เซ็นทรัล รีเทล (CRC) เตรียมเติบโตแบบก้าวกระโดดรับปีกระต่าย โดย นายญนน์ โภคทรัพย์ ซีอีโอ CRC แถลงงบลงทุนขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศรวม 28,000 ล้านบาท ร่วมกับเผยยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนธุรกิจค้าปลีก แนวทางการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืน ในงาน 'CEO FORUM 2023 | Central Retail : The Next Sustainable Growth'
ท่ามกลางการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกที่ใครๆ ก็เข้าถึงสินค้าได้จากทั่วทุกมุมโลก บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ออกมาฉายภาพความสำเร็จหลังปูพรมขับเคลื่อนธุรกิจตามแผนงาน 5 ปี ภายใต้ยุทธศาสตร์ CRC Retailligence ที่มุ่งเร่งเครื่องสร้างการเติบโตในปี 2566 แบบก้าวกระโดดใน 5 กลุ่มธุรกิจ ก้าวสู่ The Next Sustainable Growth นำพาธุรกิจค้าปลีกเติบโตอย่างยั่งยืน
สำหรับการทุ่มงบลงทุน 28,000 ล้านบาทในปี 2566 นี้ นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) คาดว่าจะสร้างรายได้รวม 270,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทเติบโตมากกว่า 15% จากปี 2565
ปี 2565 ที่ผ่านมา เซ็นทรัล รีเทล ได้ดำเนินแผนธุรกิจตามยุทธศาสตร์ 5 ปี CRC Retailligence และสร้างความสำเร็จในการขยายพอร์ตธุรกิจให้เติบโต ทั้งในไทย เวียดนาม และอิตาลี ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ฟู้ด แฟชั่น ฮาร์ดไลน์ พร็อพเพอร์ตี้ และเฮลล์แอนด์เวลเนส โดยสร้างรายได้รวมเติบโตมากกว่า 20% ถือเป็นผลประกอบการเกินเป้าที่ตั้งไว้ในปี 2565
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2566 เซ็นทรัล รีเทล เห็นสัญญาณบวกของภาคค้าปลีกและบริการทั้ง 3 ประเทศ จากสภาพเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคัก การเปิดประเทศของจีนถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ฟื้นตัว โดยอัดงบลงทุน 28,000 ล้านบาท โดยใช้ยุทธศาสตร์ CRC Retailligence ที่เพิ่มความเข้มข้นยิ่งขึ้น เพื่อทำให้ CRC ให้เป็นเบอร์ 1 Next-Gen Omni Retailer ของเอเชีย พร้อมสร้างการเติบโตในประเทศเวียดนามอย่างก้าวกระโดด ด้วยการขยายโมเดลธุรกิจฟู้ดและศูนย์การค้า GO! ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจบนความยั่งยืน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2593 ตามเจตนารมณ์การเป็น Green & Sustainable Retail องค์กรค้าปลีกต้นแบบด้านความยั่งยืนรายแรกในประเทศไทย
เป้าหมายทั้งด้านการเติบโตในทุกๆ โมเดลธุรกิจ การสร้างความยั่งยืน การปล่อยก๊าซเรียนกระจกเป็นศูนย์ของ CRC สามารถเกิดขึ้นได้หากทำตาม The Next Sustainable Growth ซึ่งประกอบด้วย 4 กลยุทธ์หลัก ได้แก่
ด้วยการนำเทคโนโลยีและระบบต่างๆ ที่ดีที่สุดจากทั่วโลกมาสร้างการเติบโตแบบ Inclusive Growth ให้ทั้งลูกค้า แบรนด์ และพาร์ทเนอร์ บนแพลตฟอร์ม Next-Gen Omni Retail เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าในทุกมิติให้แก่ผู้บริโภคทั้งด้าน
CRC เปิดเผยว่า มีแผนเปิดตัวธุรกิจขนาดใหญ่เพื่อเสริมทัพธุรกิจในประเทศไทยและเวียดนาม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น
ร่วมกับการนำ MEB แพลตฟอร์ม e-Book เบอร์ 1 เข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เสนอขายหุ้น IPO แก่ประชาชนทั่วไป ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 นี้
"ทั้ง 4 กลยุทธ์จะทำให้เซ็นทรัล รีเทล เติบโตสู่ The Next Sustainable Growth และคาดว่าจะสร้างรายได้รวมในปี 2566 ราว 270,000 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเราจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป และตอกย้ำการเป็น Green & Sustainable Retail ด้วยกลยุทธ์ ReNEW โดยตั้งเป้าระยะสั้นในปี 2566 ที่จะนำพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนในกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ให้ได้ 30%, ลดปริมาณขยะสู่หลุมฝังกลบ 10% และลดการใช้น้ำ 10%, เพิ่มการจำหน่ายสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสัดส่วน 20% ของสินค้าทั้งหมด และเพิ่มพื้นที่สีเขียวจาก 00 ไร่ เพื่อช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจก โดยเซ็นทรัล รีเทล พร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญในการทำทุกภาคส่วนสามารถทำได้ เพื่อส่งมอบโลกที่น่าอยู่ให้กับคนเจนเนอเรชั่นต่อๆ ไป"
นายญนน์กล่าวปิดท้ายว่า CRC ให้ความสำคัญในเรื่องความยั่งยืน โดยจะใช้งบราว 5-10% ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อก้าวสู่ Green & Sustainable Retail ไม่ว่าจะเป็น การสนับสนุนให้ใช้วัสดุรีไซเคิลภายในองค์กร การพัฒนาสินค้าที่นำไปรีไซเคิลต่อได้ การบริหารจัดการขยะ การจัดการและใช้ประโยชน์จากขยะอาหาร การพัฒนาถุงย่อยสลายง่าย ฯลฯ เพื่อให้ทุกกระบวนการทางธุรกิจมีประสิทธิภาพสูงสุดและทำให้เป็นธุรกิจสีเขียวตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด