สมาคมฟินเทคฯ เปิดตัวโครงการ F13 ศูนย์ทดสอบและพัฒนา FinTech Startup | Techsauce

สมาคมฟินเทคฯ เปิดตัวโครงการ F13 ศูนย์ทดสอบและพัฒนา FinTech Startup

สมาคมฟินเทคประเทศไทย (Thai Fintech Association) เปิดตัวโครงการ F13 ศูนย์ทดสอบและพัฒนาสตาร์ทอัพด้านฟินเทค พร้อมเปิดตัว 13 ทีมที่เข้ามาอยู่ในโครงการ F13 Batch 1

สมาคมฟินเทคประเทศไทย (Thai Fintech Association) เปิดตัวโครงการ F13 ศูนย์ทดสอบและพัฒนาฟินเทคสตาร์ทอัพที่อยู่ภายใต้สมาคมฟินเทคประเทศไทย ณ อาคาร Knowledge Exchange ถนนกรุงธนบุรี ซึ่งภายในงานได้เปิดตัวสตาร์ทอัพทั้ง 13 ทีมที่เข้ามาอยู่ในโครงการ F13 Batch 1 ได้แก่

  • Cryptovation.co
  • Stokistic
  • ZeeZave
  • Talad Invoice
  • Moneywecan
  • NOON
  • Fund Dee
  • Horganice
  • Skynet Systems
  • urHCL
  • buildonFUND
  • Tuk Tuk Pass
  • PAYNI

ทางสมาคมฟินเทคได้ให้พื้นที่ทั้ง 13 ทีมออกบูธเพื่อเป็นการสื่อสารสิ่งที่ทั้ง 13 ทีมกำลังพัฒนาให้บุคคลทั่วไปได้รับรู้มากยิ่งขึ้น

โดยโครงการ F13 ศูนย์ทดสอบและพัฒนาฟินเทค ตั้งอยู่ ณ ชั้น 13 อาคาร Knowledge Exchange Center (KX) ซึ่งมีโมเดลของศูนย์ F13 จะใกล้เคียงกับที่สิงคโปร์และมาเลเซีย ซึ่งต้องการทุนสนับสนุนโดยรัฐบาล หรือกระทรวงการคลัง และเปิดให้เอกชนเข้ามาบริหารงาน โดย F13 ตั้งอยู่พื้นที่ขนาด 300 ตารางเมตร บริเวณชั้น 13 อาคาร Knowledge Exchange Center (KX) เป็นแหล่งทดสอบและพัฒนาบริการฟินเทค

โดยทีมงานของสมาคมมีส่วนช่วยเชื่อมต่อกับธนาคารพาณิชย์ระหว่างธนาคารกับผู้ประกอบการฟินเทค เพื่อทำให้เกิดการสร้างนวัตกรรมทางการเงินใหม่ ๆ รวมไปถึงการทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการทำงานร่วมกับหน่วยผู้กำกับดูแลอย่างธนาคารแห่งประเทศไทย, สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อส่งเสริมให้ขั้นตอนและกระบวนการมีความสะดวกและง่ายมากขึ้น

คุณกรณ์ จาติกวณิช ประธานสมาคมฟินเทคประเทศไทย และคุณณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ อุปนายกสมาคมฟินเทคประเทศไทย ได้ร่วมกันนำเสนอวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งโครงการ F13 เป้าหมายของสมาคมในอนาคต สิ่งที่สมาคมต้องการได้จากภาครัฐ ประโยชน์ของการก่อตั้งตั้งโครงการ F13 และสิ่งที่ทางสมาคมให้แก่สตาร์ทอัพในโครงการ F13 ทั้งนี้ทางสมาคมได้เปิดตัว Batch 1 ในโครงการทั้ง 13 ทีม โดยมีตัวแทน 3 ทีม จาก 13 ทีม ขึ้นนำเสนอสิ่งที่กำลังพัฒนาอยู่ ซึ่งตัวแทน 3 ทีม ดังกล่าว ได้แก่ noon, Talad Invoice และ Zee zave

คุณสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ได้ขึ้นพูดในหัวข้อ "แนวทางการสนับสนุนฟินเทคของภาครัฐ" เพื่อนำเสนอมุมมองในภาครัฐบาลให้แต่ภาคอุตสาหกรรมให้เป็นที่รับรับรู้ทั่วกัน

“สิ่งที่เราทำ ณ ตอนนี้นั้นขึ้นการสร้างรากฐานให้สตาร์ทอัพ และเบื้องต้นเราต้องให้ความรู้ด้านฟินเทคให้แก่ประชาชน ทำให้คลัง National E-Payment ในการทำธุรกรรมทางการเงิน และเราต้องสนับสนุนอะไรบางอย่างในอุตสาหกรรมฟินเทค เพื่อแสดงให้เห็นว่าภาครัฐสนับสนุนประโยชน์ของฟินเทค” คุณสมชัยกล่าว

คุณฤชุกร สิริโยธิน รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน (รส.) ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้พูดในหัวข้อ "ฟินเทคและธนาคารในยุคถัดไป" อันเป็นการชี้นำแนวทางการพัฒนาของฟินเทคในยุคถัดไป ซึ่งท่านเห็นว่าโครสร้างดีและได้มาตรฐานเป็นเรื่องจำเป็น มีระบบความปลอดภัยสูงและมีระบบไอทีมีมาตรฐานที่จะสามารถเพิ่มพัฒนาการให้กับฟินเทคในอนาคตได้

“การสร้างพื้นฐานและมาตรฐานที่ผู้ประกอบการจะใช้ร่วมกันได้นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งการสร้างพื้นฐานสำคัญที่ผ่านมานั้นคือการมีเทคโนโลยีที่สามารถพัฒนาต่อยอดได้ อย่างไรก็ตามในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ดีคือการมีโครสร้างระบบเปิด และจำเป็นต้องมีการทำงานร่วมกันได้” คุณฤชุกรกล่าว

คุณรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้พูดในหัวข้อ การพัฒนานวัตกรรมตลาดทุน เชื่อว่าเทคโนโลยีจะมาเปลี่ยนตลาดทุนไปอย่างสิ้นเชิง โดยฟินเทคไม่ได้เข้ามากระทบเพียงผู้ประกอบธุรกิจที่อยู่ในตลาด แต่ยังมากระทบหน่วยงานกำกับด้วย

“ฟินเทคจะสามารถตอบโจทย์ตลาดทุนได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการเกิดข้อมูลผู้ใช้บริการ สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ โดยราคาที่ถูกและมีความปลอดภัยสูง ซึ่งต้องสามารถข้อมูลไปใช้ได้อย่างสะดวก” คุณรพีกล่าว

คุณสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ได้พูดในหัวข้ออนาคตธุรกิจประกันภัย ซึ่งเป็นเกียรติต่อผู้ฟังทุกท่านมากที่ได้รับความรู้จากท่านครั้งนี้ เทคโนโลยีไม่ได้กระทบแค่ธุรกิจ แต่มีผลกับหน่วยงานกำกับด้วย ซึ่งกฎเกณฑ์ต่างๆ นั้นจะมาช้ากว่าเทคโนโลยีเสมอ

“เทคโนโลยีจะไม่สามารถมาแทนคนได้ในภาคของประกันภัย แต่จะมีส่วนช่วยในการประกอบงานด้านประกันภัยให้มีความง่ายขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีความสะดวกสบายมากขึ้น โดยมองว่าเทคโนโลยีไม่ได้มีผลทางภาคธุรกิจอย่างเดียว ซึ่งแน่นอนว่าหน่วยงานกำกับดูแลก็จะเปลี่ยนไป” คุณสุทธิพลกล่าว

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

พาสปอร์ตสิงคโปร์ ครองแชมป์พาสปอร์ตทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ปี 2025

พาสปอร์ตสิงคโปร์ครองอันดับ 1 ใน Henley Passport Index 2025 ด้วยสิทธิ์เดินทางไร้วีซ่า 195 ปลายทาง สะท้อนความแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจ การเมือง และการทูตระดับโลก...

Responsive image

ส่องแผน UK ปั้นประเทศอย่างไร ให้กลายเป็นมหาอำนาจ AI โลก

Keir Starmer นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร ได้ออกมาประกาศถึงความต้องการที่จะทำให้ UK กลายเป็น ‘มหาอำนาจ’ ด้านปัญญาประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ เพื่อสร้างความก้าวหน้า ความมั่นคั่ง และทำให้ A...

Responsive image

Xiaohongshu คือแอปฯ อะไร? ทำไมชาวเมกันถึงหันไปใช้ หลัง TikTok ส่อแววโดนแบนในสหรัฐ

ท่ามกลางกระแสข่าวเรื่องการแบน TikTok ในอเมริกาวันที่ 19 มกราคมนี้ ทำให้แอปวีดีสั้นจากจีนที่ชื่อว่า Xiaohongshu หรือที่รู้จักกันในชื่อ RedNote ได้รับความนิยมพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ...