เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา depa จับมือ กลุ่ม Venture Capital ในประเทศไทย ได้แก่ Krungsri Finnovate, Disrupt, InVent และ InnoSpace เปิดตัวโครงการ dVenture (depa Venture Building Network Program) เพื่อร่วมผลักดัน Startup ไทยให้เติบโตก้าวกระโดด
ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล กล่าวว่า ในช่วง 3-4 ปีมานี้ depa พยายามจะสร้างกลไกใหม่สำหรับการลงทุน Startup ในประเทศไทย โดยได้สร้าง Digital Startup Fund เพื่อเชื่อมโยง Startup กับให้นักลงทุนเข้าด้วยกัน และรับหน้าที่เป็น Angle Investor ช่วยสนันบสนุน Startup ในการระดมทุน
“ในฐานะ angle fund เราให้ 1 ล้านนบาท สำหรับ Startup ที่มีอายุไม่เกิน 3 ปี หรือระดับ idea stage ที่จะเติบโตเป็น potencial โดยใช้เงิน 30% ทำให้ธุรกิจเกิดขึ้นได้จริง หรือทำให้เป็นระบบมากขึ้น ส่วนอีก 70% เป็นเงินที่เรียกว่าเป็น angle fund ต้องมีแผนการทำงาน เมื่อจบโครงการแล้วให้ depa เข้าถือหุ้นในอัตราส่วนตามที่ตกลงกัน หรือ คืนเงินให้ depa เพื่อสนับสนุน Startup รายอื่นต่อ” ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าว
ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวต่อไปว่า ระยะเวลาผ่านไปเรามี Startup กว่าหลายร้อยราย เรามองว่า VC เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของประเทศไทยในการขับเคลื่อนสิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้น เราจึงเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน คือ ให้ VC ตัดสินใจในการเลือก Digital Startup ก่อน จากนั้นเราเข้าไปเสริมในลักษณะ angle ในกลไกเดิม ช่วยเติมเต็มให้ Startup รายนั้น ๆ มีสายป่านมากขึ้น
นอกจากนี้ Depa พร้อมส่งเสริมการเข้าถึงเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ การเข้าถึงตลาดภาครัฐและมาตรการด้านภาษี รวมถึงการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการดิจิทัลด้วย (Digital Provider) เชื่อว่านี่เป็นการขับเคลื่อนในมิติใหม่ที่สำคัญ เราพยายามปรับให้เป็น system อย่างที่ประเทศไทยควรจะเป็น เราเชื่อว่า dVenture เป็นการผลักดันจากภาคเอกชนที่เริ่มด้วย 4 บริษัทนี้ ในฐานะที่เป็นหน่วยงานภาครัฐจะช่วยปรับเปลี่ยนให้เป็นรูปแบบใหม่
พร้อมกันนี้ depa ได้มีการเปิดตัวโครงการ dVenture โดยร่วมมือกับ 4 VC ได้แก่ Krungsri Finnovate, Disrupt, InVent และ InnoSpace เพื่อเข้ามาช่วยผลักดันให้ Startup ไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด
โดยคุณจันทนารักษ์ ถือแก้ว CEO, Disrupt Technology Venture กล่าวว่า โครงการ dVenture จะช่วยเสริม Startup ใน early stage เพราะมี funding gap ในช่วงเริ่มต้น และระยะหลังมานี้ Startup รายใหม่จะลงทุนยาก และที่ผ่านมามี Accelerator ปิดตัวลงไป โครงการนี้จะช่วยเติมเต็มช่องว่างเหล่านี้ Disrupt ก็ยินดีที่จะช่วยสนับสนุน depa เข้ามาร่วมมือ ทำให้คนที่มีประสบการณ์เข้ามาเป็น mentor หรือ Startup ที่มีประสบการณ์เข้ามาช่วย
ด้านคุณแซม ตันสกุล Managing Director, Krungsri Finnovate กล่าวเสริมว่า โครงการ dVenture ถือเป็น supply chain ที่ดีในการต่อยอดตั้งแต่เริ่มได้รับเงินทุน และ VC ทั้ง 4 ก็ถือเป็น ecosystem ที่ดีสำหรับ Startup เช่นเดียวกัน ที่ผ่านมาเราเห็น unicorn คิดว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับเหล่า Startup ได้ เชื่อว่า dVenture และการร่วมตัวกันของ VC เป็นโอกาสสำหรับ Startup คาดว่าในอนาคตจะได้เห็น unicorn อีก
ดร.ณรงค์พนธ์ บุญทรงไพศาล Head of InVent, Intouch Holding กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมี Startup ที่น่าสนใจเกิดขึ้นในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยขอยกตัวอย่างขึ้นมา 3 sector ได้แก่
Start up ทั้งสามด้านที่กล่าวมาเป็นเพียงส่วนหนึ่ง มีอีกหลายด้านที่สนับสนุนให้เข้าร่วมโครงการ dVenture
ขณะที่ดร.ต่อตระกูล วัฒนวรกิจกุล Acting CEO, InnoSpace กล่าวเสริมว่า สำหรับการลงทุนปีนี้ถึงปีหน้า InnoSpace เน้น BCG Startup ซึ่งเป็น national agenda โดยแบ่งเป็น 3 ด้าน ได้แก่ Bio Technology ด้านการแพทย์ บุคคลากรเราพร้อมมาก Future food เหมาะกับประเทศไทย เพราะมีความหลากหลายทางชีวภาพ และ Deep Tech เช่น AI, Blockchain, Energy Storage
คุณจันทนารักษ์ ถือแก้ว CEO, Disrupt Technology Venture กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นโอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากรายงานของ Asia Partner ที่เป็น Venture Capital มองว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ จีนเมื่อ 10 ปีก่อน และมองว่าจะมี unicorn เกิดขึ้นอีกมาอย่างน้อย 20 บริษัทในปี 2029 โดย 70% มาจาก reginal platform และอีก 30% มาจากอินโดนีเซีย เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าส่วนหนึ่งจะมาจากไทยด้วย
สำหรับ sector ที่น่าสนใจ คือ industry transformation, auto healthcare, enterprise software และ education โดยเฉพาะด้าน education technology ที่โควิดเข้ามาทำให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ในอนาคตจะมีโอกาสขยายไปต่างประเทศด้วย
ดังนั้น ecosystem ช่วงนี้น่าตื่นเต้นสำหรับ Startup มาก เพราะเราเพิ่งมี unicorn ตัวแรกอย่าง Flash และมีหลายตัวจะเข้า ipo ในอีก 1-3 ปีข้างหน้า เช่น Pomelo คาดว่า Startup จะดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติมากขึ้น
นอกจากนี้ Health tech ก็น่าสนใจเช่นกัน เพราะคนให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น และ สังคมไทยกำลังเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุ
อีกเทรนด์หนึ่งที่น่าสนใจ คือ Digital Transformation อยากสนับสนุน Startup ที่ช่วย SME ไทย หวังว่าความร่วมมือ dVenture จะช่วยเป็นรันเวย์ให้กับ Startup ไทยเพื่อเป็น unicorn ในวันข้างหน้า
ด้านคุณแซม ตันสกุล Managing Director, Krungsri Finnovate กล่าวเสริมว่า เทรนด์ที่มาแรงคงหนีไม่พ้น E-commerce ecosystem ในที่นี่หมายถึงผู้ให้บริการโดยรอบ เช่น ผู้ให้บริการ SME ขายของบนออนไลน์ ทำ Fulfillment ระบบ automate การส่งของ ระบบ payment e-wallet
อีกเรื่องหนึ่ง คือ blockchain โดยให้ความสำคัญสินทรัพย์ดิจิทัล ถือว่าเป็นตลาดที่เติบโตมหาศาล เรามองว่าระบบ blockchain เป็นระบบที่สร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินทรัพย์ดิจิทัล และเมื่อตลาดนี้โต จะทำให้ตลาดด้าน security โตตามไปด้วย
ดร.พรรณทิกา ตระกูลสถิตย์มั่น Executive Vice Director, Digital Startup Institute, depa กล่าวว่า หัวใจสำคัญที่ผลักดันให้ digital Startup เติบโตอย่างยั่งยืน คือ มาตรการด้านกฎหมายและแนวทางการขยายตลาด ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้กับ Startup ไทย
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเรามีการส่งเสริม Startup กว่าร้อยราย เราพยายามหา Startup ที่ช่วยส่งเสริมฝ่ายอื่น ๆ ได้ เช่น การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ smart city เราหา Startup ที่จะช่วยผลักดันเมืองต่าง ๆ แต่ละที่มีปัญหาที่ต่างกัน Startup จะได้ทดลองจริงในแต่ละพื้นที่ หากผลออกมาดี อาจขยายไปยังเมืองอื่น ๆ ต่อไป
นอกจากนี้ยังมีการ transform ชุมชน และ SME มอง Startup ที่ช่วยเหลือชุมชนได้ เช่น Smart Farming ที่ช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต การกระจายสินค้า มีการผลักดัน SME ให้เป็นดิจิทัลมากขึ้น และในตอนนี้ depa ก็มีโปรแกรมที่กำลังเปิดรับสมัคร อย่าง Smart City Accelerator Program มี 5 เมือง ได้แก่ กรุงเทพ ระยอง ขอนแก่น ภูเก็ต และลำปาง ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็มีจุดอ่อนต่างกัน
สำหรับโครงการ dVenture ที่เพิ่งเปิดตัวนี้ เราเชื่อมั่นใน VC ที่มาร่วมกับเราในครั้งนี้ และในอนาคตเราจะร่วมมือกับ VC รายอื่นอีก คาดว่าจะสนับสนุน Startup เพิ่มประมาณ 20-30 ราย
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด