Goldman Sachs สถาบันการเงินเพื่อการลงทุนระดับโลก ประกาศเลิกจ้างพนักงานราว 3,200 คน หรือคิดเป็น 6.5% ของพนักงานทั้งหมด ตามข้อมูลที่แจ้งไว้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ธนาคารแห่งนี้มีพนักงานทั้งหมด 49,100 คน โดย เริ่มมีผลพรุ่งนี้ (11 มกราคม 2565)
เป็นการเตรียมความพร้อมต่อวิกฤตเศรษฐกิจที่มีทิศทางแย่ลงอีกในปีนี้ แม้จะปลดพนักงานน้อยกว่าที่เคยคาดไว้ในปีที่แล้ว แต่ถือเป็นการปลดพนักงานที่มีจำนวนมากที่สุดหลังจากวิกฤตการเงินในปี 2008 ส่งสัญญาณถึงความซบเซาของตลาดการลงทุนทั่วโลก
หลังจากเพิ่มพนักงานจำนวนมากในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อเดือนธันวาคมเมื่อปีที่ผ่านมา Goldman Sachs มีแผนที่จะลดพนักงานลง 8% ในตอนนั้นคาดว่าการปลดพนักงานอาจเป็นวิธีหนึ่งในการรักษาเสถึยรภาพทางการเงินของบริษัท และเพื่อจัดสรรเงินโบนัสสำหรับพนักงานที่เหลืออยู่ได้ ซึ่งโดยปกติจะจ่ายในเดือนมกราคม อีกทั้งแผนเดิมบริษัทมีรายงานว่าโบนัสอาจลดลงถึง 40 % อีกด้วย
อย่างไรก็ตามจากรายงานล่าสุดจากการหารือภายในระหว่างระดับหัวหน้าและผู้บริหารระดับสูง ได้เผยออกมาแล้วว่าจะปรับลดพนักงานราว 3,200 คน หรือคิดเป็น 6.5% ของพนักงานทั้งหมด โดยแหล่งข่าวที่ให้ข้อมูลกับ Reuters ระบุว่าเป็นการปลดพนักงานในจำนวนที่ถือว่ามากที่สุดตั้งแต่ปี 2008
Goldman Sachs เป็นบริษัทแรกใน Wall Street ที่ประกาศลดพนักงานเมื่อเดือนกันยายน ปีที่ผ่านมา เพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย ท่ามกลางการตึงตัวของของตลาดหุ้น ก่อนที่ Citigroup, Barclays และ Morgan Stanley จะตามกันมา บริษัท มีรายได้ช่วงไตรมาสที่สามของปีที่แล้วลดลงถึง 12% และลดลง 57% เมื่อเทียบเป็นรายปี จากปัจจัยระดับมหภาคทั้งความตึงเครียดต่อเนื่องระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนตามด้วยสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนและอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ตลาดทุนชะลอตัว การดำเนินกิจการสำหรับบริษัทที่ต้องการสเกลหรือควบรวมกิจการก็ช้าลงไปด้วย
นอกจาก Goldman Sachs แล้ว ธนาคารเพื่อการลงทุนอื่น ๆ ก็มีทีท่าจะดำเนินการในแบบเดียวกัน หากไตรมาสแรกไม่สามารถทำกำไรและมีรายได้ที่ต่ำกว่าประมาณการไว้
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด