Ajaib สตาร์ทอัพแพลตฟอร์มเทรดหุ้น ที่มีคนไทยเป็น Co-Founder ขึ้นแท่นยูนิคอร์นเร็วที่สุดในอินโดนีเซีย | Techsauce

Ajaib สตาร์ทอัพแพลตฟอร์มเทรดหุ้น ที่มีคนไทยเป็น Co-Founder ขึ้นแท่นยูนิคอร์นเร็วที่สุดในอินโดนีเซีย

Ajaib สตาร์ทอัพแพลตฟอร์มซื้อขายหุ้น ได้กลายเป็นสตาร์ทอัพที่ขึ้นสู่ระดับยูนิคอร์นที่เร็วที่สุดในอินโดนีเซีย ภายหลังจากที่ได้รับเงินลงทุน 153 ล้านดอลลาร์สหรัฐในรอบการระดมทุนซีรีส์ B นำโดยนักลงทุนจาก DST Global ซึ่งเป็น Venture Capital ที่สนับสนุน Robinhood Markets แพลตฟอร์มเทรดหุ้นออนไลน์ระดับโลก

Ajaib เป็น Startup พัฒนาแพลตฟอร์มซื้อขายหุ้นที่ก่อตั้งขึ้นโดยศิษย์เก่าระดับปริญญาโทบริหารธุรกิจ (MBA) จากมหาวิทยาลัย Stanford สหรัฐอเมริกา นั่นก็คือคุณ Anderson Sumarli และคุณญาดา ปิยะจอมขวัญ ทั้งสองคนใช้ได้เวลาในการเดินหน้าพา Ajaib ขึ้นสู่ระดับยูนิคอร์นในระยะเวลาเพียง 2 ปีครึ่งเท่านั้น จึงกลายเป็น Startup รายแรกที่สามารถทะยานสู่ยูนิคอร์นได้เร็วที่สุดของประเทศอินโดนีเซีย 

ทั้งนี้ นอกจาก DST Global จะเข้ามาลงทุนใน Ajaib แล้ว ยังมีนักลงทุนรายอื่นที่ได้เข้าร่วมการระดมทุนครั้งนี้ได้แก่ Ribbit Capital, IVP, ICONIQ, Insignia Ventures, Alpha JWC Ventures, SoftBank Ventures และ Horizons Ventures 

การที่มูลค่าของ Ajaib ได้รับการประเมินสูงขึ้นเช่นนี้ สะท้อนถึงความสนใจของนักลงทุนรายย่อยที่มีต่อ Startup ของอินโดนีเซียมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย Startup ที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของปรากฏการณ์คือ PT Bukalapak โดยได้เปิดเสนอขายหุ้นแก่สาธารณะ (IPO) ในเดือนสิงหาคม และประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม กลายเป็นจุดเริ่มต้นผลักดันให้ Tech Startup รายอื่นในอินโดนีเซียอย่าง GoTo ตัดสินใจนำบริษัทจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 18,000 ลานดอลลาร์

“การขาย IPO ของ Bukalapak ได้ดึงดูดความสนใจจากกลุ่ม Millennials และ Generation Z เป็นอย่างมาก” Anderson sumarli ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Ajaib กล่าวจากการสัมภาษณ์ “วิสัยทัศน์ของบริษัทเราก็คืออำนวยความสะดวกให้นักลงทุนรุ่นใหม่ได้เข้าถึงบริการการเงินที่ทันสมัย โดยพวกเขาก็ได้รับผลงอกเงยจากการเข้าไปลงทุน รวมไปถึงประเทศก็จะเติบโตไปด้วย”

โดย Ajaib Startup ที่มีความหมายว่า เวทมนตร์ นี้ ก็ได้รับความนิยมอย่างมหาศาลในช่วงโควิด-19 เพราะพฤติกรรมนักลงทุนรายย่อยเปลี่ยนไป และทยอยเข้าเทรดหุ้นออนไลน์เป็นครั้งแรก ภายหลังจากที่ Ajaib ได้เงินลงทุนครั้งนี้ ทางธุรกิจจะวางแผนรับสมัครวิศวกร 100 คน ผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์และวิเคราะห์ข้อมูล และพนักงานอีก 200 คนในอีก 6 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ Ajaib จะวางแผนปรับปรุงแอปและเสนอบริการการลงทุนประเภทอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายมาร์จิ้น หุ้นใหม่ และกองทุนรวม


อ้างอิงจาก Bloomberg


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ไม่ยอมขายแอป ก็โดนแบน สหรัฐฯ จ่อแบน TikTok หวั่นเป็นภัยความมั่นคงชาติ

สหรัฐฯ ผ่านกฎหมายแบน TikTok แล้ว บังคับบริษัทแม่ ByteDance ต้องขายแอปภายใน 1 ปี มิฉะนั้นจะถูกแบนในสหรัฐฯ ด้านซีอีโอ TikTok ประกาศกร้าว พร้อมท้าทายกฎหมาย ไม่ไปไหนทั้งนั้น...

Responsive image

KBank ผนึก J.P. Morgan เปิดโปรเจกต์ Carina ใช้บล็อกเชน ลดเวลาทำธุรกรรมจาก 72 ชั่วโมงเหลือ 5 นาที

Kbank ร่วมกับ J.P. Morgan Chase Bank เปิดตัวโปรเจคต์นวัตกรรมคารินา (Carina) ลดระยะเวลาการทำธุรกรรม จากที่ใช้เวลา 72 ชั่วโมงเหลือเพียงแค่ 5 นาที...

Responsive image

Apple Vision Pro ขายไม่ดีอย่างที่คิด Apple ลดคาดการณ์ยอดขายกว่าครึ่ง ปรับแผนใหม่

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สาย Apple เผยว่า Apple ได้ลดตัวเลขยอดขาย Apple Vision Pro ในปีนี้เหลือเพียง 400-450,000 เครื่องเท่านั้น ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ (มากกว่า 700–800,000 เครื่อง)...