อย่างที่ทราบกันดีว่า Grab ได้ประกาศเป้าหมายเป็นทุกแอปฯ สำหรับทุกๆ วัน เพื่อผู้ใช้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล่าสุด Grab ได้ผลักดันแนวทางนี้ด้วยการเปิดตัว GrabPlatform ที่เปิดโอกาสให้นักพัฒนาเข้าถึง API ของ Grab เพื่อสร้างสรรค์บริการใหม่ๆ บน Platform ของ Grab ได้ ทั้งยังได้เปิดตัว GrabFresh บริการส่งสินค้าอุปโภคบริโภคที่เกิดจากการพัฒนาบน GrabPlatform
"Grab ต้องการขยายมูลค่าทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งต้องอาศัยการสร้างสรรค์มากกว่าแค่จากทาง Grab เอง" Anthony Tan, Co-Founder และ CEO ของ Grab กล่าว
เพื่อเป้าหมายการเป็นทุกๆแอปฯ ในทุกวัน Grab จึงเริ่มเปลี่ยนจากการให้บริการเพียงอย่างเดียวเป็นการนำเสนอข้อมูลที่ง่ายกว่าเดิม เริ่มจากการออกแบบหน้า Home ใหม่ที่เหมาะกับการค้นหาข้อมูล และระบบ News Feed ที่รวมเอาข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้าและบริการในแต่ละเมืองทั้งประเภทสินค้า ราคา และคะแนนรีวิวเข้าด้วยกัน การนำเสนอข้อมูลของ Grab ยังครอบคลุมถึงเทศกาลสำคัญ เช่นในช่วงเดือนรอมฎอน ระบบจะแสดงตำแหน่งของมัสยิดที่ใกล้ที่สุด หรือในช่วงที่มีการแข่งขันกีฬาที่สำคัญ ระบบก็จะแสดงผลการแข่งขันด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นผ่านการพัฒนาโดย GrabPlatform
การเปิดตัว GrabPlatfrom เกิดขึ้นหลังจากถึงหลักไมล์ที่ Grab ตั้งไว้ดังนี้
"หลังจากผ่านไป 6 ปี Grab ได้ก้าวข้ามจากการเป็นผู้ให้บริการจองรถ Taxi ขยายสู่การขนส่งสินค้าเพื่อส่งเสริมธุรกิจ e-Commerce และตอนนี้หลังจากการจับมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ก็ถึงเวลาแล้วที่ Grab จะต้องเปิด Open Platform เพื่อขยาย Ecosystem ให้กว้างขึ้น ปัจจุบัน Grab มีผู้ใช้จำนวนกว่า 100 ล้านคน ผู้ขับขี่ Grab จำนวน 7.1 ล้านคน Partner ทั้งผู้ขนส่งสินค้า ผู้จำหน่ายสินค้า และระบบทางการเงินหลังบ้านที่แข็งแกร่ง จะช่วยให้ Startup และธุรกิจที่เข้าใช้ Platform ของเราเติบโตอย่างแน่นอน" Anthony Tan กล่าว
นอกเหนือจากบริการเดิมที่มีอยู่ทั้งการจองรถโดยสาร การส่งอาหาร และระบบชำระเงินที่มีให้ใช้บริการแล้ว Grab ยังได้เปิดตัวบริการใหม่คือ GrabFresh ซึ่งเป็นบริการส่งสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น อาหารสดและของใช้ต่างๆ ซึ่งบริการนี้เกิดจากการร่วมมือกับ Partner อย่าง HappyFresh Startup ด้านการส่งสินค้าประจำวันจากประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีให้บริการในประเทศไทย โดย GrabFresh ยังพัฒนาบน GrabPlatform ที่ประกาศในครั้งนี้ด้วย
GrabFresh มาพร้อมจุดเด่นด้านบริการทั้งจำนวนสินค้าที่มีให้เลือกกว่า 100,000 รายการจากซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้า 50 ราย พร้อมด้วยพนักงานที่สามารถแนะนำและเลือกสินค้าได้ตรงตามความต้องการ สามารถเลือกเวลาการส่งสินค้าได้ตามต้องการ และสามารถปฏิเสธการรับสินค้าได้หากไม่พึงพอใจด้วย
Guillem Segarra, CEO ของ HappyFresh กล่าวว่า "ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคยังมีโอกาสสูงมาก เพราะผู้บริโภคกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ยังคงเดินทางไปซื้อสินค้าถึงสัปดาห์ละครั้ง และยังไปร้านค้าที่คุ้นเคยเป็นประจำ ตอนนี้ GrabFresh มีสินค้าที่พวกเขาต้องการและสามารถส่งมอบให้ได้ในเวลาที่ต้องการ"
"Grab เป็น Partner ที่ดีที่สุดเท่าที่เรามีได้ในปัจจุบัน ด้วยขนาดของผู้ให้บริการที่ Grab สร้างไว้ทำให้เราสามารถเพิ่มยอดและปรับปรุงเวลาการส่งสินค้าได้อย่างชัดเจน ทำให้เราหันไปตั้งใจในส่วนที่เป็นจุดแข็งของเรา คือการส่งสินค้าที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภคและฝึกฝนบุคลากรให้เป็นผู้ช่วยการซื้อสินค้าส่วนบุคคลสำหรับลูกค้าได้" Guillem กล่าวเสริม
GrabFresh จะเริ่มทดลองให้บริการที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ก่อนจะขยายการให้บริการมายังประเทศไทยและมาเลเซียภายในสินปี 2018 และไปยังประเทศอื่นๆ ในลำดับถัดไป
GrabPlatform จะเปิดให้ Partner ของ Grab เข้าถึงฐานลูกค้าที่ใช้บริการหลักล้านรายต่อวันใน 255 เมือง จาก 8 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย GrabPlatform จะเปิดโอกาสให้ Partner เข้าถึงเทคโนโลยีของ Grab ประกอบด้วยบริการคมนาคม บริการขนส่ง บริการทางการเงิน การยืนยันตัวตนของผู้ใช้ ข้อความ ข้อมูลเชิงลึก ไปจนถึงการระบุตำแหน่งของข้อมูล
Partner สามารถใช้ GrabPlatform ส่งเสริมได้หลายทาง ดังนี้
Startup ที่สนใจเป็น Partner กับ Grab เพื่อเข้าถึง GrabPlatform สามารถเข้าร่วมได้ที่ GrabVentures
นอกจากนี้ Grab ยังร่วมมือกับ Yahoo ในฐานะ Content Partnership ในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ส่วนในประเทศอื่นๆ จะร่วมมือกับผู้ผลิตสื่อท้องถิ่น ซึ่งจะประกาศต่อไป
Grab จะให้บริการทั้งหมดนี้ผ่านแอปพลิเคชั่นที่ออกแบบใหม่ซึ่งเปิดให้ใช้งานแล้วที่ประเทศสิงคโปร์และอินโดนีเซียสำหรับ Smartphone ระบบ Android ส่วน iOS จะเริ่มวันที่ 18 กรกฎาคมนี้ จากนั้นจะทยอยอัพเดทให้พร้อมใช้งานในประเทศอื่นๆ รวมถึงไทยภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2018
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด