เมืองไทย กรุ๊ป โฮลดิ้ง ใส่เงินลงทุนใน gettgo เพิ่ม 200 ล้านบาท พัฒนาแพลตฟอร์มประกันออนไลน์ | Techsauce

เมืองไทย กรุ๊ป โฮลดิ้ง ใส่เงินลงทุนใน gettgo เพิ่ม 200 ล้านบาท พัฒนาแพลตฟอร์มประกันออนไลน์

เมืองไทย กรุ๊ป โฮลดิ้ง ใส่เงินลงทุนใน gettgo เพิ่ม 200 ล้านบาท  มุ่งเน้นพัฒนาแพลตฟอร์มที่ไม่ใช้เพียงแพลตฟอร์มการซื้อประกันเท่านั้น แต่รวมไปถึงการพัฒนาระบบการขายประกันและช่องทางการเรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดประกันออนไลน์ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปี เบี้ยประกันภัยจะแตะที่ระดับ1,000 ล้านบาท


นายสาระ ล่ำซ่ำ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทย กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการได้มีมติลงทุนเพิ่ม 200 ล้านบาท ในบริษัท เมืองไทย โบรกเกอร์ จํากัด   บริษัทในเครือ ซึ่งให้บริการธุรกิจนายหน้าประกันภัยภายใต้ชื่อ “gettgo” เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดประกันออนไลน์ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

ด้านนายธนัท จักรวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย โบรกเกอร์ จํากัด  ผู้ให้บริการ “gettgo” เว็บไซต์เปรียบเทียบประกันออนไลน์ กล่าวว่า จุดประสงค์หลักจากการได้รับเงินลงทุนเพิ่มครั้งนี้ เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์มให้ได้รับความนิยมมากขึ้น ทั้งนี้ไม่ใช่แค่การเป็นแพลตฟอร์มการซื้อประกันเท่านั้น แต่รวมไปถึงการพัฒนาระบบการขายประกันและช่องทางการเรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินอีกด้วยโดยตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปี จะแตะเป้าหมายเบี้ยประกันภัยที่1,000 ล้านบาท

สําาหรับผลงานตลอดปี2563 ที่ผ่านมา gettgo ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มเปรียบเทียบประกันสุขภาพและประกันชีวิตออนไลน์แบบตามใจสั่งที่ตอบโจทย์ทุกความง่ายในยุคที่อะไรๆ ก็ต้องมีการ “personalized” หรือมีการเสนอสินค้าแบบเจาะใจและตรงใจผู้บริโภค นับเป็นแพลตฟอร์มประกันสุขภาพออนไลน์ที่เข้ามาพลิกโฉมวงการสุขภาพให้สามารถเปรียบเทียบประกันสุขภาพได้ตามวัตถุประสงค์ของตัวเอง หากใครสนใจสามารถเข้าใช้งานได้แล้ววันนี้อย่างเต็มรูปแบบที่http://gettgo.com/health-insurance

นอกจากนี้ นายธนัท ยังได้เปิดแผนสําาหรับอนาคตในอีก 3 ปีข้างหน้าเพื่อบรรลุเป้ายอดเบี้ยประกันภัยที่1,000 ล้านบาท ได้แก่

1. ปรับเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่และจํานวนพาร์ทเนอร์บริษัทประกันภัยบนแพลตฟอร์มประกันสุขภาพและประกันชีวิต เพื่อก้าวสู่แพลตฟอร์มที่มีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมที่สุดในตลาด     โดยปัจจุบัน gettgoมีพาร์ทเนอร์อยู่7 บริษัท ได้แก่ เมืองไทยประกันชีวิต เมืองไทยประกันภัย เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ซิกน่าประกันภัย ฟอลคอนประกันภัย แมนูไลฟ์ประกันชีวิต เอ็ทน่า และในปี2564 นี้gettgo ตั้งเป้าหมายที่จะหาคู่ค้าที่เป็นบริษัทประกันชีวิตและประกันสุขภาพชั้นนําเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์อีกด้วย

2. นําร่องพัฒนาแพลตฟอร์มประกันสุขภาพและประกันชีวิตให้มีความฉลาดมากขึ้น โดยใช้Aggregator Data ในการแนะนําผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับลูกค้าที่มีความต้องการและมีโปรไฟล์ที่แตกต่างกันได้   อีกทั้ง gettgo ยังมุ่งเป้าเป็นแพลตฟอร์มแห่งแรกที่มีข้อมูลความสนใจของลูกค้าทั้งตลาดที่มาช่วยให้ระบบค้นหาประกันสุขภาพฉลาดมากยิ่งขึ้นและสร้างประสบการณ์ในการค้นหาประกันแบบใหม่ที่ทั้งง่าย เร็ว และดีที่สุด อีกด้วย

3. gettgo เตรียมเปิดตัวอีกหนึ่งแพลตฟอร์มขายประกันออนไลน์สําหรับนายหน้าประกันวินาศภัยเพื่อเข้ามาเป็นทั้งเครื่องมือและกําลังเสริมสําคัญที่คอยให้ความช่วยเหลือและอยู่เคียงข้างนายหน้าทุกคนในการเปลี่ยนผ่านการขายประกันวินาศภัยจากยุคออฟไลน์สู่โลกออนไลน์ และยังช่วยสร้างฐานรายได้ที่มั่นคงขึ้นต่อไป

นายธนัท กล่าวว่า “3 ปีที่ผ่านมาของ gettgo เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในทุก ๆ มิติซึ่งนับว่าประสบความสําาเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีผู้ใช้งานเว็บไซต์เพิ่มขึ้นจากเพียงหลักหมื่นในตอนเริ่มต้น มาเป็นหลักล้านภายในเวลาไม่นาน ทําาให้ทุกวันนี้ เรายังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ที่จะไม่หยุดพัฒนาแพลตฟอร์มเปรียบเทียบประกันออนไลน์ที่ใช้งานง่ายและสะดวกสําหรับทั้งการซื้อและขายประกันให้กับคนไทย”

สุดท้ายนี้จากในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา เราเห็นได้ว่าคนไทยไม่เพียงให้ความสําคัญกับเรื่องสุขภาพมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังใส่ใจกับการลดความเสี่ยงด้านสุขภาพผ่านการซื้อประกันสุขภาพควบคู่กันไปด้วย ด้านคุณธนัท ได้กล่าวเสริมว่า “เมื่อผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพไปพร้อม ๆกับการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งของโลกออนไลน์ สถานการณ์แบบนี้จึงเหมาะสมที่สุดกับการลงทุนในด้านการพัฒนาแพลตฟอร์มเปรียบเทียบประกันสุขภาพ และประกันชีวิตออนไลน์ จึงถือได้ว่า gettgo เป็นเครื่องมือชั้นดีที่พร้อมเข้ามาตอบโจทย์ในยุคที่ไม่ว่าใครก็อยากเปรียบเทียบ สิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง”


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ไม่ยอมขายแอป ก็โดนแบน สหรัฐฯ จ่อแบน TikTok หวั่นเป็นภัยความมั่นคงชาติ

สหรัฐฯ ผ่านกฎหมายแบน TikTok แล้ว บังคับบริษัทแม่ ByteDance ต้องขายแอปภายใน 1 ปี มิฉะนั้นจะถูกแบนในสหรัฐฯ ด้านซีอีโอ TikTok ประกาศกร้าว พร้อมท้าทายกฎหมาย ไม่ไปไหนทั้งนั้น...

Responsive image

KBank ผนึก J.P. Morgan เปิดโปรเจกต์ Carina ใช้บล็อกเชน ลดเวลาทำธุรกรรมจาก 72 ชั่วโมงเหลือ 5 นาที

Kbank ร่วมกับ J.P. Morgan Chase Bank เปิดตัวโปรเจคต์นวัตกรรมคารินา (Carina) ลดระยะเวลาการทำธุรกรรม จากที่ใช้เวลา 72 ชั่วโมงเหลือเพียงแค่ 5 นาที...

Responsive image

Apple Vision Pro ขายไม่ดีอย่างที่คิด Apple ลดคาดการณ์ยอดขายกว่าครึ่ง ปรับแผนใหม่

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สาย Apple เผยว่า Apple ได้ลดตัวเลขยอดขาย Apple Vision Pro ในปีนี้เหลือเพียง 400-450,000 เครื่องเท่านั้น ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ (มากกว่า 700–800,000 เครื่อง)...