หลังจากเมื่อวานนี้ Grab เปิดตัว ‘Grab Ventures’ พร้อมสนับสนุน Startup และเตรียมพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีขยายตลาดไปให้เป็นมากกว่าผู้ให้บริการเรียกรถผ่านแอป หรือ Ride-hailing พร้อมระบุว่าวิสัยทัศน์ของ Grab คือ การเป็น ‘Everyday App’ แอปพลิเคชันสำหรับทุกวันของผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ Southeast Asia
ล่าสุดผู้ขับรถกับ Grab ใน Southeast Asia เตรียมเป็นเจ้าของร้านขายของชำขนาดย่อมภายในรถยนต์ได้แล้ว เมื่อ Ride-hailing ยักษ์ใหญ่สีเขียวเตรียมจับมือกับ Startup จากสหรัฐอเมริกาที่ชื่อว่า Cargo เพื่อเตรียมให้บริการขายสินค้าในรถที่ให้บริการในเร็วๆ นี้
Cargo สตาร์ทอัพจากนครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา เตรียมจับมือกับผู้ให้บริการเรียกรถผ่านแอป (Ride-hailing) ใน Southeast Asia อย่าง Grab โดยระบุว่าการขายของอย่างขนมขบเคี้ยว, เครื่องดื่ม, ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม, ที่ชาร์จมือถือ และอื่นๆ ภายในรถที่ให้บริการจะช่วยให้ผู้ขับมีรถสามารถมีรายได้เพิ่มเติมสูงสุด 300 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือนเลย
โดยผู้ขับรถของ Grab จะได้รับกล่องจาก Cargo ซึ่งประกอบไปด้วยสินค้าทดลองใช้และสินค้าที่ขายให้จริงแบบฟรีๆ และเมื่อสินค้าดังกล่าวก็จะเติมให้ฟรีๆ ด้วยเช่นกัน โดยผู้ขับรถจะได้เงินส่วนแบ่งหรือค่าคอมมิชัน 25 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายที่ทำได้ และจะได้ 1 ดอลลาร์เมื่อสั่งซื้อสินค้าหรือสั่งเอาตัวอย่างสินค้าผ่านเว็บไซต์ของ Cargo
Cargo ตั้งเป้าว่าจะให้บริการในรถยนต์ของผู้ขับ Grab 20,000 คันภายในปีนี้ ซึ่งในเดือนมกราคมที่ผ่านมา Cargo ระบุว่ามีรถยนต์ที่ให้บริการในนครนิวยอร์ก, ชิคาโก และมินนีแอโพลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 2,500 คัน มีกล่องดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ก่อนหน้านี้ Cargo ทำงานร่วมกับ Uber และ Lyft ในสหรัฐฯ อย่างไม่เป็นทางการไปบ้างแล้ว ซึ่งการทำงานร่วมกับ Grab ถือเป็นการขยายตลาดออกสู่ต่างประเทศ การร่วมมือกับ Grab เท่ากับว่าได้ขยายตลาดไปยัง 8 ประเทศใน Southeast Asia ที่ Grab ให้บริการด้วย
และเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา Cargo ระดมทุนไปได้ 5,500,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จาก CRCM Ventures และ eighteen94 capital (ที่ตั้งโดยบริษัท Kellogg) อีกด้วย
อ้างอิงข้อมูลและภาพจาก TechCrunch และ Cargo
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด