Elon Musk ราชาเทคโนโลยีแห่ง Tesla บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก ได้กล่าวโดยนัยผ่านทาง Twitter ช่วงกลางวันวานนี้ (ประมาณตี 5 ตามเวลาประเทศไทย) ว่าทาง Tesla มีแนวโน้มที่จะขายสินทรัพย์ดิจิทัลบิทคอยน์ที่ถือไว้ ส่งผลให้ดันราคาบิทคอยน์ดิ่งลงอย่างหนักสู่ระดับ 44,000 ดอลลาร์สหรัฐทันที ซึ่งต่ำสุดในรอบ 3 เดือน
ทางฝั่งของผู้ใช้ Twitter @CryptoWhale ได้แสดงความคิดเห็นต่อท่าทีของอีลอน มัสก์ว่า “สาวกบิทคอยน์กำลังจะหงุดหงิดตัวเองในไตรมาสถัดไปหากพบว่า Tesla กำลังทิ้งสินทรัพย์บิทคอยน์ที่ถือไว้ทั้งหมด ความเกลียดชังที่มีต่ออีลอน มัสก์กำลังเพิ่มขึ้น แน่นอนว่าเราจะไม่ได้โทษความผิดไปที่เขา” ในส่วนของอีลอน มัสก์ก็ได้ออกมาตอบทวีตของ @CryptoWhale ว่า “แน่นอน” (Indeed)
การโจมตี Bitcoin ของ Elon Musk ไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้ ต่อเขาเขาได้ทวิตข้อความตอบชาวทวิตเตอร์ในเชิงที่กล่าวหาว่า ไม่ได้เป็นสินทรัพยืที่ Decentralize จริงๆ
“จริง ๆ แล้ว บิทคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่อยู่ในระบบ Centralized สูง โดยมีบริษัทขุดบิทคอยน์ขนาดใหญ่ที่ควบคุมอยู่
ก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์น้ำท่วมในเหมืองถ่านหินแห่งหนึ่งแถบมณฑลซินเจียง ประเทศจีน ได้ที่นอกจากจะเกือบคร่าชีวิตคนมากมายแล้ว ยังทำให้อัตรา hash rate ลดลงกว่า 35% ดังนั้นบิทคอยน์ยัง Decentralized สำหรับคุณจริงหรือ?”
ทั้งนี้ อีลอน มัสก์เป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ของคริปโตเคอร์เรนซี ได้ผลักดันราคาสินทรัพย์จนแรลลี่มาสักระยะหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นบิทคอยน์ หรือเหรียญทางเลือกอย่าง Dogecoin จนถึงขนาดที่ว่ายื่นเอกสารต่อก.ล.ต. สหรัฐ เปลี่ยนชื่อตำแหน่งบริหารของตนเป็นราชาเทคโนโลยีแห่ง Tesla (Technoking of Tesla) และเปลี่ยนชื่อตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน (CFO) เป็น ปรมาจารย์แห่งเหรียญ (Master of Coins) อย่างไรก็ตาม ไม่กี่วันที่ผ่านมา นักลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลออกแห่ขายสินทรัพย์บิทคอยน์ภายหลังจากที่อีลอน มัสก์ ออกมากล่าวว่าจะถือสินทรัพย์บิทคอยน์ในระยะยาวก็ต่อเมื่อกระบวนการขุดบิทคอยน์เป็นไปในทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงน่าติดตามต่อไปว่า หลังจากนี้ท่าทีของอีลอน มัสก์ที่มีต่อบิทคอยน์ จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตำแหน่งของบริษัทอย่างไรอีกด้วย
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด