ภายหลังจากที่เครื่องบินของนางแนนซี เพโลซี (Nancy Pelosi) ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกา ลงจอดที่สนามบินไทเปอย่างเป็นทางการท่ามกลางการคัดค้านจากฝ่ายต่าง ๆ เมื่อคืนวันที่ 2 สิงหาคม ล่าสุดทางการจีนแสดงการตอบโต้ด้วยมาตรการทางเศรษฐกิจ สั่งระงับการนำเข้าสินค้าจากไต้หวันกว่า 2,000 ชนิด ครอบคลุมสินค้าประเภทอาหารทะเล ผลไม้ น้ำมันปรุงอาหาร วัสดุก่อสร้าง หลังจากการเข้าหารือกับประธานาธิบดีไต้หวันนาง ไช่อิง เหวินเพื่อเจรจาความร่วมมือ ทางสื่อไต้หวันรายงานว่า จีนสั่งห้ามการนำเข้าอาหารจากซัพพลายเออร์กว่า 100 รายจากไต้หวัน ฝั่งยักษ์ใหญ่ชิปไต้หวัน TSMC ออกโรงเตือนทั้งสองฝ่าย หากมีการปะทะกันจะเกิดความวุ่นวายทางเศรษฐกิจสำหรับจีน ไต้หวัน และประเทศตะวันตก 

สำนักงานศุลกากรแห่งชาติของจีน กล่าวในแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ว่า สินค้าดังกล่าวไม่ได้รับการลงทะเบียนตามหลักเกณฑ์ของจีน การนำเข้าปลาและผลไม้บางส่วนตรวจพบสารกำจัดศัตรูพืชตกค้างมากเกินไปในผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้จีนได้ระงับการส่งออกทรายไปยังไต้หวันในเดือนมีนาคม 2550 โดยอ้างถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม และยกเลิกการสั่งห้ามประมาณหนึ่งปีต่อมา ทำให้ไต้หวันต้องเปิดใช้แผนฉุกเฉินในขณะนั้น รวมถึงการนำเข้าวัสดุจากฟิลิปปินส์และการใช้ทรายแม่น้ำในท้องถิ่นเพื่อปิดช่องว่าง

พื้นที่ทางตอนใต้ของไต้หวันหลายแห่งมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนทางการเมืองสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ก้าวหน้าของประธานาธิบดี Tsai Ing-wen ซึ่งสนับสนุนความเป็นอิสระอย่างเป็นทางการของไต้หวัน โดยพื้นที่นี้ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตร ทำให้รัฐบาลปักกิ่งใช้จุดนี้ในการตอบโต้เมื่อปีที่แล้ว เพราะแม้ว่าผลไม้ที่ผลิตในไต้หวันส่วนใหญ่จะบริโภคภายในประเทศ แต่สินค้าส่งออกส่วนใหญ่ส่งไปยังจีน และยังคงจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของไต้หวัน การมุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมการเกษตรและอาหารของไต้หวันเป็นมาตรการที่เคยใช้ลงโทษประเด็นทางการเมืองต่อไต้หวันมาก่อนหน้านี้ด้วยเช่นกัน ในครั้งนี้จีนใช้ข้อได้เปรียบจากการคว่ำบาตรผู้ส่งออกอีกครั้ง 

นักวิเคราะห์ของบริษัทที่ปรึกษา Trivium China ในกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า “การค้าระหว่างจีนและไต้หวันอาจเกิดการหยุดชะงักอย่างหนัก การซ้อมรบทางทหารของจีนที่ประกาศในคืนวันอังคาร อาจขัดขวางการขนส่งภายนภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในท่าเรือในไต้หวันและฝูเจี้ยน แต่สำหรับสินค้าใด ๆ ที่มักจะผ่านพื้นที่รอบไต้หวัน” 

โดยก่อนหน้านี้การเคลื่อนไหวจากฝั่งธุรกิจ หุ้นของ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) ผู้ผลิตชิปหลักในไต้หวัน ผู้ผลิตและส่งออกหลักให้กับ Apple ลดลงมากถึง 2.98% พร้อมบริษัทในเครือ United Microelectronics Corp (UMC) ลดลง 3% ในวันที่ 2 สิงหาคมหลังจากการประกาศเยือนไต้หวัน 

Mark Liu ประธานบริหาร TSMC กล่าวกับ CNN ออกโรงเตือนทั้งสองประเทศก่อนเพื่อนว่า “สงครามไม่มีผู้ชนะแต่ทุกคนจะเป็นผู้พ่ายแพ้” 

เขากล่าวว่า หากไต้หวันถูกจีนรุกราน โรงงานของผู้ผลิตชิปจะไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะจำเป็นต้องอาศัยห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก เซมิคอนดักเตอร์มีโรงงานผลิตที่มีความซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับหลายประเทศทั่วโลก ตั้งแต่วัสดุ สารเคมี ชิ้นส่วนอะไหล่ ไปจนถึงซอฟต์แวร์วิศวกรรม หากจีนจะบุกไต้หวัน TSMC โรงงานผลิตชิปที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก จะไม่สามารถดำเนินการได้ จะเกิดความวุ่นวายทางเศรษฐกิจสำหรับจีน ไต้หวัน และประเทศตะวันตก

เป็นที่จับตามองเพราะชิปเซมิคอนดักเตอร์เป็นอุตสาหกรรมที่สหรัฐฯภายใต้โจ ไบเดนลงทุนมหาศาล โดยล่าสุดที่รัฐสภาผ่านร่างกฎหมาย Chip Act และสนับสนุนเอกชนผู้ผลิตอย่าง Intel เพื่อทำการผลิตในประเทศ โดย TSMC ก็มีแผนกำลังสร้างโรงงานชิปมูลค่า 12 พันล้านดอลลาร์ในรัฐแอริโซนาซึ่งอาจได้รับประโยชน์จากเงินอุดหนุนด้วยเช่นกัน 

ที่มา 

China Imposes Economic Curbs on Taiwan With Sand, Fruit Bans

Apple chipmaker TSMC warns Taiwan-China war would make everybody losers

Ripples From Pelosi Trip May Take Time to Impact Global Markets