จากการระบาดของโควิด-19 จะเห็นได้ว่ามีประชาชนติดเชื้อต้องเข้ารับการรักษา บางรายถึงขั้นอาการหนัก และก็มีผู้ป่วยจำนวนมากที่รักษาตัวจนหายเป็นปกติแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยที่หายดีแล้ว ในบางรายก็ใช่ว่าจะกลับไปใช้ชีวิตตามปกติแบบก่อนหน้าได้ เนื่องจากผู้ป่วยบางรายมีเชื้อจนปอดได้รับความเสียหาย บางรายมีอาการเหนื่อยหอบตลอดเวลา ซึ่งเป็นผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ป่วยโควิด-19 ในระยะยาว ถึงแม้ผลการตรวจเชื้อจะเป็นลบแต่ยังคงมีอาการหรือภาวะแทรกซ้อน ตั้งแต่ระยะเวลา 1 – 6 เดือน ขึ้นอยู่กับระบบร่างกายของผู้ป่วย หรือที่เรียกว่า Long COVID ขณะที่ปัจจุบัน ประเทศไทยยังไม่มีข้อมูลที่มีศูนย์การให้บริการด้านโควิด-19 เฉพาะด้านอย่างครบวงจร
และด้วยความพร้อมของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ในทุก ๆ มิติ ก็มีความพร้อมที่จะให้บริการกับประชาชนทุกคน ด้าน ภญ. อาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดเผยว่า “ด้วยความพร้อมทางการแพทย์ในทุกมิติของบำรุงราษฎร์ จึงมีแนวคิดในการเปิด ‘Bumrungrad COVID-19 Recovery Clinic’ หรือที่เรียกว่า ‘คลินิกฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโควิด-19 โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์’ ด้วยการบริการที่ครอบคลุมทุกความต้องการเกี่ยวกับโควิด-19 ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Bumrungrad COVID Solutions’ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนให้ยังสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 และเพื่อให้ผู้ป่วยในกลุ่มผู้ติดเชื้อ และกลุ่ม Long COVID สามารถกลับมามีสุขภาพที่ดีขึ้นโดยเร็ว”
ซึ่งนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ระลอกแรก บำรุงราษฎร์ได้มีจัดตั้งศูนย์บัญชาการสถานการณ์โควิด-19, ศูนย์ข้อมูลวัคซีนโควิด-19 รวมถึงมีการเผยแพร่ความรู้ด้านวัคซีนที่ถูกต้องแก่สาธารณชนอย่างสม่ำเสมอจนถึงทุกวันนี้
สำหรับการให้บริการของ ‘Bumrungrad COVID-19 Recovery Clinic’ นพ. สุธร ชุตินิยมการ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานปฏิบัติการ นพ. วิวัฒน์ วงศ์สิริศักดิ์ อายุรแพทย์ทั่วไป และ นพ. เดช จงนรังสิน แพทย์ผู้ชำนาญด้านเวชบำบัดวิกฤต โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้ให้ข้อมูลว่า โรงพยาบาลจะให้บริการอย่างครอบคลุม แก้ไขทุกปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 โดยแบ่งออกเป็น 3 Solutions ได้แก่
แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มบริการที่สำคัญ ได้แก่
1.1 Travel Clinic - บริการให้คำปรึกษากรณีที่ต้องการไปศึกษาต่อ ไปทำงาน หรือเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งครอบคลุมข้อแนะนำก่อนและหลังการเดินทาง ให้บริการทางการแพทย์เพื่อป้องกันโรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง อาทิ โควิด-19 ไข้มาลาเรีย อุจจาระร่วง บริการวัคซีนป้องกัน พร้อมออกหนังสือรับรอง ตรวจวินิจฉัยและให้การรักษาความเจ็บป่วยต่าง ๆ อันเนื่องมาจากการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีการตรวจในโปรแกรม Fit to Fly ซึ่งรวมไปถึงการจัดยา เวชภัณฑ์ ที่จำเป็นในระหว่างที่อยู่ต่างประเทศ และบริการ Telemedicine/Teleconsultation ในรูปแบบ Health Partnership เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีผู้ดูแลให้คำปรึกษาตลอดระยะเวลาที่อยู่ต่างประเทศ
1.2 Vaccine Passport - บริการนี้จะออกให้สำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว ซึ่งต้องมีเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของประเทศไทยจากสถานพยาบาลที่ให้บริการเรียบร้อยแล้ว และหากมีความประสงค์ที่จะเดินทางไปต่างประเทศ ก็สามารถขอรับหนังสือรับรอง วัคซีนพาสปอร์ต เพื่อใช้สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศได้
1.3 Health Screening – บริการในผู้ที่มีความประสงค์ที่จะตรวจสุขภาพหรือดูแลสุขภาพ สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย อาทิ การตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาลเอง การตรวจหาภูมิ การฉีดวัคซีนโควิด-19 หรือวัคซีนอื่น ๆ เป็นภูมิคุ้มกัน หรือการตรวจสุขภาพในโปรแกรมต่าง ๆ ที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล นอกจากนี้ ทางโรงพยาบาลได้ออกแบบโปรแกรมตรวจสุขภาพเพื่อให้เข้ากับการตรวจทั้งกลุ่มผู้ที่หายจากโรคโควิด หรือผู้ที่ต้องการตรวจเพื่อปรับสภาวะของร่างกายให้สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างเต็มที่
แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือ
2.1 การสนับสนุนภาครัฐ – โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์มีนโยบายที่ชัดเจนในการสนับสนุนภาครัฐในการต่อสู้กับโควิด-19 ด้วยคุณภาพมาตรฐานระดับสากลของโรงพยาบาลฯ ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนในการเป็นหน่วยบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับประชาชนตามเกณฑ์ของรัฐมาอย่างต่อเนื่อง
2.2 การให้บริการผู้ป่วยโควิด-19 ในระดับต่าง ๆ – บำรุงราษฎร์เปิดให้บริการรักษาผู้ป่วยทั่วไปที่ต้องการเข้าถึงการรักษาโควิด-19 ตามมาตรฐานของโรงพยาบาลฯ ซึ่งมีการให้บริการแบ่งตามระดับกลุ่มอาการ ตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่
จากการศึกษาข้อมูลในต่างประเทศพบว่ากลุ่มผู้ป่วยที่หายจากโควิด-19 จำนวนมากยังคงมีอาการบางอย่างที่เหลืออยู่ในระบบร่างกาย อาทิ ร้อยละ 30 มีอาการที่สืบเนื่องจากการที่ปอดได้รับความเสียหายจากโควิด-19 เช่น หายใจไม่อิ่ม รู้สึกแน่น ๆ หน้าอก นอนไม่หลับ ปวดเมื่อยตามตัว ไม่ค่อยมีสมาธิ ความจำสั้นลง หรือยังมีความวิตกกังวลอยู่ ซึ่งมีผลต่อสภาพจิตใจ โดยอาการเหล่านี้ล้วนมีผลต่อคุณภาพชีวิตและควรได้รับการฟื้นฟูอย่างถูกต้อง ซึ่งจะมีบริการใน 2 กลุ่มย่อย คือ
โรงพยาบาลฯ พร้อมให้บริการดูแลรักษาและฟื้นฟูเฉพาะบุคคล (Personalized Healthcare) โดยครอบคลุมตั้งแต่การตรวจประเมิน การวินิจฉัยและการวางแผนแนวทางการรักษา ทางทั้งแพทย์ผู้ชำนาญในสาขาต่าง ๆ ทีมพยาบาลวิชาชีพ ทีมเภสัชกรเฉพาะทาง และสหวิชาชีพ เพื่อให้กระบวนการฟื้นฟูมีประสิทธิภาพสูงสุด และผู้ป่วยกลับมามีสุขภาพเป็นปกติโดยเร็ว รวมถึงมีโปรแกรมที่ออกแบบเพื่อให้สอดรับกับอาการของแต่ละบุคคล (Personalized Treatment Program) เช่น การฟื้นฟูระบบทางเดินหายใจและปอด การรักษาด้วยยา เวชศาสตร์ฟื้นฟู กายภาพบำบัด การบำบัดรักษาภาวะซึมเศร้า การฝึกการรับกลิ่น หรือการรักษาอาการร่วมอื่น ๆ ที่เกิดขึ้น อาทิ โรคหัวใจ โรคทางเดินอาหาร การติดเชื้อ ระบบประสาท จากแพทย์ผู้ชำนาญการในแต่ละสาขา
นพ. สุธร ชุตินิยมการ กล่าวปิดท้ายว่า “การเปิด Bumrungrad COVID-19 Recovery Clinic ครั้งนี้ ได้แสดงถึงความพร้อมในด้าน Medical Tourism ที่จะสนับสนุนนโยบายประเทศอีกครั้ง และจะเป็นที่พึ่งพิงให้กับผู้ป่วยที่เคยเป็นโควิด-19 ที่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นดูแลสุขภาพตัวเองอย่างไร รวมถึงในกลุ่มที่มีความกังวลในสุขภาพของตนเองในระยะยาว ซึ่งนอกจากจะให้บริการผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยแล้ว ยังเปิดบริการให้กับชาวต่างชาติที่มีแผนจะเดินทางเข้ามาทำธุรกิจหรือท่องเที่ยว หลังจากที่เริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการและเปิดประเทศมากขึ้นอีกด้วย และโรงพยาบาลฯ พร้อมที่จะเป็น Health Partner ให้บริการที่มีประสิทธิภาพ มีมาตรฐาน กับทุกคนต่อไป”
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่โทร 1378 หรือ เว็บไซต์ https://www.bumrungrad.com/
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด