Facebook ร่วมกับ มูลนิธิคีนันแห่งเอเชีย (Kenan Foundation Asian) จัดโครงการ "Boost with Facebook" เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และขนาดย่อย (MSMEs) ของไทย
“Boost with Facebook” จะช่วยผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดย่อมของไทยไทยด้วยทักษะที่จำเป็นในการสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในเศรษฐกิจดิจิทัลยุคใหม่
ภายในการอบรมในครั้งนี้ Facebook ได้จัดหลักสูตรอบรมวิทยากร ทำการอบรมเครือข่ายผู้ฝึกสอนรวมทั้งพันธมิตรของคีนัน โดยนำหลักสูตร Digital Marketing เวอร์ชั่นภาษาไทย มาใช้ในการอบรม ซึ่งครอบคลุมหัวข้อสำคัญเช่นการสร้างหน้าธุรกิจ Facebook และ Instagram การใช้เครื่องมือเนื้อหาที่สร้างสรรค์ และการเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมด้วยข้อมูลเชิงลึก เพื่อเพิ่มพูนทักษะ ประสบการณ์ และความรู้ อันจะเป็นการต่อยอดด้านดิจิทัลให้แก่ผู้ประกอบการไทยที่เข้าอบรม และนำไปต่อยอด แผยแพร่ทำการฝึกอบรมธุรกิจขนาดเล็กทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย
โปรแกรมฝึกอบรมนี้จะจัดขึ้นทั่วประเทศ ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงพฤศจิกายน ทั้งในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ พื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ โดยตั้งเป้าถูกส่งโดยตรงไปยังเจ้าของและผู้จัดการธุรกิจขนาดเล็กกว่า 1,000 คน ในขณะเดียวกันยังเป็นการช่วยการก่อตัวของสังคมที่ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ ในการร่วมกันขับเคลื่อนสังคม และเศรษฐกิจต่อไป
เบธ แอน ลิม หัวหน้าฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ของ Facebook ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค กล่าวถึงเป้าหมายของโปรแกรม “Boost with Facebook” ภายในงานเปิดตัวว่า “คนไทยมีความกระตือรือร้น มีจิตวิญญาณความเป็นเจ้าของธุรกิจ และมีแรงขับเคลื่อนในการทำสิ่งต่างๆ รวมถึงเห็นความสำคัญของทักษะด้านดิจิทัลที่จะช่วยสร้างธุรกิจของพวกเขาให้เติบโต เราหวังว่าโปรแกรมนี้จะช่วยเพิ่มพูนทักษะให้กับภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยเรามุ่งเสริมความรู้ในการใช้เครื่องมือดิจิทัลต่างๆ ให้กับเอสเอ็มอีไทยที่มาจากชุมชนที่มีความหลากหลายทั่วประเทศ เพื่อทำให้ผู้ประกอบการไทยมีความพร้อมที่จะเข้าสู่สังคมเศรษฐกิจดิจิทัลได้ Facebook มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย รวมถึงพันธมิตรทั้งภาครัฐและชุมชน ในการขยายทักษะด้านดิจิทัลในประเทศไทย”
ข้อมูลจากรายงาน Future of Business ระบุว่า ภาคธุรกิจและภาคชุมชนของไทยนั้นมีการเปิดรับสังคมเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างกว้างขวาง โดยร้อยละ 78 กล่าวว่าพวกเขาใช้เครื่องมือดิจิทัล เช่น Facebook ในการแสดงสินค้าและบริการให้แก่ลูกค้า ผลการศึกษายังระบุอีกว่าร้อยละ 94 ของธุรกิจขนาดเล็กที่เข้าร่วมการสำรวจในครั้งนี้ตระหนักดีว่าการโปรโมทสินค้าและบริการผ่านช่องทางดิจิทัล รวมถึงช่องทางโซเชียลต่างๆ มีความสำคัญและมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการดำเนินธุรกิจ
ในปี 2561 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจดิจิทัลคิดเป็นอัตราส่วนร้อยละ 19 ของจีดีพีของประเทศไทย และคาดการณ์ว่าจะสร้างรายได้ถึง 2.82 แสนล้านบาท ภายในปี 2564 ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางกว่า 3 ล้านรายในไทยที่คาดว่าจะสร้างรายได้คิดเป็นร้อยละ 43 ของจีดีพีรวมของประเทศ ภายในปี 2562 อย่างไรก็ตาม รายงานผลสำรวจยังเผยว่ามีผู้ประกอบการที่เข้าร่วมการสำรวจไม่ถึงร้อยละ 16 ที่รู้สึกมั่นใจว่าตนเองมีความรู้ในการใช้เครื่องมือดิจิทัลสำหรับธุรกิจได้อย่างชำนาญ1
คุณอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวในงานเปิดตัวโปรแกรม“Boost with Facebook” ว่า “ความพยายามของรัฐบาลไทยไม่เพียงแค่สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเร่งส่งเสริมการพัฒนาดังกล่าวด้วย รัฐบาลจึงต้องปฏิบัติเสมือนผู้ช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้างสรรค์ระบบนิเวศน์ที่จะช่วยส่งเสริมการเติบโตด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของภาคเอกชน ซึ่งมีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอสเอ็มอีและสตาร์ตอัพ ความเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของรัฐบาลว่า เศรษฐกิจดิจิทัลจะช่วยส่งเสริมการปฏิรูปด้านเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งนำไปสู่การเติบโตในทุกมิติอย่างมั่นคง จะไม่เกิดขึ้นหากปราศจากการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในความริเริ่มของโปรแกรมนี้”
ด้านคุณปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ประธานอำนวยการและรองประธานกรรมการมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย กล่าวว่า “นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ Facebook ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียระดับโลก เลือกมูลนิธิคีนันเป็นพันธมิตรด้านองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ในการดำเนินโครงการนี้ การส่งเสริมธุรกิจขนาดเล็กให้แข็งแกร่งและประสบความสำเร็จในเศรษฐกิจระดับโลกได้นั้น ถือเป็นเป้าหมายหลักของมูลนิธิในการจัดอบรมเพื่อช่วยเหลือธุรกิจขนาดย่อยและขนาดเล็ก และช่วยให้พวกเขาสามารถทำฝันให้เป็นจริงได้ โปรแกรม “Boost with Facebook” นี้จะช่วยเพิ่มโอกาสการเป็นเจ้าของกิจการให้กับกลุ่มคนที่ถูกกีดกันทางสังคม และสนับสนุนให้ พวกเขาได้เรียนรู้ทักษะทางธุรกิจที่จำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21 รวมถึงยกระดับประสิทธิภาพทางการแข่งขัน ในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก และผลักดันให้นโยบายประเทศไทย 4.0 สำเร็จลุล่วง ตลอดจนนำไปสู่สังคมที่มี ความเท่าเทียมกันมากขึ้น”
ภายในงานเปิดตัวโปรแกรมดังกล่าว ยังได้รับเกียรติจากตัวแทนจากภาครัฐและชุมชน ได้แก่ นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) ดร.วิมลกานต์ โกสุมาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจ ขนาดกลางและย่อม (สสว.) ดร.สุมาวสี ศาลาสุข ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายธุรกิจดิจิทัล ธนาคารวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อมและ นายนิกร ฉิมคง ประธานองค์กรบางกอกเรนโบว์ เข้าร่วมการเสวนาในหัวข้อ “ความสำคัญของความร่วมมือในการสนับสนุนเอสเอ็มอีไทย” โดยมีการแบ่งปันข้อมูลเชิงลึก คำแนะนำที่นำไปใช้ได้จริงเพื่อการเข้าสู่การปฏิรูปดิจิทัล เรื่องราวของความสำเร็จที่สร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานและความริเริ่มในโครงการต่างๆ ที่มีอยู่ซึ่งช่วยสนับสนุนการเติบโตของภาคธุรกิจในประเทศไทย
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด