รับการต่อยอดธุรกิจร่วมกับเครือซีเมนต์ไทย และกำลังอยู่ในระหว่างการวางแผนงานร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ และ Seekster ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันหางานด้านการบริการสำหรับลูกค้าทั่วไปและ SMEs ได้รับการต่อยอดธุรกิจร่วมกับ อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ฯลฯ ”
10 ทีมที่เข้าร่วมในโครงการ DVAb 1 ประกอบด้วย
- ChomCHOB แพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนแต้มคะแนนบัตรต่างๆ ให้ใช้ได้เสมือนเงิน (Point Exchange Platform) โดยเป็นตัวกลางในการรวบรวมแต้มคะแนนจากบัตรเครดิต และบัตรสมาชิกต่างๆ เข้ามาไว้ในแพลตฟอร์มเดียวกัน ซึ่งจะทำให้สามารถแลกสินค้าและบริการต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งชำระค่าสาธารณูปโภคด้วยระบบแต้มคะแนนได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้แลกแต้มคะแนนสามารถใช้แต้มคะแนนที่กระจัดกระจายมารวมกันเพื่อเพิ่มมูลค่าและเป็นประโยชน์ ในขณะที่องค์กรเจ้าของแต้มคะแนนต่าง ๆ จะลดต้นทุนในการจัดหาสินค้าหรือบริการ ทั้งต้นทุนเวลา ต้นทุนบุคลากร และเพิ่มความหลากหลายในการมีตัวเลือกสินค้าและบริการให้ลูกค้าเลือกมากขึ้น
- Dootv Media ระบบ video streaming เพื่อคอนเทนต์ที่เต็มอรรถรส ผ่านการบริการเกี่ยวกับระบบวิดีโอสตรีมมิ่ง การถ่ายทอดสดออนไลน์ตั้งแต่การถ่ายทำและการส่งสัญญาณ การให้บริการขายหรือเช่าอุปกรณ์เกี่ยวกับถ่ายทอดสดออนไลน์ การผลิตวิดีโอให้กับองค์กรต่างๆ ที่ใช้สำหรับการจัดอบรมในหน่วยงาน และระบบ pay per view เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ซึ่งจะช่วยทำให้องค์กรและหน่วยงานต่างๆ สามารถจัดเก็บข้อมูล หรือแม้กระทั้งเผยแพร่ความรู้ให้แก่สังคมได้อย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น ง่ายต่อการเข้าถึง สามารถวัดผลการรับชม และเปิดโอกาสให้เข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา
- ENERGY RESPONSE แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับการจัดการพลังงานในอาคารอย่างชาญฉลาด ด้วยเทคโนโลยี ‘ENRES’ ที่เปรียบเสมือนเทคโนโลยี Fitbit สำหรับอาคารที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลด้านพลังงาน ซึ่งประกอบไปด้วยเทคโนโลยีด้าน IoT Big data analytic platform และ Predictive insights สำหรับอาคารและโรงงาน ช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจและใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกชั้นยังช่วยตรวจสอบความผิดปกติของระบบอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน
- Event Banana แพลตฟอร์มการจัดการด้านพื้นที่และสถานที่จัดงาน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่สำหรับงานประชุมสัมมนา จัดเลี้ยงปาร์ตี้ อบรม ที่เชื่อมต่อผู้ต้องการจัดงาน กับสถานที่ นับเป็นการเพิ่มตัวเลือกให้กับผู้จัดงานที่บางครั้งต้องประสานงานกับสถานที่จัดงานต่างๆ ด้วยความยุ่งยาก อีกทั้งยังช่วยสร้างโอกาสการใช้งานให้กับเจ้าของสถานที่ที่ปัจจุบันมีอัตราการใช้งานทั่งประเทศไทยมีอยู่เพียง 15% โดย Event Banana ได้รวบรวมสถานที่จัดงานกว่า 800 แห่งในหลากหลายรูปแบบทั่วประเทศไว้ในที่เดียว ผู้ต้องการจัดงานสามารถเปรียบเทียบข้อมูลกับความต้องการต่าง ๆ และสามารถจองสถานที่หรือขอใบเสนอราคาของสถานที่ต่างๆ ที่ใช่ ในงบประมาณที่เหมาะสมผ่าน Event Banana ได้ทันที เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วคลิก
- Happenn ระบบงานอีเว้นที่ครบจบในที่เดียว ด้วยความรวดเร็วในการงานเพียง 1 สัปดาห์ ที่ช่วยประหยัดเวลาและควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มช่องทางการสื่อสารที่ทันสมัย และสามารถวัดผลการจัดงานได้อย่างละเอียด โดยมีระบบเก็บข้อมูลและรายละเอียดทุกอย่างที่ครบถ้วนปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการลงทะเบียน จัดทำแอพพลิเคชั่น การจับคู่ธุรกิจ และการออกแบบเวทีแบบ interactive ซึ่งให้บริการครอบคลุมทั่วภูมิภาคอาเซียน
- JuiceInnov8 เทคโนโลยีลดน้ำตาลเพื่อน้ำผลไม้แห่งอนาคต (Sugar Reduction Technology) ในน้ำผลไม้ด้วย Biotechnology ให้กับกลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรม Food & Beverage ทั้งในไทยและต่างประเทศ เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคน้ำผลไม้ลดปริมาณน้ำตาลและแคลอรี่ที่ได้รับในแต่ละวัน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่งต่อความเสี่ยงในโรคต่าง ๆ ในอนาคต รองรับเทรนด์สุขภาพที่ขยายวงกว้างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- Meticuly ชิ้นส่วนกระดูกทดแทนเพื่อความต้องการเฉพาะบุคคล และง่ายต่อแพทย์ในการผ่าตัด โดยร่วมมือกับแพทย์ในขั้นตอนการออกแบบ และทำการผลิตกระดูกทดแทนจากไทเทเนียมด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ (3D printing) เพื่อนำไปใส่ในผู้ป่วยเพื่อทดแทนกระดูกที่เสียหายในระยะเวลาที่รวดเร็ว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ดีขึ้น อันเนื่องจากสามารถมีผลิตภัณฑ์ที่มีรูปร่างเหมือนกระดูกของผู้ป่วยเอง ทำให้การเคลื่อนไหวหลังผ่าตัดมีความใกล้เคียงเดิมมากที่สุด อีกทั้งไม่ต้องเสียเวลานานในการรอชิ้นส่วนกระดูกทดแทนและปรับแต่งชิ้นส่วนกระดูกให้เข้ากับสรีระผู้ป่วย ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการผ่าตัดของผู้ป่วยลง
- MyCloudFulfillment ระบบจัดการโลจิสติกส์ ให้การซื้อขายเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องสต๊อค ภายใต้คอนเซ็ปต์ “one warehouse connects to all sales channels” ด้วยบริการคลังสินค้าที่ได้มาตรฐานสำหรับสินค้าหลากหลายประเภทและสามารถตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์แบบเรียลไทม์ บริการบรรจุสินค้า (packing) ตามความต้องการของร้านค้าและสินค้าที่สะดวกและง่ายดาย และบริการจัดการขนส่งสินค้าตามช่องทางการขายตามความเหมาะสมทั้งในด้านราคาและความรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความยุ่งยากของการจัดการสินค้าคงเหลือ
- Ooca บริการปรึกษาจิตแพทย์ยุคใหม่ผ่านระบบวิดีโอคอล แพลตฟอร์มเชื่อมต่อระหว่างผู้คนที่มีปัญหาคาใจความเครียดอยากคุยกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาผ่านระบบวิดีโอคอล ด้วยมาตรฐาน การรักษาความลับและความเป็นส่วนตัวให้กับทุกคน เพื่อสร้างค่านิยมใหม่ๆ ในการดูแลสุขภาพจิต และยกระดับสุขภาพจิตใจที่นำไปสู่ความสุขแบบองค์รวม
- Sellorate แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับตัวแทนและนายหน้าขายอสังหาริมทรัพย์อิสระ เริ่มจากการช่วยผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในการสรรหาตัวแทนหรือนายหน้าอิสระที่ดีและเหมาะสมที่สุดบนเครือข่ายของ Sellorate และช่วยตัวแทนหรือนายหน้าอิสระในการเปลี่ยนสื่อการตลาดแบบเดิมๆ ด้วยระบบ digital reality และวิเคราะห์ข้อมูลการตลาด (market intelligence) ที่ช่วยให้ตัวแทนหรือนายหน้าอิสระและลูกค้า เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของโครงการนั้น ๆ ได้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้การขายเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว ด้วยขั้นตอนที่น้อยที่สุดและประสบการณ์ของลูกค้าที่ดีที่สุด
รายละเอียดของโครงการ Digital Ventures Batch 1 ในปีนี้
หลักสูตร DVAb1 ในปีนี้นับได้ว่ามีความพร้อมอย่างเต็มขีดความสามารถด้วยการต่อยอดจากประสบการณ์การจัดหลักสูตรปีที่แล้ว ทั้งการจัดโปรแกรม วิทยากร พันธมิตรที่มาร่วม โดยโครงการ DVAb1 มีระยะเวลา 6 เดือน
- สำหรับช่วง 3 เดือนแรกเป็นการปูพื้นฐานสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมด้วยความรู้ที่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจ ทั้งความรู้ด้านกฎหมายโดย Baker & McKenzie ความรู้ด้านการเงิน โดย PrimeStreet Advisory พร้อมด้วยความรู้ในการทำธุรกิจ Startup
- ส่วนช่วง 3 เดือนหลังจะมุ่งให้สตาร์ทอัพสามารถเติบโตแบบก้าวกระโดดด้วยโปรแกรม Growth Hacking นอกจากนี้ สตาร์ทอัพยังมีพันธมิตรผู้นำในธุรกิจ ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่เหมาะสมกับธุรกิจแต่ละทีมมาแชร์ประสบการณ์และให้คำปรึกษา ที่สำคัญคือ สตาร์ทอัพทุกทีมจะได้รับโอกาสปรึกษาเรื่องเงินลงทุน และความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีกับทีมผู้บริหารของ ดิจิทัล เวนเจอร์ส อย่างใกล้ชิด
ไฮไลท์ของโครงการ Digital Ventures Batch 1 มีอะไรบ้าง?
“ อีกหนึ่งความพิเศษของปีนี้คือการที่เราเปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพและเมนเทอร์จับคู่กันเองตามความเหมาะสม ทั้งในด้านความเชี่ยวชาญทางธุรกิจ และเคมีที่ตรงกัน และยังคงเป็นการจับคู่กันแบบหนึ่งต่อหนึ่ง เพื่อให้สตาร์ทอัพได้รับประโยชน์และความรู้จากเมนเทอร์อย่างเต็มที่ นอกจากนี้สตาร์ทอัพที่เข้าโครงการยังมีโอกาสได้รับการต่อยอดทางธุรกิจทั้งจากธนาคารไทยพาณิชย์เอง และลูกค้าองค์กรของธนาคารฯ พร้อมทั้งโอกาสในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์การทำสตาร์ทอัพกับ Accelerator ชั้นนำในต่างประเทศ โดยมุ่งหวังให้ DVA เป็นโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพที่ดีที่สุดในประเทศไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ” คุณชาล เจริญพันธ์ กล่าวสรุปถึงไฮไลท์ของ DVAb1