Wealth-X บริษัทเก็บข้อมูลด้านความมั่งคั่งจากทั่วโลก เปิดเผยข้อมูล "Ultra Wealthy Analysis: The World Ultra Wealth Report 2018" ระบุว่าฮ่องกงมีจำนวนผู้อยู่อาศัยที่มีรสนิยมสูงที่มีมูลค่าทรัพย์สินไม่น้อยกว่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สูงขึ้นถึง 31 เปอร์เซ็นต์ โดยในฮ่องกงมีมหาเศรษฐี หรือ "กลุ่มคนที่มีมูลค่าทรัพย์สินสูงมาก" (Ultra-high Net-worth People) อยู่ประมาณ 10,000 คน ขณะที่นิวยอร์กมีคนกลุ่มดังกล่าวอยู่ที่ 9,000 คน
โดยเมืองโตเกียว, ลอสแองเจลิส, ลอนดอน และปารีส ยังติด 10 อันดับแรกของเมืองที่มีมหาเศรษฐีมากที่สุดอีกด้วย
ซึ่งหากดูข้อมูลจากทั่วโลกจะพบว่า จำนวนคนที่มีฐานะร่ำรวยเพิ่มขึ้น 13 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับจำนวนคนในปี 2560 โดยจะมีจำนวนคนที่มีฐานะร่ำรวยทั่วโลกรวม 250,000 คน และเมื่อรวมมูลค่าทรัพย์สินของคนกลุ่มนี้จะอยู่ที่ 31,500 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
คนร่ำรวยส่วนใหญ่จะมีมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ประมาณ 30-100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ประมาณ 2,700 คน หรือประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ในโลกทำรายได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยในปีที่ผ่านมาจะพบว่ามีคนที่รายได้สูงเป็นพิเศษที่เป็นผู้หญิงเกือบ 14 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมากสุดเป็นประวัติการณ์
ในภูมิภาคเอเชียมีจำนวนมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นผลมาจากการเพิ่มตัวของมหาเศรษฐีในฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ จากข้อมูลประมาณการปี 2560 พบว่า 7 คนในฮ่องกงจะพบว่าเป็นมหาเศรษฐี 1 คน และราคาทรัพย์สินในประเทศที่เพิ่มขึ้นก็สะท้อนถึงความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นของผู้อยู่อาศัยด้วยเช่นกัน
สถิติของอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกงทำลายสถิติเดิมในช่วงปีที่ผ่านมา โดยในเดือนพฤศจิกายน 2560 มีอพาร์ทเมนท์ที่แพงที่สุดในเอเชีย มียอดขายรวมกันอยู่ที่ 149 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ราคาที่จอดรถส่วนบุคคลในฮ่องกงมีราคาอยู่ที่ 430,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับราคาเกือบสองเท่า
ขณะนี้ฮ่องกงกำลังประสบปัญหาวิกฤตที่อยู่อาศัย ต้องมีการจัดสรรพื้นที่เพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับอยู่อาศัยอีกด้วย
อ้างอิงข้อมูลจาก Business Insider
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด