เปิดกลยุทธ์ Synergy ของ JMART หลังร่วมทุน BTS Group มุ่งขยายการใช้งาน JFin Coin ใน Ecosystem | Techsauce

เปิดกลยุทธ์ Synergy ของ JMART หลังร่วมทุน BTS Group มุ่งขยายการใช้งาน JFin Coin ใน Ecosystem

กลุ่ม BTS ทุ่มเงิน 1.75 หมื่นล้านบาทร่วมทุนกับกลุ่ม JMART เพื่ออัดฉีดเร่งการเติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมกับเดินหน้าพัฒนา Ecosystem ทางธุรกิจ พัฒนาผลิตภัณฑ์ โมเดลธุรกิจ ขยายฐานลูกค้า และเตรียมนำเอา JFin Coin สกุลเงินดิจิทัลมาเปิดให้เป็นบริการทางการเงินเพื่อใช้ในบริการต่าง ๆ ของทั้ง 2 กลุ่มบริษัท

บริษัท วีจีไอ จํากัด (มหาชน) (“VGI”) และ บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) (“U City” หรือหลักทรัพย์ U-P) บริษัทชั้นนำภายใต้การบริหารของกลุ่ม BTS เตรียมเข้าไปลงทุนในกลุ่ม บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) (“JMART”) จำนวนทั้งสิ้น 1.75 หมื่นล้านบาท โดยกลุ่ม BTS จะส่ง U City เข้าไปลงทุน 24.9% ในบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) (“SINGER”) และส่ง U City พร้อมกับ VGI ไปร่วมกันลงทุนใน JMART เป็นจำนวนรวมกว่า 1.04 หมื่นล้านบาท โดย U City จะถือหุ้นในสัดส่วน 9.9% ในขณะที่ VGI ถือหุ้นในสัดส่วน 15.0% อย่างไรก็ตามธุรกรรมการเข้าลงทุนดังกล่าวจะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ JMART และ SINGER

กลุ่ม JMART ก่อนร่วมทุน BTS

บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) (JMART) บริษัทโฮลดิ้งคอมพานีที่ลงทุนในบริษัทอื่นที่มีศักยภาพ (Investment Holding Company) โดยมีกลุ่มธุรกิจค้าปลีก การเงิน ประกัน และเทคโนโลยี โดยธุรกิจในเครือ JMART นั้นประกอบไปด้วย

  • Jaymart Mobile ธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมทั้งสินค้าที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ และผู้ให้บริการเครือข่ายทุกระบบ 

  • JMT ธุรกิจให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้ อีกทั้งยังเป็นธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ และเป็นธุรกิจประกันภัย

  • SINGER บริษัทจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า

  • JAS Asset ธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ในการบริหารจัดการพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้าในส่วนของโทรศัพท์เคลื่อนที่และสินค้าเทคโนโลยี

  • KB J Capital ธุรกิจสินเชื่อ ทั้งสินเชื่อบุคคล สินเชื่อรถยนต์ และสินเชื่อมือถือ

  • J Ventures ธุรกิจพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันทางด้านฟินเทค (Fintech) และร่วมลงทุนในธุรกิจ Startup

JMART หลังจาก Synergy กับ BTS 

คุณอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) (JMART) เผยว่า ผลการดำเนินการของบริษัทในเครือของ JMART มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงที่ผ่านมา และการร่วมกันของบริษัทกับกลุ่ม BTS จะช่วยปลดล็อกฐานเงินทุนของเราให้เพิ่มขึ้น และสร้างการเติบโตผ่าน Synergy ร่วมกัน 

ทั้งนี้ในอีก 3–5 ปีข้างหน้า มีการตั้งเป้าในการใช้เงินผ่านการระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจ และลดต้นทุนทางการเงิน ทั้งนี้เราเชื่อมั่นว่า JMART มีแหล่งเงินทุนที่เพียงพอที่จะสามารถสร้างประสิทธิภาพในการเติบโต แม้ว่าจะเจอสถานการณ์ที่ท้าทายจากการแพร่ระบาดของ COVID–19 เพราะปัจจุบันมูลค่ามาร์เก็ตแคปรวมของกลุ่มบริษัทมีกว่า 106,822 ล้านบาท คาดจะเติบโตไปกว่านี้ไม่น้อยกว่า 3 เท่า

