Central Retail (CRC) รู้ว่าค้าปลีกโตช้า แต่เตรียมงบ 3 ปี 45,000 ล้าน ขยายตลาดไทย-เวียดนาม

แม้หลายประเทศเกิดสงคราม ภาคธุรกิจก็ยังเดินหน้าต่อ ล่าสุด คุณสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ประกาศเปิดเกมรุกธุรกิจค้าปลีก ทุ่มงบกว่า 45,000 ล้านบาท ในช่วงปี 2568-2570 (2025-2027) โดยเดินหน้ากลยุทธ์ “New Heights, Next Growth” เร่งขยายตลาดไทย-เวียดนาม เต็มสปีด

Central Retail, CRCคุณสุทธิสารเปิดเผยว่า “การทำธุรกิจในยุคที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และพฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นับเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก แต่เซ็นทรั รีเทล ในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง เรามองความท้าทายเหล่านี้เป็นโอกาส และเป็นแรงขับเคลื่อนให้ เซ็นทรัล รีเทล คิดใหม่และทำใหม่ (Rethink & Reset) โดยนำเทคโนโลยี AI เข้ามาเสริมแกร่งให้กับการทำงานในทุกมิติขององค์กร ทั้งในแง่การเสริมศักยภาพให้บุคลากร เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงทำให้เข้าใจและเข้าถึงลูกค้าได้ลึกกว่าเดิม 

Central Retail, CRC"เพราะผู้บริโภคในทุกวันนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องราคาสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่มองหาประสบการณ์ที่ดีที่สุด คุ้มค่า สะดวก ง่าย และรวดเร็ว สิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นโจทย์ให้เซ็นทรัล รีเทล มุ่งตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าให้ได้ทั้งในช่องทางออฟไลน์ และออนไลน์ บนอีโคซิสเต็มของเราที่มีความยืดหยุ่น แข็งแกร่ง และพร้อมปรับตัว เพื่อก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ” คุณสุทธิสารกล่าว

สำหรับโรดแมป 3 ปี เซ็นทรัล รีเทลชูกลยุทธ์ “New Heights, Next Growth” ดัน 5 แกนหลัก ยกระดับศักยภาพองค์กรสู่การเติบโตครั้งใหม่ตลอดช่วงปี 2568-2570 ประกอบด้วย 

  • 1. Reinforce Customer Focus 

เข้าใจและเข้าถึงลูกค้าอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ผ่านการเสริมแกร่ง The 1 Loyalty Program ในไทยและเวียดนาม ที่มีจำนวนสมาชิกรวมกันกว่า 26 ล้านราย ตอกย้ำการเป็นเบอร์ 1 ด้าน Loyalty Platform ที่แข็งแกร่งที่สุด พร้อมเดินหน้าขยายฐานกลุ่มลูกค้า Young & Mainstream และเจาะกลุ่มลูกค้า B2B มากยิ่งขึ้นด้วย

Central Retail, CRC

  • 2. Strengthen CRC Foundation 

เสริมรากฐานขององค์กรให้แข็งแกร่ง ด้วยการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจหลัก ทั้งด้านยอดขายและกำไร รวมถึงการขยายและปรับปรุงสาขา พร้อมทั้งรวมเทคโนโลยี แพลตฟอร์ม ให้เป็นหนึ่งเดียว ต่อยอดสู่ประสบการณ์การช็อปแบบ Omnichannel ที่ไร้รอยต่อ เพิ่มขีดความสามารถและสร้างรากฐาน เพื่อเร่งเครื่องนำ AI เข้ามาเสริมแกร่ง และผลักดันยอดขายออนไลน์ให้เติบโตแบบ Double Digit อย่างต่อเนื่อง รวมถึงเร่งขยายธุรกิจ Food และ Mall ในเวียดนาม รวมถึงนำเสนอ Store Format ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายเชิงลึกในแต่ละพื้นที่

  • 3. Expedite New Growth 

เร่งสร้างการเติบโตให้กับ New Growth Engine ของเซ็นทรัล รีเทล ผ่านการขยาย GO WHOLESALE ด้วย 5 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ 1) การขยาย Private Labels 2) ก้าวสู่การเป็น HORECA Destination สำหรับกลุ่มธุรกิจอาหาร 3) เป็นผู้นำเรื่องของสด (Always Fresh-Forward) 4) ขยายสาขาอีกกว่า 12-18 สาขา ในไทยและเวียดนาม ภายใน 3 ปี และ 5) การพัฒนา New Store Concept และ Fulfillment Store ให้เหมาะกับกลุ่ม HORECA กับค้าปลีกอาหาร นอกจากนี้ยังเดินหน้าขยายเครือข่ายธุรกิจของ Auto1 ศูนย์บริการและจำหน่ายอุปกรณ์รถยนต์ครบวงจร ด้วยการเร่งเปิดสาขาเพิ่มไม่ต่ำกว่า 10 สาขาต่อปี ให้ครอบคลุมทำเลที่มีศักยภาพ 

  • 4. Scale Synergy 

สร้างความร่วมมืออย่างเข้มข้นทั้งในองค์กรและนอกองค์กร โดยมุ่งเน้นการทำงานร่วมกันกับธุรกิจทั้งหมดในเครือเซ็นทรัล รีเทล และเซ็นทรัลกรุ๊ป ทั้งในเชิงการเพิ่มยอดขาย และผลักดันการทำงานร่วมกันของพนักงานในกลุ่มธุรกิจต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน ตลอดจนการบริหารพื้นที่ขายให้ตอบโจทย์ลูกค้า พร้อมเพิ่มผลตอบแทนการลงทุน (ROI) ด้วยโมเดล Mix-used และ Hybrid Retail Store 

"เราจะนำเสนอสินค้าชั้นดีให้ลูกค้าโดยทำการตลาดร่วมกัน ถ่ายทอดความรู้ระหว่าง BU รวมถึงแชร์บริการร่วมกัน อย่างการขนสินค้ากลับมาให้ Tops ในกรุงเทพฯ ลดการใช้รถขนส่งสินค้าได้ ช่วยในเรื่องความยั่งยืนอีกทาง" คุณสุทธิสารกล่าวเสริม

  • 5. Disciplined Financial Management 

บริหารการเงินอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน โดยควบคุมค่าใช้จ่าย เน้นลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ ปรับแผนการลงทุนให้สอดคล้องและยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ พร้อมบริหารโครงสร้างเงินทุนอย่างเหมาะสม เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินและสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น

เซ็นทรัล รีเทล ไม่เพียงเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งในทุกกลุ่มธุรกิจ แต่ยังคงยึดมั่นในหลักการ “เติบโตอย่างยั่งยืน” โดยผสานปรัชญาการดำเนินธุรกิจ CRC Care ทั้ง 7 มิติ เข้าเป็นส่วนหนึ่งของทุกแผนงาน ด้วยความเชื่อว่าความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม คือรากฐานสำคัญของการเติบโตระยะยาว เพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กร Net Zero ในปี 2593 และสร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน พนักงาน และลูกค้าให้เติบโตอย่างแข็งแรงไปพร้อมกัน

นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทลจะปรับให้ Robinson Lifestyle มีสินค้าที่เข้าถึงแต่ละท้องถิ่นมากขึ้น โดยในช่วง 3 ปี จะเปิดเพิ่มอีกราว 2-3 สาขา ส่วน ไทวัสดุ ก็จะเปิดเพิ่มอีก 13-16 สาขา

“ด้วยแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ เซ็นทรัล รีเทล มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแกร่งในทุกมิติภายในระยะเวลา 3 ปีนี้ โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ และ EBITDA ต่อปีประมาณ 5% ด้วยงบลงทุนรวมกว่า 45,000-47,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญในการขยายศักยภาพองค์กร เสริมสร้างความมั่นคงทางธุรกิจ และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ตอกย้ำภาพผู้นำตลาดค้าปลีกและค้าส่งอย่างยั่งยืนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ตลอดจนเพื่อสร้างคุณค่าและผลตอบแทนที่มั่นคงให้แก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง” คุณสุทธิสารกล่าวสรุป

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

OpenAI เปิดตัว ChatGPT Agent ตัวช่วยอัจฉริยะ ทำงานแทนผู้ใช้ได้หลากหลาย

OpenAI เปิดตัว ChatGPT Agent ผู้ช่วย AI ตัวใหม่ ทำงานแทนมนุษย์ได้หลากหลาย ตั้งแต่จัดตารางงาน สร้างสไลด์ รันโค้ด ไปจนถึงวิเคราะห์คู่แข่ง พร้อมมาตรการความปลอดภัยขั้นสูง...

Responsive image

MIT เตือน! AI อาจเปลี่ยนโลกให้เหมือนหนัง Mad Max คนรวยยิ่งรวย ทิ้งคนส่วนใหญ่แข่งขันกันเอง

David Autor นักเศรษฐศาสตร์จาก MIT ออกโรงเตือนว่า AI อาจนำไปสู่โลกที่ดูมั่งคั่งในภาพรวม แต่เบื้องหลังคือความเหลื่อมล้ำขั้นรุนแรง คล้ายกับภาพยนตร์ Mad Max: Fury Road ที่ทรัพยากรถูกคว...

Responsive image

อังกฤษเผยผลทดลอง ‘เด็กหลอดแก้วจาก DNA 3 คน’ ทารกเกิดแล้ว 8 ราย ลดความเสี่ยงโรคพันธุกรรม

ในปี 2017 นักวิจัยจากอังกฤษได้เริ่มทดลอง “เด็กหลอดแก้วจาก DNA พ่อแม่ 3 คน” โดยมีเป้าหมายลดความเสี่ยงการถ่ายทอดโรคไมโตคอนเดรีย ซึ่งเป็นโรครุนแรงทางพันธุกรรมที่แม่ถ่ายทอดสู่ลูก หลังจ...