การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากจะทำให้คนได้หันมาใส่ใจสุขภาพร่างกายของตนเองมากขึ้นแล้ว ธุรกิจต่างๆ ก็ได้กลับมาตรวจสุขภาพภายในองค์กรด้วยว่าเมื่อเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่แล้ว ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่เดิมช่วยให้ธุรกิจดำเนินต่อได้อย่างราบรื่นหรือไม่ และมีจุดบกพร่องอะไรที่เป็นอุปสรรคสำคัญในการบริหารงาน จึงทำให้ดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงขององค์กรตั้งแต่นี้ต่อไป
ผลสำรวจของสถาบันวิจัยระดับโลก Gartner ที่จัดอันดับ Top Business Priorities ในปี 2564 - 2565 พบว่าภายหลังจากการแพร่ระบาดโควิด-19 องค์กรต่างๆ ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจโดยมีเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นหัวใจสำคัญ โดยวิธีการทรานส์ฟอร์มขององค์กรจะเน้นไปที่แง่มุมต่างๆ ได้แก่ 1. การสร้างรายได้และการเติบโตแบบก้าวกระโดด 2. การทำธุรกิจผ่านรูปแบบการทำงาน ‘digitalization’ นำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาเพิ่มประสิทธิภาพและลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อนในการทำงาน 3. การปรับเปลี่ยนโครงสร้างกลยุทธ์รูปแบบการดำเนินธุรกิจ (business model) และพัฒนาบุคลากรเพื่ออำนวยความสะดวกผู้บริโภค
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทจีเอเบิล พร้อมจะปฏิรูปองค์กรธุรกิจในทุกอุตสาหกรรมของประเทศไทย โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นแก่นสำคัญในการขับเคลื่อนให้ประสบความสำเร็จ
กลุ่มบริษัทจีเอเบิล เป็นผู้นำให้การบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัลโซลูชันอย่างครบวงจร ด้วยประสบการณ์คร่ำหวอดในวงการ ที่สร้างเสาหลักทางเทคโนโลยีให้กับลูกค้ามากกว่า 32 ปี ในการบูรณาการระบบโครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงดิจิทัลโซลูชันที่ทันสมัย และนำเสนอโซลูชันที่สามารถตอบสนองความต้องการขององค์กรธุรกิจเพื่อยกระดับความสามารถทางการแข่งขันให้กับธุรกิจในทุกภาคส่วนอุตสาหกรรม
มีบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ นักพัฒนาระบบและซอฟต์แวร์ (developer in-house) กว่า 1,000 คน ที่ล้วนมีประสบการณ์และความเข้าใจถึงอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจการเงิน ธุรกิจโทรคมนาคม ธุรกิจประกัน ภาคอุตสาหกรรมพลังงาน ตลอดจนสถาบันการศึกษาต่างๆ ให้บริการลูกค้าหลักเป็นบริษัทรายใหญ่ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์กว่า 80% นอกจากนี้ยังเป็นพันธมิตรกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำมากกว่า 50 แห่ง
ด้วยจุดแข็งและประสบการณ์ที่มีมาตลอด 32 ปี G-Able จึงมีความพร้อมที่จะปฏิรูปองค์กรธุรกิจต่างๆ ในทุกอุตสาหกรรมของประเทศไทย โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจของลูกค้าให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้
ในปี 2564 G-Able ได้เล็งเห็นความสำคัญของวัฒนธรรมองค์กรที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมไปถึงมีการใช้เครื่องมือดิจิทัลอย่างจริงจังในทุกภาคส่วนขององค์กรมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ด้วยเหตุนี้ G-Able จึงนำจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่มีไปสู่การเปลี่ยนแปลงด้วยกลยุทธ์ ‘Beyond Limits’ ก้าวข้ามทุกข้อจำกัด มุ่งสร้างจุดเด่นให้ตัวบริษัทและการบริการ สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้ง 3 ด้าน
1. กลยุทธ์การพัฒนาตนเองสู่ System Integration Plus Plus (SI ++)
สถานการณ์โควิด-19 ได้เร่งให้องค์กรเปิดรับเทคโนโลยีมากขึ้นเพื่อให้ธุรกิจของตนดำเนินต่อได้อย่างราบรื่น ทั้งนี้ การใช้งานเทคโนโลยีจะต้องทำได้เร็วและไม่ซับซ้อน เพื่อลดต้นทุนทางธุรกิจ จึงทำให้ภูมิทัศน์ตลาดซอฟต์แวร์ทั่วโลก ได้มีการพัฒนาโซลูชัน บริการซอฟต์แวร์ (Software as a Service: SaaS) และดิจิทัลเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น Cloud, Security, Big Data และ RPA (Robotic Process Automation) ด้วยเหตุนี้นับตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา G-Able จึงยกระดับทรานส์ฟอร์มตนเองเป็น System Integration Plus Plus (SI ++) เต็มตัว กล่าวได้ว่าเป็นผู้ให้บริการส่งมอบโซลูชันเทคโนโลยี ตั้งแต่การสร้างรากฐานเทคโนโลยีที่แข็งแรงให้กับธุรกิจ จนไปถึงการต่อยอดทางธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผล และปลอดภัยสูงสุด
ทั้งนี้ กลุ่มโซลูชันของ G-Able จะตอบโจทย์เทรนด์ดิจิทัลเทคโนโลยีมาแรงทั้ง 4 ส่วน
G Cloud Solution กลุ่มโซลูชันที่ให้บริการเทคโนโลยีคลาวด์ เนื่องจากการประมวลผลข้อมูลด้วยระบบคลาวด์รองรับการทำงานในองค์กรได้ทุกที่ ทุกเวลา และจะกลายเป็น the next big thing หลังจาก อินเทอร์เน็ตโดยขนาดตลาดคลาวด์อยู่ที่ 320,000 ล้านเหรียญ และธุรกิจคลาวด์ในไทยเติบโตจากปีก่อนถึง 32% ทาง G-Able จึงมี Cloud Solution ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า
G Security Solution การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้สร้างเทรนด์การทำงานยุคใหม่ที่ต่างคนเข้าถึงข้อมูลได้จากระบบออนไลน์ จากเดิมที่ต้องเข้าถึงผ่านส่วนกลางบริษัท ทำให้สิ่งที่ตามมาย่อมไม่พ้นภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยพบว่าตัวเลขการโจมตีทางไซเบอร์เพิ่มขึ้น 71% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการฟินเทค การโจมตีเพิ่มขึ้นถึง 238% จึงไม่แปลกใจเลยว่าธุรกิจทั่วโลกหันมาลงทุนกับระบบป้องกันความปลอดภัยดิจิทัลถึง 40% และ 3 ใน 4 ของธุรกิจในไทยลงทุนทั้งด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการจัดการด้าน IT มากขึ้น ในส่วนนี้เอง G-Able ก็พร้อมจะมีโซลูชันในด้านนี้เพื่อที่ลูกค้าจะมั่นใจได้ว่าข้อมูลและระบบขององค์กรได้รับความปลอดภัยสูงสุด
G Big Data Solution กลุ่มโซลูชันเน้นจัดการบิ๊กดาต้าและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อใช้ในประโยชน์ของธุรกิจ เป็นที่ทราบกันดีว่าธุรกิจส่วนใหญ่ในยุคปัจจุบันต่างพึ่งพาบิ๊กดาต้าเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะนำไปสกัดได้ข้อมูลเชิงลึก เข้าใจเส้นทางลูกค้าได้ชัดเจน คาดว่ามูลค่าตลาดจะโตถึง 95,000 ล้านเหรียญในปีนี้ และตลาดบิ๊กดาต้า ในไทยโตเพิ่มขึ้นถึง 19% จากปีที่ผ่านมา
G-Able มีประสบการณ์ด้านบิ๊กดาต้ามาอย่างยาวนาน และมี use case จากลูกค้าบริษัทชั้นนำหลากหลายวงการ โดย G-Able ได้เข้าไปช่วยเหลือธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ที่มีร้านค้ากว่า 10,000 สาขา แน่นอนว่าปริมาณข้อมูลธุรกรรมการเงินจากทุกสาขามีมากมายมหาศาล ทำให้บริษัทต้องใช้เวลานานหลายวันในการเคลื่อนย้ายข้อมูลกลับไปยังศูนย์กลาง (headquarter) ในส่วนนี้เอง G-Able ช่วยลูกค้าในการลดเวลาประมวลผลข้อมูลด้วย Smart Data เป็นอันดับแรก จากนั้นก็ใช้เครื่องมือ Advanced Analytics Tools เพื่อพัฒนาการประมวลผลให้ดีขึ้น ลดเวลาจากการประมวลเป็นหลักชั่วโมง เหลือ 60 วินาที จนกระทั่งในที่สุด G-Able ก็สามารถช่วยลูกค้ารายนี้ประมวลผลบิ๊กดาต้าเหลือเพียง 3 วินาที และนำเวลาที่เหลือจากการประมวลผลไปโฟกัสกับการวางแผนธุรกิจ และเติม stock สินค้าต่อได้ ซึ่งการทราบผลลัพธ์ข้อมูลที่รวดเร็วและแม่นยำก็จะยกระดับความสามารถการแข่งขันของธุรกิจต่อไปได้
G RPA Solution กลุ่มโซลูชันเน้นปริมาณ productivity และลดต้นทุนด้านเวลาให้กับองค์กร ด้วย best practice process เฉพาะจากทาง G-Able โดย RPA คือ Robotic Process Automation จะช่วยให้การทำงานเร็วขึ้นด้วยกระบวนการทำงานอัตโนมัติที่ถูกกำหนดค่าซอฟต์แวร์เลียนแบบการทำงานของมนุษย์ ข้อมูลจาก Gartner แสดงให้เห็นว่ารายได้รวมจากธุรกิจซอฟต์แวร์ RPA ระดับโลกเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1,900 ล้านเหรียญ หรือ 20% จากปีก่อนหน้า และบริษัทในไทยโดยเฉพาะ SET 100 เริ่มหันมาปรับใช้โซลูชัน RPA อย่างมีนัยยะสำคัญ
2. กลยุทธ์การสร้างทางเลือกใหม่สำหรับ Digital Transformation ในรูปแบบ Transformation As a Service (TAAS)
ยุค Digital Disruption ได้ผลักดันให้องค์กรต้องปรับตัวตามความต้องการของลูกค้าและตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกๆ วัน ดังนั้น Digital Transformation จึงเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยองค์กรให้อยู่รอดต่อไปในสภาวะการแข่งขันสูงเช่นนี้ แต่ก็มีองค์กรจำนวนไม่น้อยที่ไม่ทราบว่าควรเริ่มต้นจากจุดไหน แล้วจะต้องดำเนินการต่อไปอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ
G-Able ได้ร่วมมือกับ Fire One One พาร์ทเนอร์ที่ปรึกษาด้านการทำ Business Transformation ชั้นนำระดับประเทศ ซึ่งได้ประสานความสามารถทางด้านดิจิทัลของ G-Able ผนวกกับความคิดสร้างสรรค์ทางธุรกิจของ Fire One One ในการเสนอโซลูชันช่วยด้านการทำ ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ให้กับลูกค้าอย่างครบวงจร (One Stop Service) ตั้งแต่ที่ปรึกษาด้านการวางกลยุทธ์ รวมไปถึงการต่อยอดธุรกิจ
ทั้งนี้ Transformaton As a Service จะเป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ (New S-Curve) ที่จะสร้างรายได้ให้กับ G-Able ต่อไปในอนาคต
3. กลยุทธ์สร้างความแตกต่างและการเติบโตด้วย Own IP Platform
G-Able พร้อมจัดทัพเครื่องมือที่จะมาช่วยธุรกิจ เข้าถึงปัญหาลูกค้าและความต้องการของตลาดให้ได้มากที่สุด และจุดนี้จะช่วยให้ทาง G-Able สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง และสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยออกมาเป็น IP Platform ลิขสิทธิ์เฉพาะของ G-Able ที่มีชื่อว่า Blendata (เบลนเดต้า) และ InsightEra (อินไซท์เอรา)
Blendata เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ยุคบิ๊กดาต้า โดยแพลตฟอร์มนี้สามารถจัดการและวิเคราะห์บิ๊กดาต้า ตอบโจทย์ทุกความต้องการในแพลตฟอร์มเดียว ด้วยต้นทุนที่จับต้องได้ ช่วยองค์กรในการค้นพบ “โอกาส” จากข้อมูล เพื่อสร้างผลกำไรให้กับองค์กร ขณะที่ InsightEra เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาดในยุคดิจิทัล ด้วยเทคโนโลยีในการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า คู่แข่ง และการเปลี่ยนแปลงของตลาด เพื่อวางกลยุทธ์ในการทำการตลาดดิจิทัล และสร้างโอกาสในการเติบโตของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดย G-Able เตรียมเปิดตัว Blendata ในเดือนมิถุนายนนี้
“จีเอเบิลมีความพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน เพื่อการให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจรในหลากหลายมิติ ด้วยกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง ทั้งจะเป็นตัวขับเคลื่อนจีเอเบิลให้เติบโตแบบก้าวกระโดด และสามารถสร้างประมาณการรายได้ในอีก 5 ปีข้างหน้าได้ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จีเอเบิลได้ทรานส์ฟอร์มองค์กรเพื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยเทคโนโลยีถือเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างกลยุทธ์ และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองที่เข้าใจความต้องการของลูกค้า เข้าใจในอุตสาหกรรมธุรกิจ รวมถึงการสร้างคุณค่าให้กับองค์กรธุรกิจ เพื่อผลักดันรายได้และผลกำไรที่เหนือกว่า” ดร.ชัยยุทธ์ ชุณหะชา กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทจีเอเบิลกล่าว
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด