กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ทุ่มเงิน 574 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้น INTUCH เพิ่มอีก 7.43 ล้านหุ้น ในวันที่ 4-8 เม.ย.ที่ผ่านมา เผยถือครองหุ้นทั้งหมด 1,411 ล้านหุ้น รวมสัดส่วน 44% เพิ่มขึ้นจาก 42.52% ปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นครั้งล่าสุด 24 ก.พ.2565 หนุนผลประกอบการปี 65 สดใส จากการบันทึกส่วนแบ่งกำไร และรับปันผล INTUCH เพิ่มขึ้น
คุณสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ ( GULF) รองประธานคณะกรรมการ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) รายงาน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.ว่า บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ ได้ซื้อหุ้น INTUCH เพิ่มขึ้นจำนวน 7,425,200 หุ้น ใช้เงินลงทุนรวม 574.02 ล้านบาท หรือเฉลี่ยที่หุ้นละ 77.31 บาท ส่วนใหญ่เป็นการทำรายการผ่าน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไทยพาณิชย์ โดยเป็นการซื้อ
วันที่ 4 เม.ย.2565 จำนวน 2,119,100 หุ้น ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 77.76 บาท เป็นจำนวนเงิน 164,781,216 บาท
วันที่ 5 เม.ย.2565 จำนวน 687,500 หุ้น ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 77.84 บาท เป็นจำนวนเงิน 53,515,000 บาท
วันที่ 7 เม.ย.2565 จำนวน 2,219,500 หุ้น ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 77.41 บาท เป็นจำนวนเงิน171,811,495 บาท
วันที่ 8 เม.ย.2565 จำนวน 2,399,100 หุ้น ราคาเฉลี่ยหุ้น 76.66 บาท เป็นจำนวนเงิน 183,915,006 บาท
โดยรายงานระบุว่า การซื้อหุ้นเพิ่มครั้งนี้ ทำให้ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ ถือหุ้นใน INTUCH ทั้งหมด 1,411,457,852 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 44.02% ของหุ้นที่เรียกชำระแล้ว 3,206,598,547 หุ้น เพิ่มขึ้นจากการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นครั้งล่าสุด ณ วันที่ 24 ก.พ.2565
ซึ่ง บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ ถืออยู่จำนวน 1,122.38 ล้านหุ้น สัดส่วน 35.00% และ GULF ENERGY DEVELOPMENT PCL ถือจำนวน 241.05 ล้านหุ้น สัดส่วน 7.52% รวมประมาณ 42.52% ขณะที่ SINGTEL GLOBAL INVESTMENT PTE. LTD.ถือหุ้นเป็นอันดับสองจำนวน 680.17 ล้านหุ้น สัดส่วน 21.21%
แนวโน้มกำไรของ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF จะดีขึ้นในปี 2565 หลังเข้ามาถือหุ้น INTUCH เพิ่มขึ้นเป็น 44% และการดำเนินงานของ INTUCH ก็ดีขึ้นด้วย ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ. แอดวานซ์ อิน โฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) สัดส่วน 40.44% และบมจ.ไทยคม (THCOM) สัดส่วน 41.13% โดย ADVANC ได้ร่วมทุนกับธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ฝ่ายละ 50% ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Lending) ขณะที่ GULF ก็มีธุรกิจใหม่ ๆ อาทิ ธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และการเข้าลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลของ Binance รวมถึงธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังน้ำ
ทั้งนี้ในปี 2564 GULF มีรายได้รวม 52,870 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.4% จากปี 2563 มีกำไรสุทธิ 7,670 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,388 ล้านบาท หรือกว่า 79.% จากปี 2563 ที่มีกำไร 4,282 ล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากรายได้อื่น ๆ จำนวน 2,516 ล้านบาท และเป็นรายได้ที่มาจาก INTUCH เป็นวงเงินถึง 3,454 ล้านบาท และโดยหลักเป็นเงินปันผลจาก INTUCH จำนวน 2,349 ล้านบาท (INTUCH จ่ายปันผลหุ้นละ 2.83 บาท) และมาจากรายได้ส่วนแบ่งกำไร(ขาดทุน) จากบริษัทร่วม INTUCH อีก 1,105 ล้านบาท
ขณะเดียวกันด้านราคาหุ้น INTUCH ปิดที่ 69.25 บาท ลดลง 0.75 บาทหรือ -1.07% ส่วน GULF ปิดที่ 48.25 บาทลดลง 0.50 บาท หรือ -1.03% เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2565
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด