Dyson ปฏิวัติวงการเกษตรด้วยการพัฒนาฟาร์มสตรอว์เบอร์รีสุดล้ำที่ใช้หุ่นยนต์ วงล้อยักษ์ 500 กก. และพลังงานสะอาด 100% ตั้งเป้าผลผลิต 1,250 ตันต่อปี

dyson farming

เมื่อพูดถึง Dyson เรามักจะนึกถึงเครื่องดูดฝุ่นพลังไซโคลน พัดลมไร้ใบพัด หรือ ไดร์เป่าผม แต่วันนี้ บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติอังกฤษกำลังพัฒนาบทใหม่ให้กับตัวเอง ด้วยการกระโจนเข้าสู่วงการเกษตรกรรมเต็มตัว ผ่านโปรเจกต์ "Dyson Farming" ที่เปลี่ยนทุ่งในลิงคอล์นเชียร์ ประเทศอังกฤษ ให้กลายเป็นโรงเรือนกระจกสุดไฮเทคขนาด 26 เอเคอร์ เพื่อปลูกสตรอว์เบอร์รีคุณภาพสูงแก่ผู้บริโภคในประเทศ

นี่ไม่ใช่แค่การทำฟาร์มธรรมดา แต่คือการนำปรัชญาการผลิต (Manufacturing) มาประยุกต์ใช้กับการเพาะปลูกอย่างเต็มรูปแบบ James Dyson ผู้ก่อตั้งและหัวเรือใหญ่ของบริษัท เชื่อว่าการปลูกพืชก็ไม่ต่างจากการผลิตสินค้าที่ต้องอาศัยความแม่นยำ ประสิทธิภาพ และนวัตกรรม

"เราจะทำให้มันมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้อย่างไร? เราจะนำเทคโนโลยีอะไรเข้ามาปรับปรุงคุณภาพ รสชาติ และใช้ที่ดินให้ดีขึ้นได้บ้าง?"

คำตอบของคำถามเหล่านั้นถูกทำให้เป็นจริงแล้วภายในโรงเรือนแห่งนี้ ซึ่งเป็นบ้านของต้นสตรอว์เบอร์รีถึง 1,225,000 ต้น หัวใจของที่นี่คือ "วงล้อยักษ์" ขนาดมหึมาที่ยาว 24 เมตร สูง 5 เมตร และหนักถึง 500 กิโลกรัม ซึ่งวิศวกรของ Dyson ยืนยันว่านี่คือ "โครงสร้างที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ Dyson เคยสร้างมา" วงล้อเหล่านี้จะค่อยๆ หมุนต้นสตรอว์เบอร์รีเพื่อรับแสงแดดธรรมชาติอย่างทั่วถึงและเหมาะสมที่สุด

กองทัพเทคโนโลยียังไม่หมดเพียงเท่านี้ หุ่นยนต์อัตโนมัติจะเคลื่อนที่ไปตามทางเดินเพื่อทำภารกิจสำคัญสองอย่าง คือ หุ่นยนต์กลุ่มหนึ่งจะฉายแสง UV เพื่อกำจัดเชื้อราที่อาจทำลายใบพืช ในขณะที่อีกกลุ่มจะทำหน้าที่ปล่อยแมลงดี (Beneficial Bugs) เช่น เต่าทอง เพื่อกำจัดเพลี้ยและศัตรูพืชอื่น ๆ ตามธรรมชาติ และเมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยว แขนกลหุ่นยนต์ 16 ข้างก็พร้อมเข้าทำงานด้วยความนุ่มนวลและแม่นยำ โดย Dyson เปิดเผยตัวเลขที่น่าทึ่งว่า หุ่นยนต์เหล่านี้สามารถเก็บเกี่ยวสตรอว์เบอร์รีได้มากถึง 200,000 ผลในเดือนเดียวเท่านั้น

ความยั่งยืนคืออีกหนึ่งแกนหลักของ Dyson Farming พลังงานทั้งหมดที่ใช้มาจากโรงย่อยสลายชีวภาพ (Anaerobic Digester) ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ ซึ่งเปลี่ยนก๊าซจากธัญพืชเป็นไฟฟ้า ความร้อนส่วนเกินจากกระบวนการนี้จะถูกนำกลับมาใช้เพื่อสร้างความอบอุ่นให้โรงเรือน ส่วนกากที่เหลือ (Digestate) ก็จะกลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์ชั้นดีกลับคืนสู่ผืนดิน น้ำที่ใช้รดต้นไม้ทั้งหมดมาจากน้ำฝนที่กักเก็บจากหลังคาโรงเรือนที่ยาวถึง 760 เมตร

เป้าหมายของฟาร์มแห่งนี้คือการผลิตสตรอว์เบอร์รีให้ได้ 1,250 ตันต่อปี เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าผลไม้จากต่างประเทศ โดยเฉพาะนอกฤดูกาล ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานในการขนส่งและสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับสหราชอาณาจักร

"การผลิตอาหารที่ยั่งยืน, ความมั่นคงทางอาหาร และสิ่งแวดล้อม มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพและเศรษฐกิจของประเทศ" Dyson กล่าว "การเกษตรที่มีประสิทธิภาพและใช้เทคโนโลยีขั้นสูงคือกุญแจสำคัญสู่อนาคตของเรา และ Dyson Farming มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในด้านนี้"

สำหรับผู้ที่อยู่ในสหราชอาณาจักร สามารถลิ้มรสสตรอว์เบอร์รีจากฟาร์มแห่งอนาคตนี้ได้แล้วที่ร้าน Marks and Spencer บางสาขา และร้านค้าของฟาร์มในท้องถิ่น

ที่มา: Newatlas

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ซีอีโอ AWS ชี้ AI Agents จะเปลี่ยนโลกยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ต เราอาจได้เห็น AI Agent พันล้านตัวรันองค์กร

AWS ซีอีโอประกาศชัด AI Agents จะสร้างผลกระทบต่อโลกธุรกิจยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ตและ Cloud พร้อมเปิดยุคที่ ‘AI Agent พันล้านตัว’ ทำงานอัตโนมัติอยู่หลังองค์กรทั่วโลก เร่งผลตอบแทนทางธุรกิ...

Responsive image

วิกฤตสมองไหลใน Apple ไม่จบ ! ล่าสุด Meta ดึงตัว Alan Dye หัวหน้าทีมดีไซน์ Apple ผู้คุมออกแบบ Liquid Glass ใน iOS26

เจาะลึกสมองไหลใน Apple ปี 2025 เมื่อผู้เชี่ยวชาญ AI หลายคนย้ายไป Meta, OpenAI และ Cohere ส่งผลต่ออนาคต Apple Intelligence...

Responsive image

เจาะแผน 'Quick Win' รัฐ-เอกชน ผนึกกำลังดันครีเอเตอร์ไทยสู่อาชีพมั่นคง

ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่จุดเปลี่ยน เมื่อเรากลายเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศทั่วโลกที่ 'ยอดผู้ใช้งาน TikTok แซงหน้า YouTube' อย่างชัดเจน ปรากฏการณ์นี้สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขอ...