Google Maps อัปเกรดใหญ่! เพิ่ม 4 ความสามารถใหม่ ผนึกพลังกับ Gemini นำทางฉลาดขึ้น

Google กำลังอัปเกรดครั้งใหญ่ให้กับ Google Maps แอปพลิเคชันนำทางที่หลายคนขาดไม่ได้ โดยการผสานรวม Gemini โมเดล AI ที่ทรงพลังที่สุดของบริษัท เข้ามายกระดับประสบการณ์การใช้งาน นี่ไม่ใช่แค่การอัปเดตเล็กน้อย แต่เป็นการยกเครื่องใหม่ 4 ฟีเจอร์สำคัญ 

แม้จะมีข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้ แต่การประกาศอย่างเป็นทางการจาก Google ในครั้งนี้ก็ยังสร้างความตื่นเต้น โดยเฉพาะการเปลี่ยน Google Maps จากแผนที่ให้กลายเป็น Copilot อัจฉริยะ

คุยกับ Maps ได้เหมือนมีเพื่อนนั่งไปด้วย

ฟีเจอร์ที่น่าจับตามองที่สุดคือความสามารถในการสนทนาด้วยเสียงแบบ hands-free กับ Gemini ระหว่างการนำทาง Google อธิบายประสบการณ์นี้ว่า 'เหมือนมีเพื่อนผู้รอบรู้ในที่นั่งผู้โดยสารที่สามารถช่วยคุณไปยังที่หมายได้อย่างมั่นใจ'

ในตัวอย่างการใช้งาน คนขับสามารถถามคำถามที่ซับซ้อนต่อเนื่องได้ เช่น หาร้านอาหารราคาประหยัดตามเส้นทางนี้ และเมื่อ Gemini แนะนำร้านมาแล้ว ก็สามารถถามต่อได้ทันทีว่า 'แล้วที่นั่นมีที่จอดรถไหม' หากตกลง คนขับก็แค่สั่ง 'ไปที่นั่น' Google Maps ก็จะเพิ่มจุดแวะพักให้ทันทีโดยที่จุดหมายปลายทางหลักยังคงเดิม

ความอัจฉริยะยังไม่หมดแค่นั้น ระหว่างทางคนขับยังสามารถสั่งให้ Gemini เพิ่มนัดหมายนี้ในปฏิทิน หรือแม้แต่ช่วยรายงานสภาพการจราจร ที่พบเจอด้วยเสียงได้ทันที ฟีเจอร์นี้จะเริ่มปล่อยให้อัปเดตทั้งบน Android และ iPhone ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

ลาก่อนเลี้ยวขวาใน 50 ฟุต

อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ผู้ใช้งานต้องชื่นชอบ คือการบอกทิศทางด้วย 'จุดสังเกต' (Landmarks) ที่ขับเคลื่อนด้วย Gemini AI

แทนที่จะบอกทิศทางแบบเดิมๆ ที่ผู้ใช้ต้องคอยกะระยะทางอย่าง 'เลี้ยวขวาใน 50 ฟุต' ระบบใหม่จะใช้องค์ประกอบที่ผู้ขับขี่มองเห็นได้จริงบนถนนมาช่วยบอกทาง เช่น 'เลี้ยวขวาตรงไฟแดงข้างหน้า' หรือ 'เลี้ยวขวาหลังจากร้านอาหารไทยสยาม'

ที่ล้ำไปกว่านั้น คือแอปจะไฮไลต์อาคารหรือจุดสังเกตนั้นๆ บนหน้าจอแผนที่ เพื่อให้ผู้ใช้มองเห็นและเข้าใจได้ทันที ช่วยลดความสับสนและความจำเป็นในการละสายตาจากถนนเพื่อประเมินระยะทาง ฟีเจอร์นี้จะเริ่มทยอยอัปเดตในสหรัฐอเมริกาก่อน

นอกจากการนำทางที่เปลี่ยนไป Google ยังเพิ่มอีกสองความสามารถใหม่

  1. Proactive Traffic Alerts AI จะคอยสอดส่องและแจ้งเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับปัญหาการจราจรที่อาจเกิดขึ้น แม้ว่าในขณะนั้นคุณจะไม่ได้เปิดโหมดนำทางอยู่ก็ตาม
  2. Google Lens ที่ฉลาดขึ้น พลังของ Gemini ถูกนำมาใช้กับ Google Lens ใน Maps ทำให้การสำรวจเมืองสนุกและง่ายขึ้น ผู้ใช้สามารถยกโทรศัพท์ขึ้นส่องสถานที่ที่น่าสนใจ แตะไอคอนกล้อง และถามคำถามด้วยเสียงได้เลย เช่น 'ทำไมร้านนี้ถึงดัง' หรือ 'ที่นี่มีเมนูอะไรแนะนำ' Gemini จะให้ข้อมูลเชิงลึกกลับมาทันที ฟีเจอร์นี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินสำรวจเมืองใหม่ๆ

ทั้งสองฟีเจอร์นี้จะเริ่มปล่อยให้ผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาได้ใช้งานภายในเดือนนี้ ถือเป็นการอัปเกรดที่น่าตื่นเต้นซึ่งแสดงให้เห็นทิศทางที่ชัดเจนของ Google ในการผสาน AI เข้ากับผลิตภัณฑ์หลักเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ชาญฉลาดและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้มากยิ่งขึ้น

ที่มา: BGR

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

BOI ไฟเขียวลงทุนส่งท้ายปี! อนุมัติ Data Center 11 โครงการ มูลค่ากว่า 1.8 แสนล้านบาท ดันไทยสู่ Digital Hub เต็มตัว

BOI ภายใต้การนำของคุณเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ประกาศอนุมัติการลงทุนครั้งสำคัญส่งท้ายปี โดยมียอดเงินลงทุนรวมกว่า 7,500 ล้านดอลลาร์...

Responsive image

OpenAI ดึงอดีต CEO Slack ‘Denise Dresser’ นั่งแท่น Chief Revenue Officer เร่งปั่นรายได้กลางสมรภูมิ AI

OpenAI แต่งตั้ง Denise Dresser อดีต CEO ของ Slack เป็น Chief Revenue Officer คนแรก เร่งสร้างรายได้ เดินเกมรุกตลาดองค์กร พร้อมส่งสัญญาณเปลี่ยนผ่านสู่แพลตฟอร์ม AI เชิงพาณิชย์เต็มรูป...

Responsive image

OpenAI เปิดตัว GPT-5.2 โมเดลเพื่อคนทำงาน เก่งขึ้นทั้ง Excel รูปภาพ โค้ด และงานซับซ้อน

OpenAI เปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ GPT-5.2 อย่างเป็นทางการ หลังมีรายงานว่า Sam Altman ซีอีโอของบริษัทได้ประกาศสถานะ “Code Red” ภายในองค์กรเมื่อต้นเดือนธันวาคม เพื่อสั่งหยุดเกือบทุกโค...