สื่อต่างประเทศรายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ได้ให้การสนับสนุนการตัดสินใจของหน่วยงานกำกับดูแลยาของบราซิลในการระงับนำเข้าวัคซีน Sputnik V ของรัสเซีย หลังจากที่ได้มีการทดสอบแล้วพบข้อบกพร่องร้ายแรง ที่จะส่งผลให้มีผลข้างเคียงสูง แต่ทางสถาบัน Gamaleya ของรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้พัฒนาวัคซีนได้ปฏิเสธรายงานผลการทดสอบดังกล่าว
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับวัคซีนของรัสเซียนั้น ได้ถูกตั้งคำถามด้านความสมบูรณ์ของกระบวนการผลิต โดยเฉพาะการพบ Adenovirus ที่ปรากฎในวัคซีนจำนวนมาก เนื่องจาก Adenovirus เป็นกลุ่มของเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ซึ่งวิธีการผลิตวัคซีน Sputnik V นั้น เป็นการใช้เวกเตอร์ไวรัส โดยนำเชื้อไวรัสที่อ่อนแอมามาตัดต่อพันธุกรรมหนามโปรตีนไวรัสโควิด-19 จากนั้นนำมาฉีดเข้าร่างกาย เพื่อกระตุ้นในระบบภูมิคุ้มกันจดจำรหัสพันธุกรรมไวรัสโควิด-19 และกำจัดไวรัสได้ในที่สุด ซึ่งจริง ๆแล้ว Adenovirus นั้นเป็นเพียงไวรัสตัวนำสาร ที่ถูกตัดแต่งพันธุกรรมและและต้องไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้อีก ดังนั้นสิ่งที่พบในวัคซีนของรัสเซียจึงเป็นข้อบกพร่องร้ายแรง
นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ยังได้มีการระบุอีกว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นจากปัญหาดังกล่าวคือ การรวมตัวใหม่ของไวรัส ทำให้ Adenovirus ที่ได้รับการตัดแต่งแล้ว อาจจะได้รับยีนส์ใหม่ที่จำเป็นในการฟื้นกลับคืนมาในขณะที่มันกำลังเติบโตในเซลล์ร่างกายของมนุษย์
ขณะที่ Rasmussen นักวิทยาศาตร์ของแคนาดา ได้อธิบายว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นที่การควบคุมคุณภาพมากกว่าที่จะมาจากเทคโนโลยีวัคซีน อีกทั้ง Adenovirus ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่และไม่ได้เป็นเชื้อโรคที่สำคัญสำหนับร่างกายมนุษย์ ยกเว้นผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือสุขภาพไม่แข็งแรงอาจจะมีผลข้างเคียงที่สูงกว่าและร้ายแรงกว่าคนอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม Denis Logunov รองผู้อำนวยการสถาบัน Gamaleya ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีน Sputnik V ได้ออกมาปฏิเสธผลการทดสองของบราซิล พร้อมระบุว่า ข้อความที่ปรากฎในสื่อนั้นไม่เป็นความจริงและเวกเตอร์ Adenovirus ที่ผ่านการตัดแต่งแล้วไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้อีก และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น
อ้างอิง NDTV
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด