ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าในช่วงปีหลัง ๆ โครงการ Accelerator เริ่มมีให้เห็นน้อยลง โดยเฉพาะโครงการที่เกิดจากภาคเอกชน ด้วยการเติบโตของ Startup Ecosystem ในไทย และทิศทางของ Corporate ที่เน้นลงทุนใน Startup ช่วง Growth Stage มากกว่าการสนับสนุน Startup ที่ยังอยู่ในช่วง Seed นอกจากนี้โครงการที่ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมก็ยิ่งมีให้เห็นน้อยลงสวนทางกับปัญหาในสังคมที่มีกันให้เห็นชัดมากขึ้นทุกที โดยเฉพาะเรื่องช่องว่างทางรายได้ ปัญหาสังคมผู้สูงวัย การสร้างและเสริมทักษะเฉพาะของบุคคลในสังคม และอื่น ๆ
จึงเป็นเรื่องน่ายินดีในวงการ Startup เมื่อพฤกษาประกาศจัดโครงการ ‘Accelerate Impact with PRUKSA’ เปิดโอกาสนักธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) เติบโต และรับโอกาสต่อยอดธุรกิจ ร่วมเป็นพันธมิตรกับพฤกษา มุ่งพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืนคืนสู่สังคมและสิ่งแวดล้อม
นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เล่าถึงที่มาที่ไปของโครงการนี้ว่า “หนึ่งในพันธกิจหลักของพฤกษา คือ ร่วมสร้างคุณค่าที่ยั่งยืน และสร้างโอกาสที่ดีให้กับสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม พฤกษาจึงต้องการสนับสนุนธุรกิจเพื่อสังคมที่มีเป้าหมายและปณิธานแบบเดียวกัน มาร่วมสานฝัน นำนวัตกรรมเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจ และสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ต่อสังคมให้เป็นรูปธรรมได้อย่างยั่งยืน
จึงได้ริเริ่มโครงการนำร่องบ่มเพาะสตาร์ทอัพ "Accelerate Impact with PRUKSA" ที่จัดขึ้นปีนี้เป็นปีแรก เพื่อเฟ้นหาและสนับสนุนสตาร์ทอัพไทยที่ดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ที่ต้องการความช่วยเหลือในการขยายกิจการให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อให้สตาร์ทอัพได้บรรลุเป้าหมายสร้างผลกระทบเชิงบวกในการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมตามเป้าหมายขององค์กรได้อย่างแท้จริง”
"Accelerate Impact with PRUKSA" เป็นโครงการนำร่องบ่มเพาะสตาร์ทอัพที่พฤกษาจัดขึ้นในปีนี้เป็นปีแรก เพื่อเฟ้นหา และสนับสนุนบริษัทในประเทศไทยที่ดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ที่ต้องการความช่วยเหลือในการขยายกิจการให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อให้บริษัทที่เข้าโครงการได้บรรลุเป้าหมายสร้างผลกระทบเชิงบวกในการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมตามเป้าหมายขององค์กรได้อย่างแท้จริง
สำหรับธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ที่พฤกษามองหา ต้องมีเป้าหมายควบคู่กันทั้ง 2 ด้าน (double bottom lines) คือ (1) การสร้างกำไรจากการดำเนินธุรกิจ และ (2) การสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม เป็นกิจการที่มีพันธกิจมุ่งพัฒนาชีวิตและความเป็นอยู่ของกลุ่มคนหรือบุคคลที่ถูกลดความสำคัญ หรือไม่ได้รับการปฎิบัติอย่างเท่าเทียม ทั้งในด้านการแก้ไขปัญหาทักษะที่ไม่ตรงกับงาน ช่องว่างของรายได้ การพัฒนาทักษะเดิม (Upskill) เพิ่มเติมทักษะใหม่ (Reskill) รวมถึง นวัตกรรมโซลูชั่น การจ้างงาน หรือ โซลูชั่นเชิงรุกในด้านการดูแลผู้สูงวัย เพื่อช่วยให้ผู้สูงวัยมีจุดมุ่งหมายในชีวิตใหม่ได้ (Renewed Purpose in Life)
บริษัทที่เข้าร่วมโครงการจะต้องพร้อมขยายต่อยอดธุรกิจ เพื่อสร้างผลกระทบต่อสังคมได้มากขึ้น โดยใช้เงินทุนสนับสนุนที่ได้รับจากโครงการฯ จะสามารถเข้าถึงทรัพยากรภายในของพฤกษา ทั้งในแง่การเพิ่มทักษะ ขยายศักยภาพ เครือข่ายธุรกิจ ความสามารถด้านการพัฒนานวัตกรรม และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจเพื่อทำให้ธุรกิจปัจจุบันส่งผลเชิงบวกต่อสังคมได้มากขึ้นไปอีกขั้น จึงอยากขอเชิญชวนนักธุรกิจเพื่อสังคมที่มีลักษณะทางธุรกิจ ตามรายละเอียดด้านล่างเข้ามาร่วมโครงการ :
• จดทะเบียนเป็นบริษัทในไทย มีรูปแบบธุรกิจที่ดำเนินงานจริง มียอดขาย และรายได้ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินอยู่ได้ด้วยตัวเองอย่างยั่งยืน
• มีโซลูชั่นเชิงนวัตกรรมเพื่อจัดการแก้ปัญหาสังคม
• มีแผนธุรกิจที่แข็งแกร่ง มีศักยภาพในการขยายธุรกิจและการดำเนินงาน เพื่อสร้างผลกระทบ และเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น ยกตัวอย่าง เช่น การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มต่าง ๆ เป็นต้น
• มีกรอบในการวัดผล และมีการติดตามตัวชี้วัดที่สำคัญ เช่น อัตราการเติบโตของธุรกิจ สถานะการเงิน การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและตัวชี้วัดผลกระทบ เป็นต้น
• มีความเป็นผู้นำสูง มีประสบการณ์ในทีม พร้อมด้วยความมุ่งมั่นที่ชัดเจนในการสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนเพื่อสร้างผลกระทบ
บริษัทที่ได้รับคัดเลือกในโครงการ “Accelerate Impact with PRUKSA" จะได้รับเงินสนับสนุนขั้นต้นจากพฤกษาจำนวน 6 แสนบาท และยังมีโอกาสได้รับเงินทุนสนับสนุนเพิ่มเติม จาก “ทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์” ซึ่งเป็นกองทุนเงินส่วนตัวของ นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ที่สำคัญไปกว่านั้นบริษัทจะได้รับการพิจารณาคัดเลือกเพื่อรับเงินลงทุนจากพฤกษา ภายใต้ Corporate Venture Capital ( CVC) และได้รับความช่วยเหลือทางด้านทรัพยากรภายในจากพฤกษา เช่น มีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาด้านการวางแผนธุรกิจ แนะนำด้านการวางกลยุทธ์ การขยายกิจการ การฝึกอบรมเพิ่มเติมความรู้ สร้างและขยายเครือข่ายธุรกิจในอุตสาหกรรม อีกด้วย
โดยผู้เข้ารอบสุดท้ายจะได้ร่วมกิจกรรม Boots Camps ค่ายอุ่นเครื่องสตาร์ทอัพ และเข้าร่วมโปรแกรมพัฒนาธุรกิจอย่างจริงจังเป็นเวลา 3 เดือน รวมทั้งเวิร์คช้อปการนำเสนอแผนธุรกิจโชว์ เคสอย่างมืออาชีพ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครร่วมโครงการ Accelerate Impact with PRUKSA ได้ที่ www.PRUKSAimpact.com
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด