รวมผลรายงานกำไรสุทธิของธนาคารในไทยประจำปี 2018

รวมผลรายงานกำไรสุทธิของธนาคารในไทยประจำปี 2018

ในเวลานี้ หลายธนาคารได้เริ่มเผยผลประกอบการประจำปีออกมาให้เห็นกันบ้างแล้ว ซึ่ง Techsauce ได้รวบรวมผลกำไรสุทธิของ 8 ธนาคารนำเสนอออกมาเป็นกราฟดังนี้ โดยธนาคารที่ได้ผลกำไรสุทธิมากที่สุดคือธนาคารไทยพาณิชย์ ตามมาด้วยธนาคารกสิกรไทยและธนาคารกรุงเทพ

รายงานผลประกอบการประจำปี 2018 จาก 8 ธนาคารในไทย

ธนาคารกรุงเทพ 

ธนาคารมีกำไรสุทธิ จำนวน 35,330 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.0 จากปี 2017 โดยมีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 121,401 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.9 ซึ่งมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.1 ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 2.40 และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.1 จากการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิจากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศ และกำไรสุทธิจากเงินลงทุน แม้ว่าจะมีการยกเว้นค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัล รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิของธนาคารและบริษัทย่อยยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน เนื่องจากค่าธรรมเนียมจากบริการประกันผ่านธนาคารและบริการกองทุนรวมเติบโตดี ขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ร้อยละ 45.4

ธนาคารกรุงไทยและบริษัทย่อย (“กลุ่มธนาคาร”)

ธนาคารมีกำไรสุทธิ จำนวน 28,491 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.0% จากปีก่อน และกำไรสุทธิในไตรมาส 4/2561 เติบโต โดยกลุ่มธนาคารมีสินเชื่อรวมเติบโต 4.4% จากสิ้นปีก่อน สินเชื่อทุกกลุ่มเติบโตอย่างโดดเด่นในไตรมาสสุดท้ายของปี อีกทั้งสามารถบริหารต้นทุนทางการเงินในระดับที่เหมาะสม มุ่งเน้นการบริหารความเสี่ยงอย่างต่อเนื่องตามหลักความระมัดระวัง ทั้งจากนโยบายการจัดชั้นเชิงคุณภาพที่เข้มงวดขึ้น และนโยบายการตั้งค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ และหนี้สงสัยจะสูญอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลมีอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 125.81%

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ

ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 24,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.9% จากปี 2017 ปัจจัยขับเคลื่อนผลการดำเนินงานมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจากการเติบโตของเงินให้สินเชื่อที่สูงถึง 10.4% และการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม รวมทั้งการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ตอกย้ำศักยภาพที่แข็งแกร่งของกรุงศรีและความคล่องตัวในการปรับพอร์ตสินเชื่อในกลุ่มธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนสูง

ธนาคารกสิกรไทย (KBank)

ธนาคารมีผลกำไรสุทธิจำนวน 38,459 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 4,121 ล้านบาท หรือ 12.00%  เกิดจากธนาคารมีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญลดลง ซึ่งสอดคล้องกับคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคาร นอกจากนี้ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน4,377 ล้านบาท หรือ 4.65% ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ดอกเบี้ยรับของเงินให้สินเชื่อ และเงินลงทุน โดยอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin:NIM) อยู่ที่ระดับ 3.39% สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงจำนวน 5,750 ล้านบาท หรือ 9.17% ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการยกเลิกค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่านช่องทางดิจิทัล และรายได้สุทธิจากการรับประกันภัยลดลง ในขณะที่รายได้จากผลิตภัณฑ์ตลาดเงินเพิ่มขึ้นจากธุรกรรมอัตราแลกเปลี่ยน นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ เพิ่มขึ้นจำนวน 1,976 ล้านบาท หรือ 2.98% หลัก ๆ เกิดจากค่าใช้จ่ายทางการตลาด ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to income ratio) อยู่ที่ระดับ 43.96%

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMB)

ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคาร สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561 มีกำไรสุทธิจำนวน 6.9 ล้านบาท ลดลงจำนวน 378 ล้านบาท หรือร้อยละ 98.2 เมื่อเทียบกับผลกำไรสุทธิของปี 2560  กำไรก่อนภาษีเงินได้จำนวน 271.2 ล้านบาท ลดลงจำนวน 217.6 ล้านบาทหรือร้อยละ 44.5 สาเหตุหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานร้อยละ 9.6 และการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิและรายได้อื่น ร้อยละ 7.0 และร้อยละ 2.6  ตามลำดับสุทธิกับการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิร้อยละ 5.3 และการลดลงของสำรองหนี้สงสัยจะสูญร้อยละ 2.6

ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (TMB)

ธนาคารมีผลกำไรสุทธิจำนวน 11,601 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จากปีก่อน พร้อมเพิ่มอัตราส่วนสำรองฯ ต่อ NPL มาอยู่ที่ 152% เพื่อเตรียมรับ IFRS 9 และมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองฯ 30,540 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.7% หนุนโดยรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากการรับรู้กำไรจากดีลอีสท์สปริง ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง โดยยังคงดูแลคุณภาพสินทรัพย์อย่างใกล้ชิด ทั้งยังเตรียมความพร้อมรับ IFRS 9 ด้วยการตั้งสำรองฯ เพิ่มจากระดับปกติเป็นจำนวน 7,000 ล้านบาท ในปี 2018 ธนาคารดำเนินการตั้งสำรองฯ ทั้งสิ้น 16,100 ล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วนสำรองฯ ต่อ NPL (Coverage Ratio) ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการรองรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 152% จาก 143% ในปีก่อนหน้า ขณะที่อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่ 2.76% โดยหลังหักสำรองฯ และภาษี ธนาคารรายงานกำไรสุทธิที่ 11,601 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.6% จากปีที่แล้ว

ธนาคารไทยพาณิชย์และบริษัทย่อย (SCB)

ธนาคารมีผลกำไรสุทธิจำนวน 40,068 ล้านบาท (งบการเงินรวมก่อนตรวจสอบ) ลดลง 7.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในปี 2018 รายได้จากการดำเนินงานของธนาคารยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีจำนวน 138,225 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.5% จากปีก่อน เป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เติบโต 4.4% ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยปรับตัวลดลง 4.7% จากปีก่อน การยกเลิกค่าธรรมเนียมสำหรับธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางดิจิทัล การชะลอตัวของธุรกิจประกันภัย และการลดลงของค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศในครึ่งปีหลัง เป็นสาเหตุหลักของการลดลงของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของธนาคารเพิ่มสูงขึ้นจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องในโครงการ Transformation ตลอดสามปีที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้อยู่ที่ 46.8ในปี 2018 ซึ่งอยู่ในระดับที่คาดการณ์ไว้ที่ 45-47ทั้งนี้ ธนาคารคาดว่าอัตราส่วนดังกล่าวจะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อผลลัพธ์ของโครงการ Transformation ปรากฏเด่นชัดขึ้นตามลำดับตั้งแต่ปี 2019

ธนาคารธนชาต

ธนาคารมีผลกำไรสุทธิจำนวน 14,703 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 แล้ว โดยเฉลี่ยเติบโตปีละ 10% ขณะที่ตัวเลขหนี้เสีย (NPL Ratio) ยังคงที่ 2.3% และรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเติบโต 5.53% สินเชื่อเติบโต 5.88% และมีสินทรัพท์รวมกันกว่า 1 ล้านล้านบาท

หากมีการเผยผลประกอบการจากธนาคารอื่นๆเพิ่มเติม Techsauce จะรวบรวมและสรุปมาผู้อ่านอีกครั้ง

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

'บ้านปู' ประกาศกลยุทธ์ใหม่ Energy Symphonics เตรียมมุ่งสู่ปี 2030 เปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างยั่งยืน พร้อมเป้าหมาย Net Zero ในปี 2050

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลาย ประกาศกลยุทธ์ใหม่ 'Energy Symphonics' หรือ “เอเนอร์จี ซิมโฟนิกส์” เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่ปี 2030 เน้นการเปลี่ยนผ่านพลังงานอ...

Responsive image

Google เผยเศรษฐกิจดิจิทัลไทย โตอันดับ 2 ใน SEA มูลค่า 1.61 ล้านล้านบาท ขับเคลื่อนด้วยอีคอมเมิร์ซและการท่องเที่ยวเป็นหลัก

เศรษฐกิจดิจิทัลไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว คาดว่าในปี 2567 มูลค่ารวมของสินค้าดิจิทัลหรือ GMV จะเพิ่มขึ้นถึง 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.61 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566...

Responsive image

AMD ประกาศลดพนักงาน ราว 1,000 คนทั่วโลก หวังเร่งเครื่องสู่ตลาดชิป AI

AMD ผู้ผลิตชิปรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ประกาศแผนปรับโครงสร้างองค์กรครั้งสำคัญ โดยจะปลดพนักงานประมาณ 1,000 คน หรือคิดเป็น 4% ของพนักงานทั้งหมด 26,000 คนตามข้อมูลที่บริษัทยื่นต่อสำนักง...