ในเวลาแค่ไม่กี่ปี ธุรกิจจองรถโดยสารในเอเชียก็มาอยู่ในจุดที่บูมสุดขีด เริ่มตั้งแต่ Uber พยายามจะรุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น ส่วน Easy Taxi ที่มี Rocket Internet เป็นแบ็คอัปทางการเงิน ก็ยังคงหาที่ยืนในพื้นที่เดียวกัน และก็ตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำบ้าง
ส่วน GrabTaxi คือแอปที่มีบ้านเกิดอยู่ในเอเชีย ทำเงินได้มากจากพื้นที่แถบนี้ เส้นทางของ GrabTaxi เริ่มต้นขึ้นในมาเลเซีย (ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ MyTeksi) ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล่าสุด GrabTaxi เพิ่งจะกลายเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัปที่มีต้นกำเนิดในเอเชียและมีมูลค่าบริษัทระดับหมื่นล้าน
ภาพอินโฟกราฟิกด้านล่างจะแสดงให้เห็นเส้นทางของ GrabTaxi นับตั้งแต่เริ่มต้นในกัวลาลัมเปอร์ จนกระทั่งระดมเงินทุนได้กว่าหมื่นล้านบาท โดยที่ 1 ใน 4 ของเงินจำนวนนั้นมาจาก Softbank และสามารถเข้าสู่ 6 ตลาดทั่วเอเชียได้ภายในเวลาไม่ถึง 3 ปี
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลอื่นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับสตาร์ทอัปรายนี้ อาทิ ผู้ก่อตั้งทั้งสองคนของ GrabTaxi มักจะทดลองใช้บริการด้วยตัวเองอยู่บ่อยๆ ในแต่ละประเทศ แน่นอนว่าคนขับมักจะจำพวกเขาไม่ได้ และในบางครั้ง พวกเขาก็มาเป็นคนขับแท็กซี่เองเพื่อฟังเสียงตอบรับจากผู้ใช้งานจริง
และจนถึงตอนนี้ GrabTaxi มีผู้ใช้งานแอปมากกว่า 3.8 ล้านคนทั่วเอเชีย โดยที่ในช่วงแรก ทีมผู้ก่อตั้งจะไปหาบริษัทแท็กซี่ทุกแห่งด้วยตัวเอง เพื่อขอให้ทางบริษัทดาวน์โหลดแอปของพวกเขามาใช้งาน
สำหรับต้นกำเนิดของ GrabTaxi มันเริ่มมาจากการแข่งขันประกวดแผนธุรกิจของ Harvard โดยที่ในตอนนั้นมันถูกตัดสินให้เป็นที่ 2 ของการแข่งขัน แต่ทีมผู้ก่อตั้งก็ยังพัฒนามันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งสร้างแบรนด์ MyTeksi ขึ้นมาในกัวลาลัมเปอร์ได้จริง ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น GrabTaxi ในเดือนสิงหาคมปี 2013 เพื่อเข้าตลาดฟิลิปปินส์ และเดือนตุลาคม ก็เข้าตลาดสิงคโปร์และประเทศไทย
หลังจากนั้น ในเดือนพฤษภาคม ปี 2014 GrabTaxi ก็เพิ่มบริการ Grab Car ซึ่งมีคอนเซปต์เดียวกับ UberBlack เข้าไปด้วย และล่าสุดก็เพิ่งจะเปิดตัว Grab Bike ในกรุงจาการ์ต้า อินโดนีเชีย หลังจากที่ทดลองมาแล้วในกรุงโฮจิมินห์ เวียดนาม ซึ่งก็ถือว่าเป็นบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้คนในภูมิภาคนี้
ที่มา : Tech in Asia
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด