Google หนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่เป็นผู้นำในการศึกษาและพัฒนาอุปกรณ์ AR (Augmented Reality) โดยเปิดตัว “Google Glass” อุปกรณ์สวมใส่ในรูปแบบแว่นตาอัจฉริยะในปี 2012 กลายเป็นกระแสที่สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ใช้งานและวงการเทคโนโลยีเป็นอย่างมากในขณะนั้น แต่ด้วยราคาที่สูงและความไม่สะดวกในการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทำให้ Google Glass ไม่ประสบความสำเร็จและไม่เป็นที่นิยมในตลาด อย่างไรก็ตาม Google ยังคงมุ่งหน้าพัฒนาเทคโนโลยี AR และ VR อย่างต่อเนื่อง 

ล่าสุด Google เข้าซื้อบริษัท “Raxium” สตาร์ทอัพผู้พัฒนา Micro LED หรือหลอดไฟขนาดเล็กที่เป็นส่วนประกอบของหน้าจอที่ใช้สำหรับอุปกรณ์ AR-XR (Mixed Reality) โดยผลิตภัณฑ์ของ Raxium ถือเป็น The Next-Gen LED ที่ให้แสงสว่างและสีที่คมชัดมากขึ้นโดยใช้พลังงานที่น้อยกว่าเดิม ซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่ใช้ใน “The Wall” ทีวีขนาดใหญ่หรูหราจากค่าย Samsung รวมถึงบริษัทระบุว่าเทคโนโลโลยีหลอดไปมีพิกเซลที่เล็กถึง 3.5 µm ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าทั่วไป โดยรายงานจาก ArsTechnica ระบุว่าถึงแม้ปัจจุบันจอแสดงผลประเภท OLED จะเริ่มเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้งาน แต่สำหรับเทคโนโลยีหลอดไป Micro LED นั้นจะยังคงเป็นที่ต้องการสำหรับการผลิตอุปกรณ์ AR และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่น ๆ จำนวนมาก เนื่องจากประสิทธิภาพในการใช้งานที่ให้คุณสมบัติที่แตกต่างกับ LED และ OLED โดยเทคโนโลยี Micro LED มีความหนาแน่นของพิกเซลที่สูงขึ้นและให้ศักยภาพในการนำแสดงผลที่มีความละเอียดสูงสำหรับหน้าจอขนาดเล็กอย่างแว่นตาหรืออุปกรณ์ AR 

ในช่วงปี 2014-2021 พบว่า Google มีการเข้าซื้อกิจการและการว่าจ้างนักพัฒนาจำนวนหลายครั้ง เช่นในปี 2020 Google เข้าซื้อ North บริษัทพัฒนา Wearables Computing ทำให้ Google Glass กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง ตั้งแต่ปี 2020 โดยการพัฒนาซอฟต์แวร์ AR ล่าสุดของ Google ได้สร้างระบบปฏิบัติการ “Augmented Reality OS” และ“Project Iris” AR Headset ที่เปิดตัวไปในเดือนมกราคมที่ผ่านมา และคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2024 นอกจากนี้ยังพบว่า Google มีการเจราจากับผู้จำหน่ายชิปเพื่อการพัฒนาฟีเจอร์สำหรับแอนดรอยด์ในอนาคตสำหรับการประยุกต์ใช้ VR ในแพลตฟอร์ม

การตกลงเข้าซื้อกิจการดังกล่าวระหว่าง Google กับ Raxium แสดงถึงความตั้งใจที่จะเสริมสร้างกลยุทธ์ของบริษัทโดยเพิ่มศัพยภาพการพัฒนาอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการผลิตอุปกรณ์ AR รุ่นต่อไปในอนาคต การรุกเข้าตลาด AR, VR เพื่อนำเสนออุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพต่อผู้ใช้งานโดยมี Raxium เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาการแสดงผลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าอาจมีการเปิดตัวอุปกรณ์ AR ตัวใหม่เร็ว ๆ นี้

ที่มา The Information  TechRadar ArsTechnica