เตรียมตัวให้พร้อม หากอุณหภูมิของโลกสูงขึ้น จะเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ ผลวิจัยคาดว่าจะรุนแรงกว่าปีไหน ๆ อาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลกถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
เอลนีโญ เป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ส่งผลให้สภาพอากาศแปรปรวนทั่วโลก หากอุณหภูมิของโลกสูงขึ้น ปรากฏการณ์เอลนีโญก็จะรุนแรงขึ้นไปด้วย
อาจทำให้บางพื้นที่เกิดน้ำท่วมหนัก ในขณะที่บางพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งขั้นรุนแรง ตัวอย่างเช่น ในสหรัฐอเมริกา ทางตอนใต้ของประเทศอาจมีฝนตกชุกในช่วงฤดูหนาว แต่ทางตอนเหนือกลับร้อนและแห้งแล้งขึ้น
องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ประกาศเตือนว่า “ปรากฏการณ์เอลนีโญในปีนี้ ได้รับอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ซึ่งจะทำให้โลกร้อนขึ้นกว่าที่เคยเป็นมาก่อนมาก”
ปกติแล้วปรากฏการณ์เอลนีโญมักจะเกิดขึ้นทุก ๆ 2-7 ปี ในปีนี้คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม อ้างอิงจากการศึกษาในวารสาร Science เผยว่า ผลกระทบที่อาจเกิดจากปรากฏการณ์เอลนีโญครั้งนี้ คือ มันอาจทำให้เศรษฐกิจโลกเสียหายถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปจนถึงปี 2029
นักวิจัยจากวิทยาลัยดาร์ตมัธ พบว่า ปรากฏการณ์เอลนีโญส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว แม้ว่าปรากฏการณ์จะผ่านพ้นไปแล้ว โดยวิเคราะห์จากสถานการณ์หลังเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ
เห็นได้ชัดว่าผลกระทบด้านลบจากปรากฏการณ์เอลนีโญจะคงอยู่เป็นเวลาหลายปี ซึ่งส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
แต่ความรุนแรงของผลกระทบก็แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ อย่างในสหรัฐอเมริกา GDP ลดลง 3% แม้ว่าจะผ่านไป 5 ปีหลังปรากฏการณ์เอลนีโญ เมื่อเทียบกับประเทศในเขตร้อน เช่น เปรูและอินโดนีเซีย ซึ่งได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญมากกว่า ทำให้ GDP ของพวกเขาลดลงมากกว่า 10%
Christopher Callahan นักศึกษาจากวิทยาลัยดาร์ตมัธ ซึ่งเป็นผู้นำการวิจัยกล่าวว่า “ผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญต่อเศรษฐกิจและสังคม อาจคงอยู่เป็นเวลานานและต้องใช้เวลาสักพักกว่าสิ่งต่าง ๆ จะกลับสู่ภาวะปกติ”
นอกจากนี้ Callahan ยังเสริมว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญที่รุนแรง และอาจสร้างความเสียหายอย่างมากต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในประเทศเขตร้อน ซึ่งทำให้เศรษฐกิจเติบโตช้าลงถึง 10 ปี
อ้างอิง: theverge
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด