คุณชวิน เจียรวนนท์ หนึ่งในทายาทของเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการบริหาร กองทุน 9 Basil เปิดเผยกับสื่อบลูมเบิร์กว่า อยู่ระหว่างการวางแผนที่จะระดมทุน 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1.61 หมื่นล้านบาทใน 9 Basil ซึ่งเป็นกองทุน Private Equity รองรับการลงทุนในส่วนบุคคลทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อที่จะเข้าซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพมาบริหาร
สำหรับกองทุน 9 Basil ได้วางตำแหน่งของธุรกิจ ในการที่จะรับประโยชน์จากสินเชื่อด้อยที่เพิ่มสูงขึ้นจากระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี จากการที่ระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นต้องต่อสู่กับภาวะถดถอย (recession) นับตั้งแต่วิกฤตการเงินเอเชียในช่วงปลาย 1990s
“นโยบายทั่วไปที่ใช้จัดการหนี้ด้อยคุณภาพนั้นไม่มีความยั่งยืน” ชวิน อายุ 29 ปีได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับทาง Bloomberg เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว “คำถามคือ ‘เมื่อไร’ มากกว่า ‘ถ้า’ จะมีปริมาณสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจำนวนมากล้นตลาด” เนื่องจากการกระจายวัคซีนภายในประเทศล่าช้า ประกอบกับสถานการณ์การแพร่กระจายไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นอาจจะชะลอการเปิดเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งส่งผลให้ภาคการผลิต ภาคการบริการอย่างโรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้าปลีกต้องปิดตัวลง
จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-performing loans, NPL) ของไทยนั้นดีดตัวขึ้น 15% ตั้งแต่ปลายปี 2019 สู่ 537,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2005
ทางด้านคุณรฐนนท์ ฟูเกียรติ ผู้จัดการบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) ได้สะท้อนมุมมองของชวินที่มีแนวโน้มว่า จะมีสินทรัพย์ด้อยค่าเข้าสู่ตลาด ก็ได้เตือนให้นักลงทุนอย่ารีบร้อนที่จะเข้าเสี่ยงลงทุนในสินทรัพย์กลุ่มนี้
โดยให้สาเหตุว่าภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้จะยิ่งเพิ่มปริมาณสินทรัพย์ที่ประสบปัญหามากขึ้น และบางส่วนก็จะถูกขายต่อโดยธนาคารต่าง ๆ อย่างไรก็ตามควรระมัดระวังในการซื้อสินทรัพย์ดังกล่าว เพราะราคาอาจจะปรับลงถ้าหากสถานการณ์โควิด-19 ในไทยเลวร้ายกว่าเดิม
อ้างอิง Bloomberg
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด