ดร. กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA โชว์อันดับนวัตกรรมไทยปี 67 ขยับขึ้นสู่อันดับ 41 ของดัชนีนวัตกรรมโลกประจำปี 2567 (Global Innovation Index 2024 หรือ GII 2024) ต่อด้วยการจัดเวทีเสวนา 'การพัฒนาระบบนวัตกรรมและการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ชาตินวัตกรรม' ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมระบบนิเวศนวัตกรรม
“เราอยู่อันดับ 43 ของดัชนีนวัตกรรมโลก หรือ GII มา 3 ปีเต็ม ปีนี้จึงเป็นปีที่มีความสำคัญมาก เพราะได้อยู่อันดับ 41 ขยับขึ้นถึง 2 อันดับ ซึ่งถือว่าเยอะ”
เป็นเรื่องน่ายินดีเมื่อ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เผยผลการจัดอันดับ ดัชนีนวัตกรรมโลกประจำปี 2567 (Global Innovation Index 2024 หรือ GII 2024) ภายใต้ธีม 'ปลดล็อกศักยภาพผู้ประกอบการเพื่อสังคม' (Unlocking the Promise of Social Entrepreneurship) ซึ่งจัดโดยองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) เพื่อวัดระดับความสามารถทางด้านนวัตกรรมของ 133 ประเทศทั่วโลก โดยในปีนี้ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 41 ขยับดีขึ้น 2 อันดับจากปีก่อนหน้า
ดร. กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า การจัดอันดับดัชนี GII ในปีนี้ให้ความสำคัญกับประเด็นการปลดล็อกศักยภาพผู้ประกอบการเพื่อสังคม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกระแสการเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วของผู้ประกอบการเพื่อสังคมจำนวนมากที่กำลังค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาสังคมที่สำคัญด้วยนวัตกรรม ซึ่งการศึกษาเรื่องนี้ช่วยให้ผู้กำหนดนโยบายนวัตกรรมและโครงการสนับสนุนด้านนวัตกรรมสามารถขยายและปรับปรุงโครงการของผู้ประกอบการเพื่อสังคมที่สามารถขยายขอบเขตการดำเนินงาน เพื่อสร้างผลกระทบในวงกว้างที่สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
"ในปีนี้นับเป็นข่าวดีของวงการนวัตกรรมไทยที่ผลการจัดอันดับดัชนีนวัตกรรมโลก ประจำปี 2567 หรือ GII 2024 ประเทศไทยขยับดีขึ้นมาอยู่อันดับ 41 ด้วยคะแนน 36.9 (เดิมอันดับ 43) โดยประเทศไทยมีอันดับดีขึ้นทั้งปัจจัยเข้าทางนวัตกรรม (Innovation input sub-index) ขยับดีขึ้นมาอยู่อันดับ 41 (เดิมอันดับ 44) และปัจจัยย่อยผลผลิตทางนวัตกรรม (Innovation output sub-index) ขยับดีขึ้นมาอยู่อันดับ 39 อันดับ (เดิมอันดับ 43) ซึ่งสะท้อนถึงประสิทธิภาพของปัจจัยนำเข้าทางนวัตกรรมที่สามารถสร้างผลผลิตทางนวัตกรรมได้ออกมามากกว่าปัจจัยนำเข้าที่ใส่ลงไปเพื่อพัฒนาความสามารถด้านนวัตกรรม"
ทั้งนี้ ประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่าที่คาดหวังตามระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ซึ่งประเทศไทยมีพัฒนาการด้านนวัตกรรมดีกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มรายได้ปานกลางระดับบน (Upper middle-income economies) ในทุกปัจจัย เมื่อเปรียบเทียบในกลุ่มประเทศกลุ่มรายได้ปานกลางระดับบนจำนวน 34 ประเทศ เช่นเดียวกันในกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียตะวันออกและโอเชียเนีย
ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 9 จากจำนวน 17 ประเทศ และยังคงอยู่อันดับที่ 3 ในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งเกือบทุกประเทศในอาเซียนมีอันดับดัชนี GII ดีขึ้น โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซียที่ก้าวกระโดดสูงขึ้น 7 อันดับ มาอยู่อันดับที่ 54 เวียดนามดีขึ้น 2 อันดับ อยู่อันดับที่ 44 และประเทศมาเลเซียดีขึ้น 3 อันดับ อยู่อันดับที่ 33
ดร. กริชผกา กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อพิจารณาความสามารถทางด้านนวัตกรรมของประเทศไทยในมิติต่าง ๆ ทั้ง 7 ปัจจัย ประเทศไทยมีอันดับความสามารถด้านนวัตกรรมเพิ่มขึ้นในเกือบทุกปัจจัยจากปีที่แล้ว
เพื่อแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีความพร้อมและให้ความสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาด้านวิจัย วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม การใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญา และการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ผ่านนโยบาย ภารกิจ และโครงการสำคัญของแต่ละหน่วยงาน โดย NIA ร่วมแลกเปลี่ยนในวงเสวนาเรื่อง 'การพัฒนาระบบนวัตกรรมและการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ชาตินวัตกรรม' กับหลายหน่วยงาน ดังนี้
“อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญในวันนี้คือ การมารวมตัวกันของเครือข่ายพันธมิตรที่จะร่วมเป็นพลังในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งถือเป็นสารตั้งต้นสำหรับความร่วมมือที่จะตามมาระหว่างเครือข่ายพันธมิตรเพื่อให้เกิดการยกระดับนวัตกรรมอย่างครอบคลุมและเป็นระบบ สอดคล้องกับแนวทางของดัชนีนวัตกรรมโลก (GII) เพื่อนำประเทศไทยไปสู่ชาตินวัตกรรม” ดร.กริชผกากล่าวปิดท้าย
ผู้สนใจสามารถย้อนอ่านยุทธศาสตร์ของ NIA ซึ่ง ดร.กริชผกากล่าวไว้ในปี 2566 ที่ลิงก์ >> ฟัง ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผอ. NIA คนใหม่ เผยยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนวัตกรรม ขยับอันดับดัชนี GII แบบจัดเต็ม
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด