Elon Musk บุกซาอุฯ โชว์วิสัยทัศน์หุ่นยนต์-ดาวเทียม-AI: ก้าวสู่ยุคใหม่ที่ "ทุกคนมี C-3PO ส่วนตัว"

ใครว่าเวทีลงทุนต้องน่าเบื่อ?

ไม่ใช่สำหรับงาน Saudi-US Investment Forum เมื่อ Elon Musk ขึ้นเวทีพร้อมโชว์ของแบบจัดเต็ม ทั้งหุ่นยนต์เต้น โครงการรถไร้คนขับ ไปจนถึงวิสัยทัศน์สุดไซไฟเรื่อง AI เข้าใจจักรวาล ในบทความนี้ Techsauce จะพาไปฟัง 4 ประเด็นสำคัญที่ Elon Musk ออกมาบอกบนเวทีนี้กัน !

1. หุ่นยนต์ที่ไม่ใช่แค่เดิน แต่ "เต้นได้" นี่คือจุดเริ่มต้นของแรงงานยุคใหม่

จากข่าวที่หุ่นยนต์ Tesla Optimus เต้น YMCA มันไม่ใช่แค่การโชว์ความบันเทิง แต่นี่คือการส่งสารว่า "หุ่นยนต์ไม่ได้เป็นแค่วิทยาศาสตร์ในหนังอีกต่อไป แต่มันอยู่ตรงหน้าเราแล้ว"

แล้ว Optimus ทำอะไรได้บ้าง ?

Tesla Optimus คือ หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ (humanoid robot) หรือหุ่นที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ ถูกออกแบบมาให้ทำงานที่มนุษย์ทำได้ เช่น เดิน, ยกของ, พูดคุย หรือแม้แต่เต้น และการที่มันเต้นได้ ไม่ใช่แค่เรื่องขำๆ แต่มันแสดงถึง

• ความสมดุลทางกายภาพของหุ่นยนต์
• การจดจำและเลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์
• ความสามารถในการประมวลผลการเคลื่อนไหวหลายมิติแบบเรียลไทม์

ทำไม Elon บอกว่า “ทุกคนจะมี C3PO ของตัวเอง” ?

Musk เปรียบเทียบหุ่นยนต์ Optimus กับตัวละครใน Star Wars อย่าง C3PO หรือ R2D2 ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ เขาเชื่อว่าในอนาคต ทุกบ้านจะมีหุ่นยนต์แบบนี้ เหมือนที่เราทุกคนมีสมาร์ทโฟนในวันนี้ ซึ่งหุ่นยนต์จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่ใช่แค่ในโรงงาน แต่ในบ้าน ในร้านค้า ในโรงเรียน หรือแม้แต่ในการดูแลผู้สูงอายุ

สิ่งที่น่าสนใจคือ Elon ไม่ได้มองหุ่นยนต์แค่ในเชิงเทคโนโลยี แต่เขามองมันในฐานะ "แรงงานใหม่" ที่จะเปลี่ยนโฉมระบบเศรษฐกิจ เขาอธิบายว่า ปัจจัยสำคัญในการวัดขนาดของเศรษฐกิจโลก คือ ความสามารถในการผลิตของแต่ละคน คูณกับจำนวนประชากร

แต่ถ้าหุ่นยนต์สามารถทำงานแทนคนได้ โดยไม่ต้องนอน ไม่ต้องพัก ไม่ต้องเบื่อ เท่ากับว่าเราสามารถ "เพิ่มจำนวนแรงงาน" ได้มหาศาลแบบไม่มีขีดจำกัด

2. Robo Taxis คือ ‘หุ่นยนต์ที่อยู่บนล้อ’ ที่สร้างรายได้ให้คุณ

เมื่อพูดถึงอนาคตของการเดินทาง Musk ไม่ได้พูดถึงแค่รถยนต์ไร้คนขับ แต่บอกว่า “รถในอนาคตไม่ใช่แค่เครื่องมือเดินทาง แต่มันคือหุ่นยนต์ที่ขับเองได้บนล้อ” พูดง่ายๆ ก็คือจากรถที่ปกติแค่จอดเฉยๆในบ้าน จะกลายเป็นทรัพย์สินที่ออกไปหารายได้ให้เจ้าของ 24 ชั่วโมง

ซึ่งไอเดียเบื้องหลัง รถ = ทรัพย์สินสร้างรายได้ มาจากในปัจจุบัน รถยนต์คือทรัพย์สินที่ "ค่าเสื่อมสูง" เมื่อคุณซื้อรถแพงๆ มา ขับรถไปทำงานที่ใช้เวลาแค่ 1-2 ชั่วโมงต่อวัน ตลอกวันที่เหลือมันก็แค่จอดอยู่นิ่งๆ แต่ในโลกของ Robo Taxis ด้าน Musk เปรียบว่า มันเหมือนคุณมีหุ่นยนต์ในบ้าน แล้วให้มันออกไปทำงานหาเงินให้คุณ

สมมติคุณมีรถ Tesla 1 คัน เวลาที่คุณไม่ใช้รถ คุณเปิดแอปให้มันออกไปขับรับผู้โดยสาร กลับมาเติมแบตที่บ้าน นั่นทำให้ทุกการเดินทางที่มันวิ่ง = รายได้ที่เข้ากระเป๋าคุณ

3. Starlink ได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย

หนึ่งในข่าวใหญ่กลางเวที Saudi-US Investment Forum คือ Elon Musk ประกาศว่า Starlink ได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ให้สามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในภาคการบิน และการเดินเรือแล้ว

ทำไมเรื่องนี้ถึง “ใหญ่กว่าแค่ Wi-Fi เร็ว แรง” ?

นั่นก็เพราะ ซาอุดีอาระเบียกำลังเร่งสร้างเมืองอัจฉริยะ (เช่น NEOM) และเปลี่ยนโฉมประเทศสู่เศรษฐกิจนวัตกรรม ดังนั้นการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตทุกที่ ทุกเวลา คือ "เส้นเลือดใหญ่" ที่ต้องมี การอนุมัติ Starlink ในระดับการบินและการเดินเรือ จึงแปลว่าซาอุฯ กำลังติดอาวุธดิจิทัลให้ตัวเองอย่างจริงจัง

4. X.AI ปัญญาประดิษฐ์ที่ไม่ใช่แค่ “ฉลาด” แต่ “อยากรู้ความจริงที่สุดในจักรวาล”

เมื่อ Elon Musk พูดถึงบริษัทใหม่ของเขาในชื่อ xAI โดยสิ่งที่ Musk ตั้งเป้าไว้ใหญ่กว่านั้นมาก เขาเรียกมันว่า “AI ที่แสวงหาความจริง” (maximally truth-seeking AI) 

ทำไมต้องสร้าง AI แบบนี้ ?

Musk เชื่อว่า มนุษย์ในวันนี้ยังเข้าใจโลกและจักรวาลเพียง “เศษเสี้ยว” เท่านั้น การที่มี AI แบบนี้เขาเชื่อว่า ถ้าเราอยากเข้าใจจักรวาลอย่างแท้จริง เราต้องให้ AI “กล้าคิดสิ่งที่เราคิดไม่ได้” โดยไม่มีข้อจำกัดทางอารมณ์ ความเชื่อ หรือวัฒนธรรม

Musk แนะนำให้อ่านนิยายไซไฟชุด “The Culture” โดย Iain M. Banks ซึ่งเล่าถึงอารยธรรมในอนาคตที่ AI พัฒนาไปไกลจนสามารถร่วมอยู่กับมนุษย์อย่างกลมกลืนและสันติ นี่เป็น “ภาพฝัน” ที่เขาอยากให้ AI ของ X.AI ไปถึง ไม่ใช่โลกแบบ Terminator ที่เครื่องจักรครองโลก แต่เป็นโลกที่ AI ช่วยพามนุษย์ก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเอง

อ้างอิง: https://youtu.be/LyouLvz6iiY?si=6CBIIUlUG88Hx1Bj