ไม่เพียงแต่เป็นการปลดล็อกฐานการเงิน การร่วมกันของกลุ่ม BTS และ JMART จะมาสนับสนุนให้บริการต่าง ๆ สามารถพัฒนาและขยายฐานการบริการออกไปได้อีก โดยธุรกิจภายใต้กลุ่มของ BTS จะเน้นการดำเนินงานภายใต้หลัก 3M คือ 

  • Move ขยับขยายธุรกิจไปมากกว่าธุรกิจรถไฟฟ้า 
  • Mix รวมมันสมองของพาร์ทเนอร์ แบ่งปันกันพัฒนาธุรกิจ 
  • Match แชร์ Ecosystem และหาพาร์ทเนอร์เพื่อทำงานร่วมกัน 

ทำให้เมื่อร่วมกับทาง JMART ธุรกิจของทั้ง 2 กลุ่มบริษัทก็สามารถแผ่ขยายวงกว้างไปได้ ทั้ง

  • ขยายฐานลูกค้า การขยายผลิตภัณฑ์และบริการในเครือของ JMART ร่วมกันไปสู่สินค้าสำหรับผู้บริโภค การประกันภัย รวมไปถึงเทคโนโลยีและการให้บริการ O2O โซลูชั่นส์ ของ VGI ผ่านแพลตฟอร์มธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการชำระเงิน และธุรกิจโลจิสติกส์

  • นำเสนอสินค้าเทคโนโลยีต่างๆ ผ่านแพลตฟอร์มของ VGI ที่มีความแข็งแกร่ง และเพิ่มจุดให้บริการ (Service Point) บนสถานีรถไฟฟ้า รวมถึงการใช้เครือข่ายสื่อโฆษณา และการขนส่งสินค้าผ่านบริษัทในกลุ่ม VGI ขณะที่ VGI สามารถขยายช่องทางการจําหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของ Fanslink ผ่านพื้นที่ค้าปลีกของกลุ่ม JMART มากยิ่งขึ้น

  • ผสานบริการของ Jaymart Mobile และ SINGER ร่วมกับ Kerry เพิ่มช่องทางและโอกาสในการต่อยอดธุรกิจโลจิสติกส์ในเครือ JMART ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

  • เพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินค้าของ Fanslink อย่าง Xiaomi ผ่านช่องทางของ Jaymart และ SINGER

  • ผลักดัน FinTech เพิ่มความแข็งแกร่งให้บริการทางการเงิน ด้วยการนำเอา JFin Coin มาเปิดให้ใช้งานบริการต่าง ๆ ร่วมกับ BTS

บทบาท JFin Coin ใน BTS Ecosystem

คุณกวิน กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือกลุ่ม BTS กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นกับการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ ซึ่งเป็นความร่วมมือภายใต้กลุ่ม MATCH ของเรา ด้วยความตั้งใจร่วมเป็นพันธมิตรในระยะยาว เพื่อช่วยสร้างมูลค่าทางธุรกิจร่วมกัน เราพร้อมต่อยอดธุรกิจภายใต้เครือข่าย 3M ที่เรามีอยู่ ความสามารถด้านฟินเทคที่เข็มแข็งของ JMART ร่วมกับการรวมระบบกระจายสินค้าและสาขาที่มีอยู่ทั่วประเทศ นอกจากนี้เราได้วางแผนที่จะรวมเทคโนโลยีทางการเงินและ Crypto Digital Token เพื่อใช้ภายในเครือข่ายของกลุ่ม BTS ซึ่งจะสร้างประสบการณ์ใหม่และความสะดวกสบายให้แก่ฐานลูกค้าของเราได้ดียิ่งขึ้น”

สำหรับอนาคตของความร่วมมือนี้ เน้นเจาะจงไปที่ความร่วมมือด้านดิจิทัลเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มการให้บริการ โดยความร่วมมือแรกที่ทั้ง 2 บริษัทเล็งเห็นว่าจะเริ่มพัฒนาคือ การนำเอา JFin Coin สกุลเงินดิจิทัลมาเปิดให้สามารถใช้งานในบริการต่าง ๆ ได้ ได้แก่

  • พัฒนาบริการทางการเงิน: จะเปิดให้สามารถใช้งาน JFin Coin ใน Ecosystem ผ่านบริการของ Rabbit

  • ใช้จ่ายด้วยสกุลเงินดิจิทัล: สามารถใช้ JFin Coin ในการใช้จ่ายผ่านบัตร Rabbit และ Rabbit LINE Pay ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ

  • ขึ้นรถไฟฟ้า ส่งของสะดวก: สามารถใช้ JFin Coin จ่ายค่าบริการของรถไฟฟ้า BTS และใช้สำหรับจ่ายค่าส่งสินค้ากับ Kerry

  • ผสานการซื้อขายบนโลกออนไลน์และออฟไลน์: พัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดแบบ O2O (Online-to-Offline) โดยสามารถใช้งาน JFin Coin กับบริการต่าง ๆ ของ VGi ที่เป็นธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน ธุรกิจให้บริการชำระเงิน และธุรกิจโลจิสติกส์ที่ครบวงจร

  • ซื้อขายอสังหาฯ: สามารถซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ของ U City ด้วย JFin Coin

อย่างไรก็ตาม คุณอดิศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “นอกจากธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตยิ่งขึ้นแล้ว การเพิ่มทุนครั้งนี้จะเสริมความแข็งแกร่งด้านเงินทุนของกลุ่ม JMART โดย JMART ตั้งเป้าภาพรวมกำไรเติบโตไม่น้อยกว่า 50% ต่อปี ต่อไปอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งยังไม่นับรวมการผนึกพันธมิตรต่อยอดธุรกิจใหม่ ๆ เพิ่มเติมร่วมกับ VGI และ U City ภายในเครือข่าย 3M ของกลุ่ม BTS และถ้าเราสามารถสร้าง Exponential Business Model ร่วมกันได้ เราจะสามารถสร้างการเติบโตแบบ J Curve ได้อย่างแน่นอน” 


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

IMD จัดอันดับ Digital Competitiveness ปีนี้ ไทยร่วงจาก 35 เป็น 37 ถ้าอยากขยับขึ้น...ต้องแก้ไขตรงไหนก่อน?

ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัล ประจำปี 2567 โดย IMD World Competitiveness Center ไทยได้อันดับ 37 ขยับลงจากปีก่อน 2 อันดับ (35) แล้วจะทำอย่างไรให้ไทยได้อยู่ในอัน...

Responsive image

สู่ Siri ยุคใหม่ ! เผย Apple เตรียมเปิดตัว LLM Siri ในปี 2026 ท้าแข่ง ChatGPT โดยเฉพาะ

OpenAI ถือเป็นหนึ่งในบิ๊กเทคฯ ยักษ์ใหญ่ที่มีความก้าวกระโดดด้านการพัฒนา AI หลังจากสร้างกระแสด้วยแชทบอท ChatGPT ไปเมื่อปลายปี 2022 ซึ่งเมื่อปีที่แล้วก็เพิ่งมีดีลกับ Apple ในการนำ Cha...

Responsive image

American Airlines เปิดตัวระบบจัดการคิวอัจฉริยะ เทคโนโลยีเสียงเตือนสองระดับ ปิดเกมสายแซงคิวขึ้นเครื่อง

เคยเจอไหม? คนแซงคิวขึ้นเครื่องจนวุ่นวายที่ประตูทางขึ้น หลังจากนี้จะไม่มีอีกต่อไป เมื่อ American Airlines แก้ปัญหานี้ด้วยเทคโนโลยีเสียงเตือนอัจฉริยะ ที่จะจับทุกความพยายามแอบขึ้นเครื...