เมื่อคืนวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา Apple เปิดตัวโฆษณา Final Cut Pro และ Logic Pro และเตรียมเปิดให้ดาวน์โหลดบน App Store วันที่ 23 พฤษภาคม แบบระบบสมัครสมาชิก
Apple เตรียมนำ Logic Pro และ Final Cut Pro ลงบน App Store เพื่อให้สามารถใช้บน iPad ได้โดยจะต้องเป็นรุ่นที่ใช้ชิป M1 เป็นต้นไป โดยสำหรับ Final Cut Pro จะรองรับบน iPad และ iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 5 หรือ 6), iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (รุ่นที่ 3 หรือ 4) , iPad Air (รุ่นที่ 5) ที่ใช้ iPadOS 16.4 หรือใหม่กว่านั้น
ราคาสมาชิกของทั้งสองแอปนี้จะอยู่ที่ 199 บาทต่อเดือน และ 1,999 บาทต่อปี โดยสามารถทดลองใช้ฟรี 1 เดือน
หากเทียบกับราคาซื้อขาดบน Mac แล้ว Logic Pro จะอยู่ที่ 6,999 บาท และ Final Cut Pro จะอยู่ที่ 9,999 บาท หากต้องการเวอร์ชั่นแบบพรีเมี่ยมก็สามารถซื้อได้ในราคา 94.99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3,229 บาท สำหรับ Final Cut Pro
Logic Pro และ Final Cut Pro ที่จะลงให้ใช้บน iPad นี้มีการปรับปรุงระบบให้เข้ากับ iPad โดยเฉพาะตัวอย่างเช่น Final Cut Pro จะมาพร้อมกับ jog wheel ใหม่ที่น่าจะทำให้กระบวนการแก้ไขง่ายขึ้นช่วยให้สามารถเลื่อนแทป magnetic timeline ได้สะดวกขึ้น สามารถย้ายคลิป และ แก้ไขตัดต่อได้เพียงแค่ใช้นิ้วในระบบแบบ Multi- touch
ภาพจาก : Apple
ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มมาอย่าง Live Drawing ช่วยให้สามารถใช้ Apple Pencil เพื่อวาดและเขียนลงบนวิดีโอ ได้โดยทันที หากเรามี iPad Pro ที่มีชิป M2 จะสามารถใช้ฟีเจอร์ในการเลื่อนแทนเมาส์โดยใช้ Apple Pencil เพื่ออ่านและดูตัวอย่างฟุตเทจโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ
ฟีเจอร์เจ๋งๆที่เพิ่มขึ้นมาใน Logic Pro บน iPad คือสามารถเล่นคีย์บอร์ดหรือเครื่องดนตรีบนแอปนอกจากนี้ยังมี dynamic filtering บราวเซอร์ช่วยค้นหาเสียงประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น instrument patches, audio patches, plug-in presets, samples และ loops
Apple ยังเปิดตัว Plug-in สำหรับเปลี่ยนจังหวะและเวลาสำหรับ Logic Pro ที่เรียกว่า Beat Breaker เพียงแค่ปัดและบีบนิ้วก็สามารถ ปรับรูปร่างและสับเปลี่ยนเสียงได้และยังรองรับ Apple Pencil เช่นกัน สามารถวาดเส้นขึ้นมาแบบอัตโนมัติและละเอียด
Logic Pro และ Final Cut Pro ยังสามารถเชื่อมต่อกับ Magic Keyboard หรือ Smart Keyboard Folio เพื่อใช้คำสั่งบนคีย์บอร์ดได้ อีกฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือสามารถย้ายโปรเจ็กต์ใดๆ ก็ตามระหว่าง Mac และ iPad บนแอป Logic Pro ตลอดจน Export เพลงไปยัง Final Cut Pro บน iPad ได้เลย ซึ่ง Logic Pro บน iPad ยังสามารถเปิดโปรเจ็กต์ที่สร้างใน GarageBand บน iOS ได้เช่นกัน
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด