Grab สตาร์ทอัพ Decacorn จากอาเซียน เข้าเทรดตลาด Nasdaq แล้ว หลังควบรวม SPAC ดีลใหญ่ที่สุดในโลก | Techsauce

Grab สตาร์ทอัพ Decacorn จากอาเซียน เข้าเทรดตลาด Nasdaq แล้ว หลังควบรวม SPAC ดีลใหญ่ที่สุดในโลก

Grab สตาร์อัพระดับ  Decacorn แพลตฟอร์มผู้ให้บริการเรียกรถโดยสาร และเดลิเวอร์รีรายใหญ่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้าเทรดวันแรกในตลาด Nasdaq ของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา หลังจากได้ประกาศควบรวมกิจการกับบริษัท SPAC (Special Purpose Acquisition Company) อย่าง Altimeter Growth Corp. ซึ่งทำให้ Grab มีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นดีล SPAC ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

โดยราคาเปิดตลาดของหุ้น GRAB ในวันแรกอยู่ที่ 13.06 เหรียญต่อหุ้น เพิ่มขึ้นกว่า 21% ก่อนที่จะลดลงมา 23% อยู่ที่ราคา 8.51 เหรียญต่อหุ้น

แม้ว่าราคาหุ้นจะลดต่ำลง ด้าน Anthony Tan ผู้บริหารของ Grab มองว่า ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับพวกเขา และพวกเขาก็จะยังฉลองให้กับความสำเร็จนี้ตามเดิม

การเข้าสู่ตลาดฯ ผ่านการควบรวมกับ SPAC ของ Grab ในครั้งนี้ ชี้ให้เห็นถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของ Grab สตาร์ทอัพอายุเพียง 9 ปี จากสิงคโปร์ ที่ให้บริการไปแล้วใน 465 เมืองของ 8 ประเทศ มีผู้ใช้งานกว่า 187 ล้านคน และยังได้ขยายบริการจากแอปฯ เรียกรถโดยสาร และบริการเดลิเวอร์รี่ ไปสู่บริการชำระเงิน ประกันภัย รวมถึงผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุน

(อ่านเพิ่มเติม ย้อนเส้นทางธุรกิจของ Grab ก่อนติดนามสกุล มหาชน ในตลาดหุ้นอเมริกา)

การเข้าตลาดในครั้งนี้ของ Grab ยังส่งผลดีต่อกลุ่มนักลงทุนที่สนับสนุน Grab มาตั้งแต่ช่วงปี 2014 อย่าง SoftBank Group และ Didi Chuxing บริการเรียกรถโดยสารของจีน รวมไปถึงนักลงทุนอื่น ๆ ที่เข้ามาร่วมในภายหลัง เช่น Toyota Motor, Microsoft, MUFG ธนาคารรายใหญ่ของญี่ปุ่น และ Uber (อ่านเพิ่มเติม นักลงทุนใน Grab)

อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ไว้ว่า ด้วยระบบเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เอื้อต่อการเติบโตขิงกิจการดิจิทัลต่าง ๆ จะส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตไปกว่า 3.6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2025 และคาดว่าคู่แข่งในภูมิภาคของ Grab อย่าง Sea และ GoTo เร่งขยายการเติบโตมากขึ้นอีก

อ้างอิง: Reuters, CNBC, Bangkok Post


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

อดีตซีอีโอ Nissan เตือน การควบรวมกิจการกับ Honda อาจทำให้เจอ 'ปัญหา' การลดต้นทุนครั้งใหญ่

Carlos Ghosn อดีตซีอีโอของ Nissan ออกมาเตือนว่า บริษัทอาจต้องเผชิญกับ "หายนะ" จากการลดต้นทุนครั้งใหญ่ หากตัดสินใจควบรวมกิจการกับ Honda โดยเขาให้เหตุผลว่า ทั้งสองบริษัทมีความซ้ำซ้อน...

Responsive image

เชื่อหมอมากกว่า TikTok ? วิจัยชี้ คำแนะนำทางการแพทย์เกือบครึ่ง 'มั่ว'

Tebra บริษัทวิจัยด้านสุขภาพ ได้ทำการวิเคราะห์วิดีโอบนแพลตฟอร์ม TikTok กว่า 5,000 รายการ ที่มีความเกี่ยวข้องกับคำแนะนำทางการแพทย์ เพื่อทำการประเมินความถูกต้องของ ซึ่งผลลัพธ์แสดงให้เ...

Responsive image

Zoom เผย 10 เทรนด์ AI ในการทำงาน ที่ต้องจับตา ปี 2025

ในปี 2568 บริษัทซูม วิดีโอคอมมิวนิเคชันส์ (Zoom) มองว่าเทคโนโลยี AI อาจเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในหลายๆด้าน บริษัทที่ใช้ AI เป็นหลัก จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพพนักงาน สร้างประสบการ...