ล่าสุด เครือซีพี และเทเลนอร์กรุ๊ป ได้จัดเซสชั่นเพิ่มเติมต่อสื่อมวลชน ใน ทิศทางองค์กรสู่การปรับโครงสร้าง True - Dtac โดยคุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ ประธานกรรมการ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมด้วย คุณซิคเว่ เบรคเก้ (Sigve Brekke), President and Chief Executive Officer (CEO) เทเลนอร์ กรุ๊ป โดยการแถลงจัดขึ้น ณ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ วันที่ 22 กรกฎาคม 2022

ภายในงานคุณศุภชัย เจียรวนนท์ ได้เน้นย้ำประเด็นด้านบวก การควบรวมทรู - ดีแทคมุ่งสู่ Telecom-Tech Company ช่วยขับเคลื่อนไทยเป็น Tech Hub ภูมิภาค พร้อมชี้ให้เห็นข้อดีว่าการปรับโครงสร้างธุรกิจทรู-ดี แทค ช่วยผสานเครือข่ายที่ครอบคลุม มีคุณภาพและความเร็วสูง รวมถึงจะเพิ่มความสามารถในการให้บริการลูกค้าให้ดีกว่าเก่าขณะเดียวกันก็ช่วยเสริมสร้างความเเข็งแกร่งให้ทั้งทรู และดีแทค ด้วยเทคโนโลยี  5G - IoT - AI เพื่อผู้บริโภคและการพัฒนาสังคมประเทศไทย 

การเป็นพันธมิตรกันจะช่วยดึงดูดเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติ และช่วยขับเคลื่อนการสร้างสังคมของธุรกิจสตาร์ทอัพให้แข่งขันในระดับภูมิภาคได้มากขึ้น เพราะขณะนี้ประเทศไทยยังตามหลังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งในอาเซียน มีการลงทุนสูงสุดในสตาร์ทอัพด้านเทคฯ ประมาณ 14,200 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2021 แต่ส่วนแบ่งของประเทศไทยยังอยู่ที่ 3% ซึ่งไทยเรายังมีศักยภาพให้เติบโตอีกมาก คุณซิคเว่ เบรคเก้ได้ชี้แจงว่าทรู - ดีแทคจะร่วมช่วงชิงโอกาสนี้มาสู่ Tech Ecosystem ของไทย

ทั้งนี้ ซีพีและเทเลนอร์ยังเตรียมการลงทุนกว่า 7.3 พันล้านบาทเพื่อสร้างธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Venture Capital) ที่จะเน้นสร้างโอกาสเพื่อสตาร์ทอัพ ด้วยศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางทางเทคโนโลยีในอนาคต

สู่การปรับทิศทางองค์กรโดยมีสัดส่วนการถือครองของแต่ละฝ่าย 30%

การควบกิจการทรู - ดีแทคในเงื่อนไขล่าสุด แต่ละฝ่ายจะถือครองหุ้นส่วน 30% สัดส่วนที่เหลือจะเป็นของมหาชนอย่างแท้จริง โดยแจงว่าไม่ได้เป็นการแข่งขันกันเพียงสองเครือข่าย Telco ในตลาดเท่านั้น แต่เป็นการเพิ่มศักยภาพการเเข่งขันกับ Big Tech ในระดับสากล และการมีสองผู้เล่นที่แข็งแรง ยังดีกว่าการมีผู้เล่นที่รายหนึ่งแข็งแรง และอีกสองรายอ่อนแอซึ่งนับว่าไม่ใช่เรื่องดี ถ้ามองแบบ Zero-sum game 

ทั้งนี้ คุณศุภชัยยังได้เปิดเผยอีกว่า True - Dtac ไม่ใช่การ Takeover แบบบริษัทใหญ่ครอบครองบริษัทเล็ก แต่เป็นการควบรวม Merger & Acquisitions เท่านั้น การจัดแถลงข่าวครั้งนี้ไม่ใช่การสร้างแรงกดดันต่อกสทช. พร้อมทั้งเข้าใจในกระบวนการและข้อมูลที่กสทช. ต้องพิจารณา อนึ่งเข้าใจบทบาทที่อนุกรรมการมีอำนาจยับยั้ง